หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

ตำนานนางผมหอม นางไม้ผู้จิตใจดี แห่งต.อุเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
7 เมษายน 2567 | 5,652

ปราสาทนางผมหอม เป็นโบราณสถาน ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ บริเวณปราสาทนางผมหอมเป็นอุทยาน ที่ร่มรื่น สวยงาม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในละแวกนี้ อยู่ในเขตตำบลพิเทน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 52 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 410 (ปัตตานี-ยะลา) ถึงหลัก ก.ม. ที่ 15 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4061 ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงอำเภอมายอ แล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4092 ถึงหลัก ก.ม. ที่ 12 แยกเข้าเส้นทางสายมายอ-โต๊ะชูด เป็นทางลูกรังระยะทางอีกประมาณ 11 กิโลเมตร ก็ถึงวนอุทยานปราสาทนางผมหอม ในวนอุทยานมีน้ำตกลักษณะไม่สูงนัก มีลำธารยาวประมาณ 3 กิโลเมตร มีน้ำมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม


โดยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางผมหอมว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สยามได้ยกทัพมารวมพลกับทัพนครศรีธรรมราช เพื่อตีอาณาจักรปัตตานี ระหว่างรอทำศึก ปรากฏว่า ช้างศึกสำคัญ (ว่ากันว่าเป็นช้างเผือก) ได้หายเข้าป่าไป ซึ่งช้างนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ 7 พี่น้อง ประกอบด้วย เณร พี่ชายคนโต น้องชายอีก 5 คือ แก้ว อ่อน มอน เภา จันทอน และน้องสาวอีก 1 ไม่ทราบชื่อ

7 พี่น้องนี้เป็นคนจามอพยพจากกัมพูชามาอยู่ที่บ้านลุมพลี อยุธยา ทุกคนมีความชำนาญในการเลี้ยงช้าง จับช้างป่ามาฝึกให้เชื่อง เมื่อเกิดสงคราม ก็รับหน้าที่เป็นควาญช้าง ในกรมอาสาจาม กองทัพสยาม เมื่อช้างในการดูแลหลุดเข้าป่า ทั้ง 7 พี่น้องจึงออกตามหา แต่ก็ไม่เจอ กระทั่งมาถึงป่าบริเวณเชิงเขาโต๊ะชุด (อ.ทุ่งยางแดง) พี่เณรจึงบอกน้องๆ ว่า ไม่ตามต่อแล้ว ครั้นจะกลับไปยังกองทัพก็ไม่ได้ เพราะอาญาโทษถึงประหาร จึงตัดสินใจตั้งหลักปักฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้ โดย ต.พิเทน เชื่อกันว่า น่าจะเพี้ยนมาจาก พี่เณร 

ส่วนความเกี่ยวข้องของปราสาทนางผมหอมนั้น  มีเรื่องเล่าว่า พี่เณรมีพี่น้อง 7 คน น้องสาวคนสุดท้องชื่อ ผมหอม วันที่ช้างหายนั้น พี่เณรนำช้างไปอาบน้ำ โดยมีนางผมหอมขี่คออยู่ ตามคำบอกนี้จึงหมายความว่า นางผมหอม คือ น้องสาวคนสุดท้องของพี่เณร ซึ่งเมื่อพี่ชายตัดสินใจลงหลักปักฐานแล้ว ตัวเองก็เลยสร้างที่อยู่บนเขาโต๊ะชุดด้วย ซึ่งก็คือปราสาทนางผมหอมนั่นเอง      

ส่วนเรื่องเล่าของนางผมหอม มีหลากหลายเรื่องราวด้วยกัน บ้างก็ว่าเป็นหญิงสาวรูปงามมักปรากฎกายให้เห็นเมื่อมีผู้คนเข้าไปภายในอุทยานปราสาทนางผมหอม หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางผมหอมว่าเป็นผีนางไม้ เวลาเข้าป่าจะได้กลิ่นหอม และหากใครทักว่าหอม จะถูกพรางตาและหลงป่าทันที 

คุณ Anusorn Srikhamkhwan นักเขียนบล็อกเกอร์ท่านหนึ่ง ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับตำนานผมนางหอมไว้ว่า เมื่อทราบว่า ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง มีตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับนางผมหอม จึงไม่รีรอที่จะไปสำรวจ ตนและเพื่อนๆ ทีมงานสืบหาตำแหน่งทางเข้าปราสาทนางผมหอม และมั่นใจว่าใกล้ๆ นั้นน่าจะใช่ แต่เมื่อถามหญิงชราบ้านใกล้ๆ นางกลับบอกว่าไม่รู้จัก เมื่อถอดใจกำลังจะกลับก็ได้เจอพี่ผู้ชายใจดีท่านหนึ่งอาสานำทางให้ จากป้ายปราสาทนางผมหอม ต้องเดินผ่านสวนยางโล่งเตียนไปเรื่อยๆ ผ่านลำธารเล็กๆ บ่อน้ำโบราณ

สักครู่ก็ถึงทางเข้าส่วนที่เป็นอุทยานปราสาทนางผมหอม จากสวนยางโล่งเตียน สว่าง ทันทีที่ก้าวเข้าเขตอุทยาน บรรยากาศกลับครึ้มไปในบัดดล และกลิ่นหอมก็โชยมา ขณะเดิน ดอกชบาสีแดงหล่นจากเบื้องสูงตกลงเบื้องหน้า  ตนใช้เวลาเดินอยู่นาน ยิ่งเดินยิ่งมืด จึงตกลงกับเพื่อนว่าจะไม่ไปต่อ กลัวกลับออกมาไม่ทัน และเมื่อเราตกลงว่าจะกลับ พลันได้ยินเสียง"กู่ วู้ๆ" จากช่างภาพ 2 คน คนนำทางห้ามไม่ให้เราตะโกนรับ เขาบอกว่า รอให้กู่ครบ 3 ครั้งก่อน เพราะนั่นหมายถึงเสียงคน หากต่ำกว่านี้ ไม่ใช่คน เดชะบุญเสียงกู่มี 3 ครั้ง เรารีบขานรับทันที แล้วรีบจ้ำออกมา

จากที่ฟ้าครึ้ม เมื่อเราก้าวออกมาจากเขตอุทยาน กลับสว่างโล่ง อย่างกะคนละมิติ ช่างภาพทั้ง 2 คน ยืนรออยู่ทางออกพอดี เมื่อเขาเจอเราเขาบอกให้รีบกลับ บอกมีธุระ เราก็งงๆ เพราะตอนมา เขาบอกว่าง เมื่อเราออกมาจากพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จึงได้รู้ว่า ทำไมช่างภาพจึงเร่งให้กลับนัก คนที่ 1 เล่าว่า เขากับอีกคนแยกทางกัน มัวแต่ถ่ายภาพ เมื่อละสายตาจากช่องมองภาพของกล้อง ปรากฏว่า ไม่มีใครอยู่แล้ว เขายืนงงอยู่ที่บ่อน้ำโบราณ พลันปรากฏหญิงสาวในชุดไทย สวยมาก ยิ้มให้ แล้วชี้มือไปยังทางเข้าเขตอุทยาน ส่วนช่างภาพคนที่ 2 บอกว่า เขาเดินเพลิน จนพบว่าตัวเองอยู่ในป่ารกแห่งหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงกระซิบบอกทาง เขาเดินตามเสียงอย่างงงๆ กระทั่งมาเจอกับอีกคนที่ปากทางเข้าเขตอุทยาน หากไม่ได้ยินเสียง หรือเห็นหญิงคนนั้น คงหลงทางไปแล้ว

เรื่องราวนี้เป็นที่ติดใจมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อไม่นานมานี้ตนมีโอกาสกลับไป ต.พิเทน อีกครั้ง ตนมีโอกาสไปพูดคุยกับหญิงชรา ที่บ้านอยู่ตรงข้ามทางเข้าปราสาทนางผมหอม หญิงชราเฉลยว่าที่บอกไม่รู้จัก เพราะไม่อยากให้เข้าไป หากเจอนางผมหอมน่ะไม่เป็นไรหรอก นางใจดี กลัวไปเจออย่างอื่นมากกว่า และก่อนหน้านี้ก็มีคณะพัฒนาเข้าไปหมายจะฟื้นฟูอุทยาน พวกเขาค้างแรมที่นั่น ปรากฏว่าเมื่อตกดึก กลับมีเสียงมโหรี ดนตรี อย่างครื้นเครง จนต้องย้ายออก และไม่มีใครเข้าไปพัฒนาอีก 

ขอบคุณภาพ/ข้อมูลบทความ
-มิวเซียมไทยแลนด์
-AnusornSrikhamkhwan (True id Creator )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง