หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

ทำความรู้จักกับคฤหาสน์ท่านขุนนิพัทธ์จีนนคร ต้นตระกูล “จิระนคร”
26 มิถุนายน 2565 | 8,549

เราเคยกล่าวถึงประวัติของ ท่านขุนนิพัทธ์จีนนคร  นายเจียกีซี หนึ่งในสี่ผู้สร้างเมืองหาดใหญ่ อันเป็นต้นตระกูล "จิระนคร" คหบดีผู้สร้างทางรถไฟเข้ามาในเมืองหาดใหญ่จนกลายเป็น "ชุมทางทอง"

วันนี้เราจึงจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับคฤหาสน์ท่านขุนนิพัทธ์จีนนคร  จากการบอกเล่าของลูกหลานดังนี้ คุณทวดหรือกุงไท้ของฉัน ต้นตระกูล “จิระนคร” “บ้านท่านขุน”คฤหาสน์ของคหบดีแห่งหาดใหญ่บริเวณอาณาเขตกว้างขวาง มีอายุเกือบ100ปีความงดงามรุ่งเรืองที่ไม่เคยลืมทุกอย่างยังคงเดิม มีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีฉันเกิดและโตที่นี่ อยู่ที่นี่จนออกเรือนแต่งงานหาดใหญ่คือบ้านเกิดของฉัน และฉันรักหาดใหญ่ ตระหนักรักในรากเหง้าของตัวเอง รูปหมู่เด็กๆ กับท่านขุนนวลจิรา จิระนคร เด็กผู้หญิง อายุ2ขวบ ยืนข้างซ้ายท่านขุน แนบตัวข้างเก้าอี้ท่าน เด็กที่ถือผ้าเช็ดหน้า(ขอของคุณแม่มาอันใหม่) และอยากผึ่งโชว์เพราะคิดว่ามันสวยสมควรโดนถ่ายรูป ความคิด ณ ตอนนั้น

หลังประตูไม้บานใหญ่พร้อมกลอนสลักแบบโบราณแห่งบ้านใหญ่อันแสนคุ้นเคยนั้น มีเรื่องราวแห่งความทรงจำความอบอุ่นมากมายหล่อหลอมฉันจนเติบโต

บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยต้อนรับพระยาพหลพลพยุหเสนา จอมพลถนอมกิตติขจร เจ้าพระยากัลยาณไมตรี ท่านเคยกล่าวถึงขุนนิพัทธ์จีนนครว่าเป็น my best friend ภาพถ่ายของเจ้าพระยากัลยาณไมตรีพร้อมลายมือประณีตสวยงามบรรจงลงท้ายด้วยลายเซ็นต์ที่สวยละเอียดซับซ้อนของท่านยังคงอยู่ที่บ้านใหญ่แห่งนี้

อีกทั้งเคยต้อนรับวีไอพีมากมาย ภาพท่านขุนนุ่งผ้าม่วงต้อนรับแขกเมืองมีให้เห็นในบ้านหลังนี้ รวมทั้งตุ๊กตาญี่ปุ่นของขวัญจากทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และเป็นบ้านที่มีรถยนต์คันแรกในหาดใหญ่ คุณพ่อ (ป่าป๋า)ของฉันท่านเป็นหลานชายคนโตและเป็นหลานคนโปรด มักจะช่วยท่านขุนทำงานเอกสารและขับรถคันนี้ให้ท่าน ส่วนกุงๆ หรือคุณปู่ของฉันท่านเป็นลูกชายคนโตของท่านขุน กุงๆเป็นคนรูปหล่อมากๆ และผ่อๆหรือคุณย่าของฉันเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูล

กุงๆฉันเคยทำfamily tree แห่งตระกูลเราติดไว้ที่บ้านใหญ่ และฉันคิดว่าควรจะปรับข้อมูลอีกสักครั้ง ขุนนิพัทธ์จีนนคร (เจียกีซี) ท่านเป็นคนห้าแผ่นดิน (ร.5-ร .9) ท่านจะตั้งชื่อให้ลูกหลานท่านทุกคน แบ่งเป็นรุ่นๆ ท่านเปนต้นตระกูลคือรุ่นที่1 บุตรของท่านหรือปู่ของฉันคือรุ่น2

และหลานท่านหรือพ่อของฉันคือรุ่น3 รุ่นนี้ ในชื่อจะมีคำว่าเต้ะ ทุกคน พ่อฉันท่านได้ตั้งชื่อให้ว่า เจียเต้ะยุ้น ส่วนเหลนของท่านหรือรุ่น4 คือรุ่นฉันเอง. รุ่นนี้ถ้าเปนชายชื่อจะลงท้าย ด้วยคำว่า ซิ่ว ทุกคน ถ้าเป็นหญิงทุกคนจะมีชื่อลงท้าย ด้วยคำว่า ยิน ท่านได้ตั้งชื่อให้ฉันว่า เจียฟู้ยินแปลว่า ผู้มีวาสนา มีความสุข สวย รวยเก่งและหอมราวดอกไม้

ประตูไม้โบราณของบ้านใหญ่ เป็นประตูที่สวยแปลก มีกลอนสลักแบบแปลกๆที่พวกเราชอบไปเล่น ดันเปิดปิด ประตูหนักมากต้องใช้แรงเด็กๆหลายคนลากเปิดปิดสนุกสนาน จนบัดนี้ประตูบานนั้นยังเหมือนเดิม ต่างกันตรงที่เพียงแค่ฉันคนเดียวก็ลากเปิดปิดมันได้สบายแล้ว

โดมหน้าบ้าน มีเก้าอี้หวาย ม้าหิน ไว้นั่งชุมนุมรวมญาติ อ่าน นสพ. คุยสังสรรค์ เราแก๊งเด็กๆ ก็เล่นเสียงดังหนุกหนานอบอุ่นมีความสุขชื่นบานใจ แม่ค้าหาบของมาขายกินกันเต็มที่ รวมทั้งทุกคนในบ้าน ส่วนขุนนิพัทธ์จะยืนยิ้มดูลูกหลานของท่านเล่นกันสนุกสนานพร้อมกับจ่ายเงินค่าขนมให้แม่ค้าตามที่เด็กๆและบริวารทุกคนไปสั่งมาทาน

ที่นี่จึงเป็นบ้านที่แม่ค้าหาบเร่หลายเจ้าเข้ามาบ่อยมากๆ ทั้งขนมจีน ขนมหวาน ขนมถ้วย ไก่กอแระ ไอติม น้ำตาลสดกระบอกไม้ไผ่และอื่นๆ สมัยนั้นจะมีการทำบุญบ้านบ่อยๆ ขนมจีนน้ำยาแกงเขียวหวานถาดผักอลังการอาหารพร้อมสรรพคือภาพที่เห็นบ่อยมาก และเปนบ้านที่เคยจัดงานปาร์ตี้เต้นรำบ่อยมากๆด้วย

มาวันนี้เช็งเม้ง เราก็ได้มาทำบุญเลี้ยงพระที่บ้านใหญ่อีกครั้ง ความรู้สึกดีๆท่วมท้นอีกครั้ง พระท่านแอบกระซิบว่า ดีใจได้มาทำพิธีที่บ้านนี้ เคยอ่านประวัติท่านขุนและประวัติตัวบ้าน อยากเห็นข้างในบ้านมากว่าเป็นยังไง มาวันนี้ได้มาแล้วดีใจมาก

คุณพ่อ (ป่ะป๋า)และคุณแม่(ม้าหมี่)ของฉันแต่งงานที่บ้านหลังนี้ คุณแม่ฉันเป็นมาเลเซียเชื้อสายจีน ท่านโอนสัญชาติมาเปนไทยตอนแต่งงาน ทั้ง2ท่านพบรักกันที่ปีนัง เพราะคุณพ่อไปเรียนที่ปีนัง รร มัธยมชาย จุงหลิง อันโด่งดังตามสมัยนิยมขณะนั้น งานแต่งงานท่านมีท่านขุนคุณทวดฉัน(กุงไท้)และภริยา (ผ่อไท้) เป็นประธานเจ้าภาพ งานยิ่งใหญ่อลังการเจ้าสาวสวยและเจ้าบ่าวหล่อ มีเปิดฟลอร์เต้นรำลีลาศ เพลงใครหนอ และเพลงรักคุณเข้าแล้วด้วย อันนี้คุณแม่เล่าให้ฟัง มีภาพถ่ายบ่าวสาวและท่านขุน ภริยา ญาติๆแขกเหรื่อถ่ายรูปหมู่หน้าบ้านใหญ่สวยงาม

และเป็นธรรมเนียมที่ญาติทุกคนต้องมาถ่ายรูปหน้าบ้านท่านขุนและภริยาเป็นที่ระลึกเวลามีงานมงคลสำคัญของบ้าน จนเป็นธรรมเนียมมาจนทุกวันนี้ บ้านนี้ที่หน้าบ้านตรงหน้ามุขจะปลูกโป้ยเซียนคู่สีแดงสดต้นใหญ่งามออกดอกดกมาก ทุกช่อมี8 ดอกทั้งหมด ซินแสบอกว่าแสดงความเป็นมงคล โป๊ยเซียนโบราณในโอ่งใบใหญ่สวยงามคู่นั้นอายุยืนมากๆอยู่ได้เป็น30 ปี แต่สมัยนั้นเปนต้นไม้ทันสมัย มาสมัยนี้เขานิยมดอกใหญ่ฟู ดอกแบบโบรานสูญพันธ์ไป

สมัยนั้นในตัวบ้านส่วนที่เป็นไม้จะทาสีด้วยสีเขียวอ่อน หลังบ้านนอกอาคาร ในส่วนปูนทาด้วยสีเหลือง ส่วนไม้ทาด้วยสีฟ้าเข้ม หน้าบ้านส่วนปูนทาสีขาว ตัวบ้านสีฟ้าอ่อนเขียวที่บ้านท่านขุนเวลามีหลานชายเกิดใหม่สืบสกุลจะมีธรรมเนียมเอาเต๊นหลุ่ง หรือโคมไฟสวยๆ มาประดับในบ้านตรงป้ายมงคลหน้าบ้านเรียงเป็นแถว พ่อของฉันเป็นหลานชายคนแรก จนบัดนี้เต๊นหลุ่งของท่านยังแขวนอยู่ที่ป้ายใหญ่ในบ้าน อย่างสง่างาม ฉันมาที่บ้านนี้ทุกครั้งก็จะมองมันด้วยความอบอุ่นภูมิใจ

บ้านเราจะมีครัวใหญ่ที่ทุกคนทุกครอบครัวต้องทานข้าวด้วยกันพร้อมกัน มีคนงานบริวารทำกับข้าว เราจะโม่แป้งเองด้วยเครื่องโม่โบราณที่ต้องใส่น้ำหล่อในหลุมของเครื่องที่โม่เพื่อบดข้าวให้ได้แป้งในโรงโม่แป้ง ท่านจะให้ทำอาหารเลี้ยงทุกคนทุกครอบคร้ว ท่านจะสร้างบ้านหลายๆหลังในเขตรอบบ้านท่านให้ลูกหลานทุกครอบครัวอยู่รวมกันใกล้ๆท่านในอาณาเขตรั้วของบ้านใหญ่ จึงเป็นครอบครัวขนาดใหญ่มากมีสมาชิกครอบครัวเยอะญาติเยอะแต่อบอุ่นสนิทสนมสนุกสนาน ในครัวใหญ่จะมีเตาฟืนแบบก่อปูนขนาดใหญ่มากๆ เชื่อมกันหลายเตาเวลาจุดฟืนจะต้องมีบ้องเหล็กคล้ายขลุ่ยปี่ให้แม่ครัวนั่งยองๆเป่าบ้องปี่เหล็กนั้นพ่นลมไปพรวดๆเป็นจังหวะให้ไฟกระพืออย่างชำนาญ

ตู้กับข้าวขนาดใหญ่หลายตู้ ห้องเสบียงสต้อกอาหารแห้ง อย่างใหญ่ข้างเตาไฟที้ฉันเดินตามแม่เข้าไปหยิบไข่ไก่บ่อยๆ มีโอ่งน้ำในครัวขนาดใหญ่ บ่อน้ำบาดาลส่วนตัว อ่างเก็บน้ำ กะทะใบยักษ์ ฝาชีเหล็กทึบใบใหญ่ยักษ์สำหรับนึ่งอาหารในกะทะยักษ์ คนงานมากมาย คนสวน คนขับรถ ช่วยกันตามหน้าที่ ทุกคนแอคทีฟกระตือรือร้นแข็งขัน เมื่ออาหารพร้อมแล้วจะต้องทานพร้อมหน้ากันทุกคน

โดยคนงานจะเคาะระฆัง ก้องกังวานได้ยินกันทุกบ้านของลูกหลานของท่าน มันคือสัญญาณที่ทุกคนต้องวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วรีบไปทานข้าวในครัวใหญ่พร้อมหน้ากัน ที่นี่จะทำอาหารสำหรับเด็กแยกเป็นพิเศษจากผู้ใหญ่ จานโปรดฉันคือ ลูกชิ้นผ่าซีกผัดซีอิ้วหวาน ทุกครั้งที่มีเมนูนี้ก็จะทานข้าวได้หลายจาน โต้ะอาหารกลมๆของเด็กขนาดใหญ่วางชิดโต้ะผู้ใหญ่ ทำด้วยไม้ ม้านั่งตัวยาวที่เด็กซนๆ หลายๆคนนั่งเรียงกันทานข้าวหนุกหนาน ครัวใหญ่ที่เราทุกคนใช้เวลาร่วมกันมาตลอดกินข้าวกันพร้อมหน้าและคุยสนิทสนม เป็นความทรงจำที่อบอุ่นมีความสุข เด็กๆอิ่มแล้วจะชวนกันไปเล่านิทานเล่นเกมส์วิ่งเล่นกันต่อสนุกสนาน

อันที่จริงความเจี้ยวจ้าวซุกซนของเหล่าเด็กๆลูกหลานของท่านขุนในบ้านใหญ่นั้นั้นมีมาตั้งแต่เจน2-3 ยุคแรกๆ เด็กๆยุคนั้นจะวิ่งเล่นแข่งกันไม่อยากเป็นคนโหล่หลังเพื่อน มีกิจกรรมเล่นนุ่นนี่ด้วยกัน รุ่นนั้นเล่ากันว่าแก๊งคเด็กผู้ชายชอบกินไข่ดิบคิดว่าบำรุงกำลัง พอแม่ไก่ฟักไข่กระต้ากๆปุ๊บก็รีบวิ่งแข่งกันไปหยิบไข่ไก่สดๆร้อนๆกรอกเข้าปากกันเลย บางคนมีพรรคพวกเป็นเด็กโรงหนัง เอาเสบียงบ้านใหญ่ไปแจกเพื่อนๆ แถมเกโรงเรียน สุดท้ายท่านเลยส่งไปเรียนรร.วชิราวุธ รร.มหาดเล็กที่กทม.

วีรกรรมแต่ละรุ่นเปลี่ยรไปตามยุค แต่ก็ยังคงฮาเฮคล้ายกันจนมาถึงเจน3-4 ยุคหลังๆ คือยุควัยเยาว์ของฉันภาพความทรงจำแสนสุขยังชัดแจ้งจนทุกวันนี้ในบ้านใหญ่มีบันไดไม้คลาสสิคขึ้นบ้านไปชั้น2 สู่ห้องพระ และห้องบุตรี ส่วนบันไดไม้ขึ้นบ้านด้านหลังขึ้นไปสู่ห้องบุตรชายของท่าน โซนหลังชั้นบนปูด้วยพื้นไม้หวาย ข้างๆมีลานซักล้าง สมัยก่อนจะมีบริวารขนหาบน้ำขึ้นไปให้ลูกหลานอาบทุกวัน

ชั้นล่างเป็นบริษัทนิพัทธ์และบุตร บริษัทของท่านขุนที่ทำกิจการเหมืองแร่คือเหมืองลิวงศ์ ที่ อ.จะนะ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในนามสวิซเมืองไทย เป็นที่ท่องเที่ยวที้โด่งดังในตอนนี้ และอีกเหมืองคือเหมืองดินลานที่ อ บางกล่ำ เราไปเล่นที่เหมืองบ่อยๆสนุกมากๆตามประสาวัยเด็ก

ด้านล่างของบ้านตรงกลางเป็นแท่นบูชารูปและป้ายชื่อบรรพบุรุษ และรูปพ่อแม่ของท่าน (ฉันเรียกว่ากุงพัก ผ่อพัก) ข้างๆแท่นบูชามีตู้โชว์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของท่าน ด้านหน้ามีโต้ะและเก้าอี้คู่เปนไม้แกะสลักสีน้ำตาลเข้มเข้าชุดตัวใหญ่ๆหนักๆสวยๆลวดลายฝีมือชั้นเยี่ยมแบบจีนโบราณ โต้ะเก้าอี้เหล่านั้นยังคงวางที่เดิมจนทุกวันนี้ คุณทวดหรือกุงไท้ของฉันท่านมักจะนั่งดื่มน้ำชาที่นี่เป็นประจำตอนเช้า และท่านจะวางไม้เท้าไว้ข้างๆ

ภาพนี้ที่ฉันเห็นประจำสมัยวัยเด็กด้านหน้าบ้านชั้นล่าง เคยเป็นห้องพ่อแม่ท่านขุน ต่อมาเป็นที่ทำการบริษัทนิพัทธ์และบุตรจำกัด ข้างๆฝั่งตรงข้ามมีห้องที่เคยใช้เป็นห้องคลอดบุตรของภริยาท่านและถัดมาด้านในเป็นห้องท่านขุน เก้าอี้ม้าโยกตัวโปรดของท่านยังคงตั้งหน้าห้อง ไม้เท้าของท่านยังคงอยู่ที่เดิม เสียงไม้เท้าที่เคาะพื้นยามท่านเดิน ฉันยังจำได้ไม่ลืม ด้านหลังกลางบ้านเป็นห้องภริยา มีที่พับผ้าโบราณ คุณทวดหญิงมักนุ่งผ้าลายไทยโจงกระเบน ถุงเท้าขาวยาว คัทชูส้นสูงดำ

ข้างๆมีห้องคนงานเหล่าบริวารต่างๆ มีครัวส่วนตัว มีโถงหลังบ้าน และทางเชื่อมสู่ครัวใหญ่ หลังบ้านเป็นสวนกว้างใหญ่ มีสระว่ายน้ำ สวนสัตวเลี้ยงไก่ญี่ปุ่น นกหงส์หยกฝูงใหญ่ สีสันสดใส ร้องจิ้บจ้าบเซ็งแซ่รักสวยรักงามส่องกระจกจิ๋วๆทังวัน สะพานชมสวน ใต้สะพานเป็นลำธารเลี้ยงปลาทองรักเร่หลายคู่ รั้วไม้ซี่ประดับสวนทาสีแดงสลับขาวน้ำเงิน ชิงช้า เนินหญ้าม้านั่งตกแต่งนกกระสาคู่ ต้นไม้ดอกไม้ผลสารพัด ละมุด หรือลูกสวา น้อยหน่าโบราณมะม่วงเบา ชมพู่แก้ว ชมพู่มะเหมี่ยว ฝรั่งไทย มะขามหวาน ตะลิงปลิง กระท้อน หมากเม่า เงาะ พลับ ต้นพลับนี้เปนต้นที่ท่านเอามาจากเมืองจีนแคว้นกวางตุ้งกวางไสบ้านเกิดท่าน คนสวนปะคบปะหงมอย่างดี และมันก็เก่งมากอายุยืนออกลูกดกทุกปีที่ภาคใต้เมืองไทยหลังบ้านท่านขุนนี่เอง

รอบสวนมีรั้วเฮลิโคเนีย ซุ้มผกากรอง ไร่เยียบีร่า แวนด้า มีมุมสวนไม้น้ำ กกราชินี กกร่ม มีโอ่งบัวสาย ป่านอากาเว่ ลานสนามเด็กเล่น กระดานลื่น ชิงช้า และเรือนกล้วยไม้เรือนหน้าวัวกลางสวนมีศาลาชมสวน ในสวนมีทางปั่นจักรยาน ส่วนทางเดินคดเคี้ยยวชมสวนจะมีดอกบัวฝรั่งสีบานเย็นสวยงามตลอดริมทาง2ข้าง เด็กๆปีนต้นไม้คล่องแคล่ว ต้นไม้เจริญงอกงามสวยน่าชม น้าผลคนคลองแหเป็นคนสวน ส่วนลุงแม้นเป็นคนขับรถรับส่งลูกหลานท่านขุนไปรร.

ท่านขุนโปรดที่จะนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักโบรานหน้าป้ายชื่อบรรพบุรุษ ท่านจะดื่มรังนกร้อน และฉันมักจะเล่นอยู่แถวๆนั้นเดินไปเดินมาแถวนั้นบางทีก้อไปคลอเคลียท่าน เห็นขวดใส่น้ำตาลกรวดสวยๆสำหรับใส่รังนกที่โต้ะน้ำชาท่าน ฉันคิดว่ามันคือน้ำแข็งก้อน แม้คุณอาผู้ชายของฉัน(อาสุก)จะย้ำบอกว่าไม่ใช่น้ำแข็ง แต่ฉันก็ยังมั่นใจว่ามันคือน้ำแข็ง และร้องกวนจะเอา ท่านจึงบอกคนงานว่าให้หลานเค้าไป หลานเขาอยากได้ก็ให้เขา แม้ไม่ใช่น้ำแข็งก็ไม่เป็นไร ให้เขาได้หัดเรียนรู้ แล้วก็ยิ้ม ที่สุดฉันก็ได้น้ำตาลกรวดก้อนใหญ่มาดูด และแปลกใจว่าทำไมมันแห้งๆไม่เย็นไม่อร่อยเหมือนน้ำแข็งที่เคยกินเรย เดินดูดมาได้ไม่กี่ก้าว ไม่ทันถึงบ้านต้วเองก็เอาไปทิ้งไว้ที่ขอบโอ่งน้ำไม่เอาแล้ววางตรงนั้นเผื่อมันละลาย ได้ไหลลงโอ่งไปเลย ใจนึงก็นึกเสียดายที่น้ำแข็งอันนี้ไม่อร่อยเลยไม่เย็นสักนิด

ทุกปีวันตรุษจีน และวันเกิดท่าน เราจะมาสวัสดีปีใหม่กับท่าน และจะได้อั่งเปาคืออั่งเปาหนักมากเด็กๆ ชื่นบานรวยกันถ้วนหน้า และทุกคนจะถ่ายรูปหมู่รวมญาติร่วมกันกับท่าน เป็นที่ระลึกบ่อยๆ

เด็กๆชอบเล่นกันในบ้านใหญ่ ฉันชอบกระจกหลากสีแบบชิโนโปรตุกีสบนหน้าต่างคิดว่ามันสวยจัง ส่วนพื้นปูนที่ใช้เชือกดีดให้เป็นลายขณะปูนยังไม่แห้ง ฉันก้อชอบไปเล่นกระโดดข้ามช่องที่เปนลายพื้นปูน พื้นปูนเปลือยผสมสี หน้าต่างทรงโค้ง ช่องลมไม้ฉลุ ซุ้มประตูไม้โค้งฉลุลาย ลวดลายปูนปั้นช่องลมภายนอกอาคารลายบันได มันสวยทุกอย่าง

และยังชอบเล่น ปิดตาลักซ่อน (ซ่อนหา) หลังเก้าอี้โซฟาตรงบริเวณโถงห้องรับแขกหน้าบ้าน บางทีแอบหลังแจกันลายครามขนาดยักษ์ที่กำบังเด็กๆได้พอดี มีการนับ5,10,15...ครบร้อยอย่างรวดเร็ว ใครโดนหาเจอเสียงก็จะดังชุลมุน แจกันโบราณก็ล้มกระแทกพื้นกลิ้งหลุนๆหวิดแตกหลายครั้ง บางทีก็แอบหลังแท่นบูชา ใต้เก้าอี้ไม้แกะสลักโบราณ ตัวที่ท่านมักจะนั่งกับภริยาเสมอ

วันนั้นฉันคิดว่าบ้านใหญ่หลังนี้มันสวยมากๆเลย มาบัดนี้ก็ยังคงความสวยงดงามคลาสสิคเช่นเดิม และมีความแอนทีคเพิ่มขึ้น เหลือบดูในบ้านแผ่นป้ายไม้สำหรับแขวนกุญแจบ้านเช่าที่ถนนนิพทธ์อุทิศ3 หรือสายสามยังคงอยู่ที่เดิม สมัยนั้นท่านมีบ้านเช่าหลายหลังที่สายสาม

ในสมัยนั้นท่านเก็บค่าเช่าก่อนจะขายต่อให้ชาวบ้านไว้ค้าขายทำมาหากิน พร้อมๆกับท่านได้บริจาคที่ดินสร้างถนนที่สาย3 ถนนสายนั้นจึงได้ชื่อว่าถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านที่เป็นผู้บริจาคที่สร้างถนนและความเจริญซึ่งมีความเจริญมาทุกวันนี้

ความทรงจำอบอุ่นอันแสนอะเมซิ่งทุกอย่าง ที่ฉันได้เจอะเจอสัมผัส บ้านใหญ่ที่ได้อยู่อาศัยเติบโตคุ้นเคย รวมทั้งการได้ฟังเรื่องราวบอกเล่าจากญาติผู้ใหญ่ คนคุ้นเคยที่เล่าต่อๆกันมา เวลาอยากรู้อะไรถามญาติผู้ใหญ่ให้ท่านเล่าให้ฟัง เรามักชอบฟังนั่งคลอเคลียฟังอย่างตั้งใจ เป็นความทรงจำดีๆที่ไม่เคยลืม ทุกครั้งที่นึกถึงจะเป็นกำลังใจดีให้ตัวเองเสมอ และฉันจะบอกเล่าเพื่อส่งต่อความทรงจำดีๆนี้ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป

ขอบคุณภาพข้อมูลบทความ : Nualchira Chiranakorn Tantapakul

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง