หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

สำหรับคนที่ชอบดูหนังแต่ไม่เฉพาะเจาะจงต้องดูเฉพาะในโรงหนัง หรือชอบดูหนังเรื่องที่แตกต่างจากที่ฉายตามกระแส หาดใหญ่โฟกัสจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อตั้งเพจ เรื่องนี้ฉายเถอะ คนหาดใหญ่อยากดู คอมมูนิตี้ที่เปิดกว้างต้อนรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการจะดูหนังแบบที่ไม่มีฉายในโรง หรืออยากดูหนังที่แตกต่างและไม่เป็นหนังกระแสอย่างเดียว รวมทั้งการแลกเปลี่ยนบทสนทนาหลังการฉายหนังจบ รับรองว่านอกจากความรู้ ความเพลิดเพลิน ความสนุกสนาน แต่หนังจะทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ไปเห็นชีวิตของมนุษย์ในความเป็นจริงอย่างแน่นอน

ทำความรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อตั้งเพจ และจุดเริ่มต้นของเพจ เรื่องนี้ฉายเถอะคนหาดใหญ่อยากดู
ปัจจุบันเพจเรื่องนี้ฉายเถอะคนหาดใหญ่อยากดูจะมีพี่ต้น ผู้ก่อตั้งเพจซึ่งเป็นคนหาดใหญ่ ทำงานกทม. 6-7 ปีก่อนกลับมาอยู่ที่บ้าน อีกสองคนจากคนดูหนังกลายเป็นสมาชิกที่ช่วยกันดูแลเพจและการจัดฉายหนัง คือพี่นุ่นเป็นหมอฟัน และพี่โจ้ เป็นคนหาดใหญ่ คนทำขนมปังเป็นอาชีพหลัก

พี่ต้น : จุดเริ่มต้นของเพจ ตอนที่ทำงานอยู่กรุงเทพ มีกิจกรรมค่อนข้างหลากหลาย มีหนังให้เราเลือกดูหลายรูปแบบ สถานที่ฉายก็มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในโรงภาพยนตร์ในห้าง หรือโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ยังไม่รวมกิจกรรมด้านอื่นอีกทางด้านศิลปะ พอวันนึงต้องกลับมารับช่วงธุรกิจต่อจากที่บ้าน ก็ยังมีความคิดถึงสิ่งเหล่านั้น เลยตั้งคำถามว่าทำไมที่หาดใหญ่ไม่มีแบบที่กรุงเทพบ้าง ซึ่งส่วนตัวชอบดูหนัง บางเรื่องที่หาดใหญ่ไม่มีฉาย เกิดคำถามปัญหามันอยู่ตรงไหน จำนวนหนังหรือไม่ได้รับโอกาสในการเข้าฉายและการเข้าถึง คิดว่าเป็นความเลื่อมล้ำอย่างนึง สุดท้ายปัญหาอยู่ที่สายหนัง อย่างภาคใต้ยังผูกขาดกับสายหนัง ภาพยนตร์อยู่ที่เป็นโรงภาพยนตร์ จะมีกลุ่มคนที่คัดเลือกเฉพาะหนังที่ทำเงินมาฉาย ซึ่งก็จะมีหนังฉายไม่กี่เรื่อง และรอบหนังเรื่องนั้นก็จะเยอะมาก เราคิดว่าทำไมไม่มีพื้นที่ให้หนังเรื่องอื่นบ้าง เลยเป็นจุดที่เริ่มทำเพจ อยากให้คนมาอ่านแล้วเข้าใจเลยว่าจุดประสงค์ของการทำเพจคืออะไรเลยเป็นที่มาของเพจชื่อ เรื่องนี้ฉายเถอะ คนหาดใหญ่อยากดู

อยากหาคนในพื้นที่ที่มีความคิดเห็นและอยากดูหนังแบบเรา ซึ่งถ้ามีหนังเรื่องไหนฉาย เราก็จะเอามาโพสในเพจ เช่น หนังเรื่องนี้ไม่เข้าที่นี่ ถ้าใครอยากดูช่วยมาลงชื่อหรือกด like ความคิดเริ่มแรกคือจะเอาตัวเลขเหล่านี้ไปคุยกับโรงหนัง ว่ามีกลุ่มคนดูอยู่ให้เอาหนังเข้ามาฉายได้ไหม แต่พอดำเนินการไปจริงมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราคิด ด้วยโครงสร้างของธุรกิจที่มีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น ตอนแรกเรียกร้องให้เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาฉาย แรกๆก็สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่ไม่รู้ว่าสำเร็จเพราะเค้ามีแพลนที่จะเข้ามาอยู่แล้ว เข้าช้ากว่าปกติหน่อยหรือเปล่า

หลังจากทำเพจไปประมาณเดือนกว่าทางโรงหนังไม่ค่อยตอบรับเราเท่าไร ก่อนหน้านี้ตอนอยู่กรุงเทพมีโอกาสได้รู้จักทำงานร่วมกับ กลุ่มพี่ธิดา  Documentary Club เค้าผันตัวมาเป็นคนที่จัดซื้อหนังเข้ามาฉายในบ้านเรา ได้คุยกันว่าเราสนใจไหมที่จะเอาหนังมาฉายให้คนที่หาดใหญ่ได้ดูกัน ซึ่งขั้นตอนไม่ยุ่งยากขอแค่มีพื้นที่ฉายหนัง มีโปรเจคเตอร์ ตั้งราคาตั๋วแล้วก็หารกันคนละครึ่ง สถานที่ฉายหนังก็ไปเจอ Tuber Co-Working Space ที่มีห้องนึงที่ฉายหนังได้ ประมาณ 25-30 ที่นั่ง เกิดการฉายหนังครั้งแรกที่นี่เมื่อ 6-7 ปีก่อน คนให้ความสนใจเกินความคาดหวัง

หลังจากนั้นได้มีโอกาสรู้จักโจ้กับนุ่น เริ่มรู้จักกันในฐานะคนดูก่อน หลังจากนั้นก็ช่วยงานกันซื้อขายตั๋วเป็นทีมงานในเพจ ลักษณะของเพจไม่ได้ตายตัวอยู่ที่ว่าเรื่องไหนน่าสนใจ เหมือนเป็นกิจกรรมยามว่าง ในช่วง 7 ปี ก็มีเดือนที่ไม่ได้ฉายหนังเลยก็มี ส่วนใหญ่ตอนนั้นหนังจะอิงจากกรุงเทพ มีคอนเท้นต์เกี่ยวกับหนังใหม่ๆ มากกว่าการฉายหนัง

หลังจากทำเพจมาสักพัก จะมีผู้กำกับอิสระ ติดต่อมาอยากให้เอาหนังมาฉาย บางทีผู้กำกับเดินทางมาเอง หรือฝากแผ่นหนังมาให้เราฉาย ก็เริ่มรู้จักคนมากขึ้น มีไปฉายที่อื่นบ้าง เช่น ฉายหนังเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่ห้องสมุดที่ ม.อ. ฉายเรื่องเกี่ยวกับเสียงเราก็ไปฉายบนดาดฟ้า พอสักพักเราคิดว่าอยากมีที่ฉายประจำเป็นที่ของเราที่สามารถบริหารจัดการเองได้ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการหาพื้นที่

เราผ่านมาหลายอย่าง บางเรื่องก็ไม่มีคนดู มีอยู่ 2-3 คน เรื่องที่อยากดูมาก ต้องฉายในโรงเท่านั้น เราก็มีเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่ฉายหนัง ติดต่อโรง เจ้าของหนัง ทำให้เราได้ฉายบ้างบางเรื่อง เรามีจุดที่พร้อมจะขาดทุน เพื่อให้คนข้างนอกได้ดู และตัวเราเองก็ได้ดูด้วย พอทำไปได้ 2-3 เรื่อง เรารู้สึกว่าเหนื่อยที่ต้องติดต่อหลายส่วนเองทั้งหมด ต้องมาคุยใหม่ทุกรอบ

การดูหนังทำให้เราเปิดโลก และประสบการณ์ใหม่ในอีกรูปแบบ
พี่ต้น : ย้อนไปตอนวัยรุ่น เคยอยากอ่านหนังสือ แล้วเราอ่านไม่จบสักเล่ม เราต้องใช้เวลากับมันเยอะมาก เป็นคนอ่านหนังสือไม่เก่ง แต่ว่าเราอยากเปิดโลกเรา ก็เลยลองที่จะดูหนังแทน ก่อนหน้านี้เราดูหนังทั่วไปเพื่อความบันเทิง แล้วเราไปเจอหนังที่เป็นสารคดี นอกนั้นความบันเทิงเรายังได้ความรู้ ได้เห็นเรื่องราวของคน ในประเทศที่แตกต่างกันไป เราก็เลยมองว่าเราจะใช้หนังเป็นการเปิดประสบการณ์ในการเปิดโลก เราก็เลยอินกับหนัง เราอยากมอบปัญญาทางความรู้ให้คนที่นี่ในอีกรูปแบบนึงนอกจากการอ่านหนังสือ  

การเลือกหนังที่นำมาฉายในแต่ละเรื่อง
พี่ต้น : หลักในการเลือก เราจะเอาหนังที่เข้าฉายพร้อมกันกรุงเทพ หลังจากคนดูเค้าก็ไปแชร์ในทวิตเตอร์ว่าคนหาดใหญ่ก็ได้ดูเหมือนกัน เป็นการสร้างฟีตแบคที่ดีให้กับเราด้วย อีกวิธีการเลือกหนังคือเราโพสในเพจ ว่าถ้าเอาเรื่องนี้มาฉายมีใครอยากดูไหม แล้วก็มีคนแนะนำมาว่าอยากดูเรื่องนี้เรื่องนั้น

ความหมายหนังนอกกระแส
พี่ต้น : เราเคยตั้งคำถามเหมือนกันว่าคำว่า กระแส ใครเป็นคนกำหนด หรือกระแสมันถูกกำหนด หรือมันเป็นเพราะกระแสจริงๆ อาจจะเป็นเพราะค่ายนั้นเค้ามีงบโปรโมทหรือเปล่า อาจจะไม่ได้เกิดจากกระแสของคนดูเอง ความคิดของคนเลยอาจถูกจำกัดความว่าหนังกระแสคือ หนังที่เป็นค่ายใหญ่ หนังที่มีดาราดัง เรามองว่าอาจจะเป็นกระแสจัดตั้ง เลยไม่อยากเรียกว่าหนังที่เราเอามาฉายเป็นหนังนอกกระแส แต่เป็นหนังทางเลือกมากกว่า เป็นหนังอีกรูปแบบนึงที่ไม่ได้มีพื้นที่ให้เข้าฉาย

ต่อยอดจากเพจฉายหนัง สู่จุดเริ่มต้น Lorum Ipsum ร้านกาแฟและห้องฉายหนัง
พี่ต้น : หลังจากทำเพจและฉายหนังตามสถานที่อื่น มาประมาณ 4-5 ปี  ตอนนั้นเป็นการตัดสินใจก่อนช่วงโควิด ถ้าเราจะมี space สักที่นึง ถ้าไม่มีรายได้จากทางอื่นมาจัดการด้วยก็ไม่ได้ เราจึงเปิดร้าน Lorum Ipsum เป็นคาเฟ่ด้านล่าง และข้างบนจะเป็นห้องฉายหนัง อย่างน้อยคาเฟ่สามารถขายได้ทุกวัน แต่หนังที่เราฉายไม่สามารถฉายได้ทุกวัน ด้วยจำนวนและคนที่จะมาดูหนังก็ไม่ได้สะดวกมาทุกวัน เราเลือกที่จะฉายเฉพาะเสาร์-อาทิตย์

จากตอนแรกที่เป็นบ้านคนและเค้าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น จึงขอเช่าเป็นร้าน เราแทบจะไม่ได้ทำอะไรกับโครงสร้างเดิมเลย ด้วยความที่เจ้าของบ้านเป็นคนที่รักศิลปะอยู่แล้วด้วย อีกอย่างโลเคชั่นตรงนี้เราชอบด้วยความที่เป็นตึกเก่า มีเสน่ห์ในตัวห้องและพื้นที่ อยากทำให้แถวนี้กลับมาคึกคักเหมือนแต่ก่อน และอีกจุดนึงคือเราอยากทำ Space ที่มากกว่าคาเฟ่หรือพื้นที่ฉายหนัง

ความประทับใจของกลุ่มผู้ฉายหนัง
พี่ต้น : นอกจากการฉายหนัง เราจะมีนั่งพูดคุยกันหลังหนังฉายจบ แทบจะทุกเรื่อง อันนี้เป็นจุดนึงที่ที่อื่นไม่มี  แต่ละคนสามารถคอมเม้นท์ วิจารณ์หลากหลายความเห็นจากคนที่มีประสบการณ์มากในเรื่องนั้น มาแลกเปลี่ยนกัน อย่างเช่น เราเคยเอาอาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ที่ปัตตานีเดินทางมาให้ เพราะคนในพื้นที่เราไม่เหมือนกับคนกรุงเทพที่มีผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆเยอะ เราสามารถเชิญเค้ามาได้ แต่พอมาหาดใหญ่เชิญยาก และมีค่าใช้จ่ายเยอะทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ซึ่งเราไม่ได้มีบัตเจ็ตตรงนั้นมาก ถ้าต้องทำอย่างนี้ทุกเรื่องอาจจะไม่ไหวเรื่องค่าใช้จ่าย

เราเลยเอากลุ่มคนดู สร้างเนื้อหาคุยกัน ซึ่งคนดูแต่ละเรื่องก็จะมีหลายวัย หลายกลุ่ม แต่ละคนก็จะมีมุมมองในเรื่องนั้นแตกต่างกัน ก็มาแชร์และแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งหนังเราที่เป็นหนังทางเลือก บางเรื่องอาจจะมีความลึกในบางมิติ หรืออาจจะดูยาก ตีความเยอะ ก็จะอาศัยกลุ่มคนดูช่วยกันวิเคราะห์ มุมมองก็จะหลากหลายมาก ซึ่งเป็นส่วนที่เราประทับใจ

ตั้งแต่เราทำมา 6-7 ปี เพจเรื่องนี้ฉายเถอะคนหาดใหญ่อยากดู มันทำให้เกิด Out Put หลายอย่างมากที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น เริ่มมีหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆที่มาจากกรุงเทพ ที่อยากจะทำงานกับพื้นที่ อยากใช้ Space เราในการทำกิจกรรม ซึ่งกลุ่มคนดูในหาดใหญ่จะมีส่วนร่วมโต้ตอบ กล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งเรามานั่งคิดที่เราทำก็เป็นส่วนนึงในการสร้างคอมมูนิตี้ให้คนได้แสดงออกกันในเรื่องของการแชร์ความคิด แชร์ไอเดีย

ที่ประทับใจอีกอย่าง วงดูหนังน่าจะเป็นวงเดียวมั้งในตอนนี้ที่ทำให้เด็กและผู้ใหญ่มาอยู่ในเวทีและวงสนทนาเดียวกัน เด็กพูด ผู้ใหญ่ฟัง ผู้ใหญ่พูดเด็กฟัง เรื่อง Generation Gap ยุคนี้ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว จะเอาชุดความคิดเก่าที่เจอมาสอน เด็กตอนนี้เค้าก็จะไม่ฟัง ในขณะที่พอเด็กจะพูดบ้าง ผู้ใหญ่ก็จะมองว่าเดี๋ยวนี้เด็กก้าวร้าว ความคิดอะไรไม่รู้ไปไกล แต่ในเวทีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนและฟังกัน ไม่ได้มีอารมณ์

พี่นุ่น : จากคนที่ชอบดูหนัง จนเริ่มทำความรู้จักกันและกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมช่วยฉายหนัง จะช่วยในส่วนของการจัดการ ประทับใจที่ได้เห็นเพจและการฉายหนังรันจนถึงปัจจุบัน ประทับใจที่ทำให้แต่ละโปรเจคลุล่วง ประทับใจที่มีเพจนี้ขึ้นมาและยังคงฉายหนังต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ เพราะมันต้องมีคนเหมือนเราที่กลับมาหาดใหญ่ อยากจะเสพอยากจะดูหนังแบบนี้แล้วไม่รู้จะไปดูที่ไหน ดีใจที่มีเพจนี้ขึ้นมา

พี่โจ้ : หนังหลายเรื่องมันสร้างอิมแพคกับชีวิต ไม่ได้มีแค่ความบันเทิงดูแล้วจบ หยิบสิ่งนั้นมาปรับใช้ในชีวิต หรือคอยเตือนตัวเองเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ได้จากการทำตรงนี้ บางอย่างที่เราดูจากหนังยังไม่เข้าใจในจุดนั้นแต่พอได้มานั่งในวงสนทนา มีความจุดประเด็น เกิดการถกเถียง มีมุมมองจากหลายมุมทำให้ได้สิ่งเหล่านั้นมาตกผลึกกับชีวิตเหมือนกัน

มองปัจจุบันและอนาคตของเพจอย่างไร
พี่ต้น : ปัจจุบันตัวหนังเองถูก disrupt ในเรื่องโรงภาพยนตร์ ด้วยสตรีมมิ่งผ่าน Platform หรือ Application ดูหนังที่มีมากมาย มันทำให้หนังเยอะมากจนไม่รู้จะดูอะไร คนดูก็สามารถดูที่บ้านได้ เมื่อไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกมาดูข้างนอกบ้านเพียงไม่กี่ชั่วโมง ปัจจัยเหล่านี้อาจจะทำให้คนดูหนังนอกบ้านน้อยลง

เราก็เคยคิดเหมือนกันว่าเพจเราจะทำยังไงต่อ เพราะตอนแรกที่เราทำเพจ เราเริ่มจากคิดว่าคนยังเข้าถึงหนังเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ปัจจุบัน platform ทำให้คนเข้าถึงหนังได้มาก เรายังต้องทำอีกไหม ในเมื่อคนสามารถดูหนังที่บ้านได้ แต่จุดแตกต่างเพราะว่าเรามีวงคุยหลังจากฉายหนังจบ จุดนี้น่าจะจุดแข็ง เป็นสิ่งที่ดึงให้คนออกจากบ้านมาดูหนังที่เรา เพราะดูอยู่บ้าน ถ้าดูจบแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร หลายคนที่มาดูหนังกับเราเพราะอยากคุยหลังหนังจบ เพราะถ้าเราแค่ฉายหนังอย่างเดียวและจบ ตอนนี้เพจก็น่าจะปิดตัวแล้ว เพราะมันทับซ้อนกันกับการดูหนังที่บ้าน

ฝากถึงคนติดตามเพจ และคนที่อยากดูหนังกับเรา
พี่ต้น : หนังหลายเรื่องไม่ได้ทำเพื่อความเพลิดเพลินหรือสนุกสนาน แต่เป็นหนังที่ทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ไปเห็นชีวิตของมนุษย์ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่จะเป็นสารคดี พอเราได้ไปเห็นชีวิตของคนอื่นมันทำให้เราเกิดความเห็นอกเห็นใจผู้คนมากขึ้น สังคมในยุคนี้เป็นสังคมยุค Social เราจะเห็นชีวิตด้านดีของคนอื่นเยอะ บางทีเราเห็นมุมอื่นนอกจากนี้บาง มันทำให้เราได้รู้ว่ายังมีเพื่อนมนุษย์อีกหลายคนที่อาจจะลำบาก ทุกข์ยาก หรืออาจจะมีปัญหาเยอะกว่าเรา แต่เค้ายังต่อสู่ฝ่าฟันมาได้ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก คนรุ่นใหม่ เอาไปประยุกต์ใช้กันชีวิต ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองเปิดใจมาดูหนังที่นี่สักเรื่อง ลองอยู่พูดคุยกันหลังหนังจบ คิดว่าน่าจะได้อะไรมากกว่าดูหนังอยู่ที่บ้านแล้วก็จบไป

พี่นุ่น : ถ้าสนใจจะดูหนัง เราว่าไม่ต้องซีเรียสมาก เพราะบางคนเห็นว่าเป็นสารคดี ถึงขึ้นคำว่าสารคดีก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากขนาดนั้น อาจจะลองแวะมาดูไม่ต้องกดดันเยอะ ในวงสนทนาหลังหนังจบ บางทีเราอาจจะไม่ได้พูดแต่เป็นการฝึกฟังคนอื่นด้วย เราฟังคนอื่นว่าเค้าพูดว่าอย่างไร แล้ววันนึงเราอาจจะอยากพูดออกไป มันอาจจะมีอะไรที่เราไม่คาดคิด

พี่โจ้ : ขอฝากเพิ่มเติมในส่วนของ Space หากทางเราจัดงานอะไรยินดีให้ทุกคนเข้ามาดู ใครที่มีงานอะไรที่อยากสนุกกับ Space เราก็ยินดีเปิดรับ ทั้งงานศิลปะ งานสังคมที่ช่วยกันขับเคลื่อนให้เมือง หรือคนในพื้นที่ที่เป็นเชิงบวกก็ยินดีเข้ามาร่วมกันได้