จากสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบันที่มีอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มสูงอย่างมาก ทำให้คนเราต้องมีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ประชาชนต้องหันมาทำการค้าในรูปแบบใหม่เพื่อให้ตนเองสามารถประคองรายได้เพื่อเลี้ยงชีพไปได้ในแต่ละวัน เช่นเดียวกันกับ นายกิตติภูมิ บุญช่วย อายุ 25 ปี สาวประเภทสอง ที่หลังจากตกงานที่เคยจำอยู่ประจำในพื้นที่ภูเก็ต ก็ต้องย้ายกลับมายังสงขลาเพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ จากเดิมที่เคยทำงานตามผับบาร์
น้องได๋ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นคนที่เกิดในครอบครัวที่ลำบากมาก พูดง่ายๆเลยคือจนไม่ได้เรียนสูงเหมือนคนอื่น ตอนนั้นจบแค่ม.1 แล้วก็ต้องออกสุดท้ายตอนนี้ก้ยังเรียนอยู่เลยค่ะ แต่กำลังศึกษากศน.สงขลา ควบคู่กับการทำงานไป
สาวคนนี้ทั้งแกร่งและไม่เคยที่จะอายทำมาหากินถึงแม้จะร้อนก็จะอดทน เพื่อนำเงินตรงส่วนนี้มาใช้จ่ายและใช้ในการเล่าเรียนส่วนหนึ่ง ที่สำคัญอยากจะใช้สิ่งที่ตนชอบในการสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราให้แก่ผู้ที่ขับรถไปมา
เรามีแนวคิดของเรา แรงบันดาลมาจากอะไรคะ?
-เดิมทีตัวหนูเป็นคนชอบเต้นหรือเดินแบบอยู่แล้วค่ะ ก่อนหน้าที่จะมาทำตรงนี้ก็เคยทำงานในผับบาร์อยู่ที่ภูเก็ตนานกว่า 2 ปี แต่หลังจากนั้นสถานการณ์โควิดยังหนักเราเลยตัดสินใจกลับบ้านและต้องหาอะไรทำ จึงได้มาขายน้ำอยู่ตรงพื้นที่แยกเก้าเส้งตรงนี้ ตอนแรกที่หนูเดินขายพี่เชื่อไหมว่าขายแทบไม่ได้เลย หนูต้องมานั่งคิดปรับเปลี่ยนรูปแบบจนได้ออกมานั่นคือการเต้นที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาอย่างแน่นอน หลังจากนั้นขายดีมากเลย
เคยมีคนมาดูถูกหรือว่าเราไหม กับสิ่งที่เราทำ?
-เคยนะคะ ก่อนหน้าที่หนูมาทำแรกๆเคยมีคนขับรถมาจอดแล้วถุยน้ำลายลงพื้น พร้อมกับพูดออกว่าอีตุ๊ด ตอนนั้นเราก็ตกใจแต่ก็คิดแล้วว่าความคิดเขาเราห้ามไม่ได้ ใครจะว่าจะชมเราหรือยังไงเรายินดีนะ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้องสุจริตที่สำคัญเรียกรอยยิ้ม บางคนยกนิ้วให้หนูบอกเยี่ยม เปิดกระจกมาทักทายบอกสู้ๆ เราก็สนุกกับมันแล้วค่ะ ไม่จำเป็นเลยว่าจะได้ได้มากแค่ไหน เพราะเราก็ไม่ได้บังคับใครให้ซื้อ
เราพอใจในสิ่งที่เราทำมากน้อยแค่ไหน?
-ต้องบอกว่าพอใจและภูมิใจมากทุกคนในสังคมทำให้หนูมีจุดยืนในสังคม จากพื้นที่เล็กๆที่เรายืนอยู่ตอนนี้มีคนรู้จักหนูมาก จากการที่เขาเอาไปลงโซเซียลตรงนี้ก็ต้องขอบคุณทุกๆคนมากๆค่ะที่เอ็นดูหนู หนูก็จะทำให้ดีที่สุด ทำให้ทุกคนสนุกและจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะใจเรารักเรามีความสุขกับมันทุกวันมันเลยไม่เหนื่อย
ดีใจไหมที่เวลา มีคนมาชื่นชมเรา หรือให้กำลังใจให้เรา
-หนูดีใจจนพูดไม่ถูกเลยค่ะพี่ มีคนชื่นชอบในสิ่งที่เราทำ ทุกคนชื่นชม หนูต้องบอกเลยว่าจากที่หนูไม่มีอะไร ไม่มีคนรู้จักแต่จู่ๆก็มีคนรักคนชมเราขึ้นมา พอได้ยินแล้วมันใจฟู มีพี่ๆเข้ามาสนใจอยากจะทำความรู้จักกับเรา บางรายก็เหมาน้ำเราเลย จากที่ท้อมันก็ถอยไม่ได้ งานนี้เป็นงานที่ไม่น่าอายนะคะ แต่เป็นการนำสิ่งที่เรามีอยู่ในตัวออกมาโชว์เท่านั้นเลย
ทิ้งท้ายให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้อยู่หน่อย?
-ถึงคนที่ท้อทุกคนนะคะ ได๋ก็เคยโดนดูถูกมาสารพัด แต่เราก็เก็บเอาคำนั้นมาฮึบสู้และไม่เอามาเป็มปมด้อยในใจ ถึงเราจะเป็นสาวประเภทสองแต่เราก็สามารถยืนด้วยขาของตัวเองมีจุดยืนที่ชัดเจน และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ได๋พร้อมจะสู้กับทุกงานไม่ว่าจะอะไร มันทำให้ได๋ได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์ในชีวิต หากใครที่ท้อให้ลุกขึ้นสู้ทำในสิ่งที่ชอบแล้วทุกอย่างจะออกมาดีค่ะ
"พี่ปุ้ย" สาวสองสู้ชีวิตผู้มีลีลาสาธิตการขายร่ม จนเป็นกระแสดังในโซเชียลทั้งไทยและมาเลย์
6 พฤษภาคม 2568 | 369"ครูทอง" ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้สืบทอดภูมิปัญญาการปั้นหม้อยาวนานกว่า 100 ปี ของบ้านสทิงหม้อ อ.สทิงพระ
24 มีนาคม 2568 | 644“เชือกกล้วยตานี” จากของเหลือทิ้ง สู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้ชุมชนคูเต่า ภายใต้ชื่อ “กอร์ตานี”
19 มีนาคม 2568 | 729ชีวิตหลังเกษียณของอดีตฯ ผู้ว่าฯ สงขลา ผันตัวเองป็นเกษตรกรสวนทุเรียนกว่า 400 ต้น
3 มีนาคม 2568 | 22,910ตาผิน ผู้ประดิษฐิ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติ สู่สินค้าโอท็อปประจำอำเภอรัตภูมิ
2 มีนาคม 2568 | 701"ธนกร"กุ้ยช่าย สูตรลับจากคุณแม่ที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน เลี้ยงครอบครัวกว่า 45 ปี ออเดอร์ไกลถึงสหรัฐฯ
6 กุมภาพันธ์ 2568 | 695"เกียว"เบเกอรี่จากรุ่นแม่สู่คุณลูก กว่า 30 ปี ร้านขนมปังเล็กๆที่ไม่ธรรมดาในสะเดา
8 ธันวาคม 2567 | 2,499ช่างนวล ควนเนียง ศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานบนผืนหนัง
24 พฤศจิกายน 2567 | 1,402