"เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน" คือ วลีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี พูดตลอดชีวิตการ "รับใช้ชาติ" ส่งผ่านถึงคนสงขลาที่ยึดคำพูดนี้ในการดำเนินชีวิต
HatyaiFocus พาทุกคนมาเปิดประวัติป๋าเปรม หรือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ห้วงเวลากว่า 97 ปี กับการทำงานหนักเพื่อแผ่นดิน ป๋าเปรม เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 ที่ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นบุตรคนที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน จากครอบครัวพัสดีเรือนจำจังหวัดสงขลา
พลเอกเปรม ซ้ายมือ
วัยเด็ก ความภูมิใจลูกน้ำเงิน - ขาว
พลเอกเปรม เริ่มต้นชีวิตการเรียนที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ ตั้งแต่ ป.1 - ม.6 ตลอดระยะเวลา 12 ปี ทำให้ท่านผูกพันกับโรงเรียนแห่งนี้มาก ทุกครั้งที่มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดสงขลา ท่านจะระลึกถึงสถานที่อยู่สองแห่ง แห่งแรกคือวัดดอนรัก ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด อีกแห่งหนึ่งก็คือโรงเรียนมหาวชิราวุธนั่นเอง
6 พี่น้องติณสูลานนท์
พลเอกเปรม เคยกล่าวถึงความรู้สึกต่อโรงเรียนแห่งนี้ว่า “ตั้งแต่เราเป็นเด็ก ๆ ได้อาศัยเรียนหนังสืออยู่ที่นี่ ได้อาศัยบุญคุณของครูที่สอนหนังสือให้เราจนเติบโตขึ้นมา สามารถมีความรู้ไปประกอบอาชีพได้ เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงบุญคุณของโรงเรียนมหาฯ ที่มีอยู่แล้วก็ใหญ่หลวงมาก เกินที่จะบรรยายให้ทราบได้ว่ามีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร รู้อย่างเดียวว่าถ้าไม่มีโรงเรียนมหาฯ แล้ว เราก็อาจจะไม่เป็นคนอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ หรืออาจจะเป็นคนที่ไม่ดี เป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม เป็นคนที่น่ารังเกียจ แต่เมื่อโรงเรียนมหาฯ ได้ปั้นให้เป็นคนดี และสามารถมีความรู้ สามารถประกอบอาชีพได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีปัญหาที่เราจะถือว่า โรงเรียนนี้ คือ พ่อแม่ทางวิชาการของเราตั้งแต่เกิดมา”
ภาพลูกเสือเปรม ติณสูลานนท์ (แถวหน้าสุด คนที่ 2 จากซ้าย) กับเพื่อนโรงเรียนมหาวชิราวุธ
เริ่มชีวิตวัยรุ่น เข้ากรุงเทพฯ
บิดาของพลเอกเปรม ให้ความสำคัญกับการศึกษา เพราะเห็นแก่ความก้าวหน้าในชีวิตต้องยอมขายทรัพย์สินเพื่อแลกกับโอกาสที่ดีในชีวิตของลูกชาย พลเอกเปรมจึงต้องจากสงขลา ขึ้นรถไฟจากสถานีหาดใหญ่ไปพร้อมพี่ชุบ (พี่ชายคนโต) นับว่าเก่งไม่น้อยเพราะท่านสามารถเข้าเรียน ม.7 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แต่การใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ ไม่ได้สวยหรูนัก ชีวิตที่กรุงเทพฯ ของท่านค่อนข้างลำบาก พ่อส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 10 บาทเท่านั้น
นักเรียนนายร้อยเปรม ติณสูลานนท์
ความใฝ่ฝันของท่านคืออยากเป็นหมอ แต่การเรียนแพทย์ต้องใช้เงินเยอะ เพื่อนจึงแนะนำให้เข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (สมัยนั้นเรียกว่าโรงเรียนเท็กนิคทหารบก) ขณะที่ท่านอายุเพียง 21 ปี เกิดสงครามอินโดจีน (พ.ศ.2484) ท่านได้รับคำสั่งให้เดินทางเข้าปอยเปต ถือเป็นแนวหน้าด้านการรบ ได้รับการติดดาวและรับกระบี่กลางสนามรบ
ชีวิตนายทหาร
หลังจากนั้นท่านได้รับการติดยศเป็น ร้อยตรีเปรม ติณสูลนนท์ รบอยู่นาน 4 ปี หลังจากนั้นท่านได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จจนท่านก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดในเหล่าทหารม้าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ด้วยวัย 48 ปี
ตำนานเพื่อนรักไม่มีชนชั้น
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่อง ลุงข้วย คุณลุงขับสามล้อ ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นกับพลเอกเปรมตั้งแต่เด็ก เพราะบ้านอยู่ติดกันจึงลอดรั้วมาเล่นกันทุกวัน ลุงข้วยเล่าให้ฟังว่า หลังจาก พล.อ.เปรม ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มักจะลงมาปฏิบัติภารกิจที่สงขลาบ่อย ๆ ตนคิดว่า พล.อ.เปรมคงจำไม่ได้แล้ว เพราะจากกันเป็นเวลาหลายปี ลุงข้วย เล่าว่า ระหว่างไปยืนรอรับ พลเอกเปรม ทำตัวอย่างชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เมื่อท่านเดินผ่านมาและเห็นก็รีบตรงเข้ามาหา พร้อมกับทักทายด้วยภาษาถิ่นใต้และใช้คำเดิม ๆ ที่เคยพูดคุยกันเหมือนสมัยยังเด็ก ๆ
ก้าวสู่ทำเนียบรัฐบาล
หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก วันหนึ่งหลังการรัฐประหารในปี 2520 พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรี เรียกไปพบและบอกว่าจะแต่งตั้งให้เป็น รมช.มหาดไทย ปีถัดมาก้าวขึ้นไปเป็น ผบ.ทบ. และในปี 2523 เขาขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในทางการเมือง บนเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี ถึง 3 สมัย ตลอดเวลาการดำรงตำแหน่งนี้วันสุดท้ายที่ทำเนียบรัฐบาล สื่อมวลชนทุกแขนงกล่าวยกย่องพลเอกเปรม ว่าเป็นผู้ที่มีแต่ความซื่อสัตย์สุจริต
สู่ตำแหน่งองคมนตรีและรัฐบุรุษ
หลังพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เริ่มรับราชการทหาร จนถึงตำแหน่งสูงสุดคือผู้บัญชาการทหารบก ก้าวสู่ชีวิตทางการเมืองเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นนายกรัฐมนตรียาวนานถึง 8 ปี 5 เดือน ได้ฝ่าฟันมรสุมทางการเมืองและต่อสู้กับความยากจนในชนบท ท่านกลายเป็นบุคคลของแผ่นดิน วันที่ 23 สิงหาคม 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอกเปรม เป็นองคมนตรี ต่อมาในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ประกาศยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษของคนทั่วประเทศ
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : เรารัก "ป๋า" พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ , ratthaburut , payakorn
เขียนและเรียบเรียง : HatyaiFocus
ข้าวดอกราย อาหารพื้นบ้านของคนสะกอมสมัยเริ่มก่อตั้งชุมชน
17 สิงหาคม 2568 | 119ย้อนภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต...วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา
17 สิงหาคม 2568 | 1,336"สะพานประวัติศาสตร์ ๓ พ.ศ." สะพานโค้งแห่งแรกของเส้นทางสายพัทลุง-ตรัง
17 สิงหาคม 2568 | 187พาชมกำแพงเมืองพัทลุงเขาชัยบุรี กำแพงเมืองก่ออิฐหนึ่งเดียวใน จ.พัทลุง
10 สิงหาคม 2568 | 297ศาลเจ้าแป๊ะกงสะเดา ที่พึ่งพายามยากของชาวจีนอพยพ
10 สิงหาคม 2568 | 322ขอพรพ่อเฒ่านอน พระพุทธไสยาสน์คู่เมืองสทิงพระแต่โบราณ
10 สิงหาคม 2568 | 319รอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง ณ หาดมหาราช (สทิงพระ)
3 สิงหาคม 2568 | 532ตำนาน 5 ภูผาแห่งอำเภอรัตภูมิ สู่การผูกคำกลอนมุขปาฐะ อายุนับ 100 ปี
3 สิงหาคม 2568 | 383