หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ห่างจากชายทะเลสงขลาเพียงเล็กน้อย คือ สถานที่ซ่อนเร้นเนินเขาเล็กๆ ที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นเกาะกลางน้ำมาก่อน

หลังจากเดินทางไปเที่ยว "หาดบ่ออิฐ" หาดอันแสนสงบ สถานที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนภายนอกรู้จักเท่าไหร่นัก ก็เตรียมเดินทางเข้าตัวเมืองสงขลา เปิดแผนที่ในโทรศัพท์เพื่อหาเส้นทางลัดไปตัวเมือง เผลอไปเห็นชื่อวัดแห่งหนึ่ง นามว่า "วัดเกาะถ้ำ" โดยวัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัด ที่ตัวเราเคยค้นพบในอินเตอร์เน็ต และเคยล่วงรู้มาว่าเป็นวัดที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา คำถามที่อยู่ในหัวตอนนี้คือ "วัดแห่งนี้จะมีอะไรน่าสนใจหรือไม่" "ไม่เห็นภูเขาสักลูก" "จะไปดีไหม?" สรุปแล้วคือตั้ง GPS ใหม่ เพื่อยังวัดโบราณแห่งนี้ เพื่อไปพิสูจน์ว่าวัดแห่งนี้จะโบราณสมคำร่ำลือหรือไม่

จากการศึกษาประวัติศาสตร์และคำบอกเล่าเกี่ยวกับวัดเกาะถ้ำ พบว่า "วัดเกาะถ้ำ" ได้มีการสร้างขึ้นเป็นวัดในปี พ.ศ.2357 ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชสมัยของ "พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย" (รัชกาลที่ 2) สมัยก่อนวัดตั้งอยู่ในพื้นที่ราบใช้ชื่อว่า "วัดสะพานยาว" และเมื่อคราวที่เมืองสงขลาถูกข้าศึกยกทัพมาบุกโจมตี ณ บริเวณเกาะถ้ำแห่งนี้ ได้กลายมาเป็นสถานที่ที่ใช้ในการยกทัพมาต่อสู้กัน และมีการใช้กลอุบายทำให้ข้าศึกต้องถอยทัพกลับไปในที่สุด ส่งผลให้สงขลามีชัยเหนือข้าศึก หลังจากได้รับชัยชนะจากการสู้รบ เมืองสงขลาก็ปลอดจากศึกสงคราม การค้าขายกับชาวต่างชาติก็มีความรุ่งเรือง พระยาวิเชียรคีรี (บุญสัง) เจ้าเมืองสงขลา ณ ขณะนั้น ได้มีการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองลงบนหิน และประดิษฐานไว้บนยอดเขา แล้วได้มีการย้ายวัดสะพานยาวจากพื้นที่ราบ ไปสร้างใหม่บนภูเขา เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดเกาะถ้ำ" ตราบจนทุกวันนี้

มีเรื่องเล่าว่า...บริเวณวัดในสมัยก่อนมีสภาพเป็นเกาะกลางน้ำ เวลาชาวบ้านจะมาทำบุญที่วัด ต้องพายเรือมาเท่านั้น และบนเกาะนี้ยังมีถ้ำใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ทำการเข้ายึดเมืองสงขลา ชาวบ้านได้พากันหลบหนีมาอาศัยยังถ้ำแห่งนี้ อีกทั้งยังปรากฏหลักฐานเป็นปืนใหญ่ที่ใช้ยิงสู้รบกับทหารญี่ปุ่น โดยมีการค้นพบโบราณวัตถุมากมาย อาทิ ปืนใหญ่โบราณ 1 กระบอก และบัวเก็บอัฐิของอดีตเจ้าอาวาส 3 รุ่น

เราเริ่มเดินทางตาม GPS จนพบกับเนินเขาเล็กๆ อยู่ไม่ห่างจากชายทะเลเท่าไหร่นัก เป็นเนินเขาที่ต้นไม้ปกคลุมอยู่ค่อนข้างหนาทึบ บริเวณข้างๆ เป็นโรงเรียนวัดเกาะถ้ำ (สร้างเมื่อ พ.ศ.2465) เราเวียนรถอยู่รอบๆ วัดแห่่งนี้ 2-3 รอบ เพื่อหาทางเข้าวัด พินิจพิเคราะห์แล้วว่าน่าจะไม่มีทางให้รถขึ้นแน่ๆ จึงทำการลงเดิน และพบกับบันไดทางขึ้นในที่สุด (ทราบภายหลังว่า เป็นพื้นที่บริเวณหลังวัด)

สภาพบันไดมีสภาพเก่าและค่อนข้างทรุดโทรมพอประมาณ

เบื้องหน้าคืออุโบสถวัด บรรยากาศดูร่มรื่น แต่เงียบสงัดจนชวนขนลุก

ระหว่างทางเดินขึ้นไปยังวัด สังเกตเห็นพระพุทธรูปปางต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณโดยรอบ

เดินขึ้นมาหยุดตรงบริเวณหน้าอุโบสถ ว่ากันว่าอุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นบนก้อนหินขนาดใหญ่ ที่เชื่อว่าเคยจมอยู่ใต้ทะเลเมื่อนานมาแล้ว อุโบสถมีลักษณะคล้ายกับโบสถ์กลางน้ำ บานประตูมีการแกะสลักลวดลายสวยงาม เป็นศิลปะที่ดูเรียบง่ายแต่ดูมีมนต์ขลัง (อาจเป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบก็เป็นได้)

เงียบสงัดและวังเวง เหมาะสำหรับคนที่ชอบศึกษาโบราณสถาน

ด้านหลังอุโบสถปรากฏหอระฆังเก่าแก่ตั้งอยู่บนผาหิน น่าจะไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว

เหนือหอระฆังเก่าขึ้นไปพบสถูปโบราณ มีรากไม้ขึ้นปกคลุมตัวสถูป คาดว่าน่าจะเป็นรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งเจ้าเมืองสงขลาได้สร้างเอาไว้ ก่อนจะย้ายวัดขึ้นมาบนภูเขา

หอระฆังหลังใหม่ ท่ามกลางเมกไม้และธรรมชาติอันร่มรื่น

เดินลงมาจากอุโบสถก็พบกับศาสนสถานโบราณภายในวัด โดยเป็นอาคารที่มีศิลปะโบราณออกแนวยุโรปหน่อยๆ เราไม่ทราบเลยว่าเป็นอาคารที่ใช้สำหรับทำอะไร รู้เพียงแต่ว่าถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หน้าอาคารหลังนี้ มีต้นกระบองเพชรขึ้นสูงระดับหัว

เก่าจริงอะไรจริง

 บานประตูหน้าต่างเก่าๆ เนื่อไม้เริ่มผุไปตามกาลเวลา

สำหรับเรานะ เรามองมองว่ามันงดงามและมีมนต์สะกด

 เหมาะสมแล้วที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน แต่น่าจะมีการบูรณะให้ดูดีกว่านี้

อยากรู้ว่าข้างในมีอะไร ?

เปิดปุ๊บ...ถึงกับผงะ ภายในอาคารโบราณอันเก่าแก่ ได้เก็บโกศบรรจุอัฐิโบราณและซากรูปปั้นพระ ตั้งกระจัดกระจายเรี่ยราดอยู่บนพื้นมากมาย เราเดินถอยหลังและรีบปิดประตูโดยทันที เรารู้แล้วว่าอาคารนี้ใช้เก็บอะไร มันเป็นสถานที่ใช้เก็บของเก่า และโกศเก็บกระดูกไร้ญาตินั่นเอง

เดินมาบริเวณข้างๆ อาคารหลังเก่า ก็พบกับประตูทางเข้าถ้ำ แต่ถูกล็อคแม่กุญแจเอาไว้

เดินลงมาจากอาคารหลังเก่าก็พบกับ พระพุทธรูปปางไสยยาศน์

บริเวณนี้น่าจะเป็นบัวเก็บอัฐิเจ้าอาวาส ตั้งอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่

เดินอยู่ในวัดตั้งนาน ยังไม่พบพระสงฆ์และชาวบ้าน หรือนักท่องเที่ยวเลยสักคน

พบสถูปโบราณอีกองค์ ตั้งอยู่บนยอดโขดหิน

เดินลงจนพบกับลานจอดรถที่เราตามหาในที่สุด สรุปแล้วการได้แวะมาเที่ยวชม "วัดเกาะถ้ำ" วัดโบราณเก่าแก่อีกแห่งของจังหวัดสงขลา ถือได้ว่าประทับใจในความเก่าแก่ รวมไปถึงศิลปะของโบราณสถานและโบราณวัตถุ ที่มีอยู่มากมายภายในบริเวณวัด เป็นวัดที่ดูค่อนข้าง Real มากๆ แม้ว่าจะแอบขนลุกเล็กน้อยก็ตาม เดินจนจะกลับก็ยังไม่พบใครเลย แต่เชื่อเถอะว่า...วัดแห่งนี้เป็นวัดอีกแห่ง ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ควรเดินทางมาชื่นชมและศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

แผนที่วัดเกาะถ้ำ