หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

จากการบันทึกเอนก นาวิกมูล กล่าวถึงตำนานของหลวงพ่อทวดมาว่ามาจากไหน  ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม นักเขียนสารคดีประวัติศาสตร์เล่าเรื่องอภินิหารหลวงพ่อทวดไว้ว่า.... สมัยที่ตนเองเป็นเด็ก ชื่อ​ติ้น​วันหนึ่งประมาณทุ่มเศษ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเห็นดวงไฟ 2 ดวงกำลังลอยจากเหนือไปใต้ก็นำไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ร้องไห้ออกมาถามว่าร้องไห้ทำไม

แม่บอกว่าถ้าใครเห็นดวงไฟอย่างนี้ นั่นแหละคือเห็นพ่อท่านโคะหรือหลวงพ่อทวด ลูกจะต้องจากบ้านช่องที่อยู่เดิมไปหลังจากนั้นไม่กี่วันทางราชการก็มาสำรวจเด็กที่จะต้องเข้าศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนประชาบาลตำบลโรงอ​ำเภอระโนด เป็นครั้งแรกในตำบลนั้น เด็กชายณัฐวุฒิอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องเข้าโรงเรียนประชาบาลกับเขาด้วยจึงต้องไปเข้าเรียนตามเกณฑ์และต้องจากบ้านเกิดไปเรียนหนังสือในที่อื่นต่อๆไปอีกหลายแห่งจากที่เคยเรียนโรงเรียนประชาบาลในวัด ก็ไปอยู่ที่วัดตำบลโรงจากตำบลโรง ก็มาเรียนที่ตำบลระโนด ใกล้ที่ว่าการอำเภอระโนด (หลังบ้านผม)

จากนั้นก็มาต่อที่โรงเรียนมหาวชิราวุธในตัวเมืองสงขลาแล้วก็ขึ้นไปเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบออกมาก็เป็นนักกฎหมาย เป็นนักการเมืองชาวบ้านแต่ก่อนเชื่อกันว่า เวลาหลวงพ่อทวดแสดงอภินิหาร ท่านจะปรากฏ เป็นดวงไฟลอยบนอากาศคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ณัฐวุฒิฟังหลายหนว่า ก่อนเข้าพรรษาจะเห็นดวงไฟสองดวงดวงใหญ่ 1 ดวงเล็ก 1 ดวงลอยล่องจากเหนือไปใต้ออกพรรษาแล้วดวงไฟ 2 ดวงนั้นจะลอยจากใต้ไปเหนือ

ผู้ใหญ่เชื่อกันว่าดวงไฟดวงใหญ่นั้นคือหลวงพ่อทวดดวงย่อมนั้นคือสามเณรศิษย์หลวงพ่อทวดถ้าใครเห็นดวงไฟนี้ จะเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความเป็นอยู่จะต้องจากบ้านเดิมหรือย้ายไปอยู่ที่อื่น ยังมีอีกเรื่องหนึ่งคือ สมัยณัฐวุฒิอยู่ที่บ้านเกิด มีผู้ทำนายว่าจะเกิดเหตุร้าย ผู้คนจะล้มตายกันเป็นอันมากใครที่ปรารถนาจะพ้นไปจากเหตุร้ายนั้น ให้เอาธงผ้าแดงปักไว้บนหลังคาบ้านการปักธงผ้าแดงนั้นหมายความว่าบ้านนี้เป็นลูกหลานของหลวงพ่อทวด ท่านจะคุ้มครองให้พ้นภัยอันตรายซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นความจริงอยู่มาก

บ้านที่ปักธงแดงไม่ติดโรคระบาด ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยถึงตายเลย นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์นี่แหละคือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อทวดตั้งแต่ณัฐวุฒิยังเป็นเด็กณัฐวุฒิเกิดที่ตำบลโรง อ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อ พ.ศ. 2461ถึงแก่กรรมเมื่อ​พ.ศ. 2546 อายุ 85 ปี เป็นราชบัณฑิตในประเภทประวัติศาสตร์

เป็นผู้เขียนหนังสือแนวประวัติศาสตร์เกือบ 30 เล่มหรือ 30 หัวเรื่อง เป็นหนังสือที่เราได้ใช้อ้างอิงกันไม่น้อย เช่น 29 เจ้าพระยา-สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เล่ม 1 และ 2 -โอรสลับพระเจ้าตาก -สมเด็จพระนางเรือล่ม -ผู้สร้างวรรณกรรม (ประวัติ10 กวี ข้อมูลแปลกๆดีๆน่าอ่านมาก) - 27 เจ้าพระยา เป็นต้น

แต่ที่จะขอเน้นวันนี้ก็คือท่านเป็นผู้เขียนหนังสือชื่อ “ตำนานหลวงพ่อทวด” ในลักษณะการชำระ บอกที่มาที่ไปของตำนานให้ทราบอย่างเป็นกิจลักษณะ น่าจะเป็นคนแรก เราทั้งหลายคงรู้จักชื่อเสียงของหลวงพ่อทวดดี ถึงแม้จะไม่มีรูปบูชา พระเครื่องที่เขาสร้างๆกันมาตั้งแต่ พ.ศ.2497 (หลังผมเกิด 1 ปี) อย่างน้อยก็ต้องได้ยินชื่อบ้างเพราะรูปที่สร้างจากจินตนาของช่างยุคแรกได้แพร่กระจายกลายเป็นแบบให้เลียนต่อๆกันมามากมายขอเน้นย้ำอีกครั้งว่ารูปปั้นหลวงพ่อทวดที่เห็นกันนั้น สร้างจากเป็นจินตนาการ

เพราะท่านเกิดเมื่อราว 300 ปีมาแล้ว​ ประมาณว่าในสมัยพระเจ้าทรงธรรม สมัยโน้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูปหรือภาพวาดใดๆทั้งสิ้นแต่ปัญหาใหญ่คือเราคนไทยชอบเขียนหนังสือแบบไม่บอกที่มาของความรู้กันอยู่ๆก็พูดลอยๆว่า “ตามตำนานกล่าวว่า” หรือเขียนไปเลย ไม่บอกว่ารู้มาจากไหนอย่างไร​หลายคนไม่สนใจ ก็คัดลอกต่อๆกันไปราวกับตรัสรู้ผมเองไม่ชอบวิธีการเขียนแบบนี้ จึงขอชักชวนว่ามาช่วยกันเขียนแบบมีหลักฐานอ้างอิงเถิด

เครื่องแบบลูกเสือแบบสมัย ร.6​ - ร.7

คนข้างหลังจะได้ไม่เสียเวลาค้นมากเกินไป อยากรู้เพิ่มก็ไปหาหนังสือที่ระบุไว้อ่านต่อหลักการอุดมการณ์ของผมเป็นเช่นนี้เรื่องประวัติหลวงพ่อทวดนี้ถามว่าท่านมีตัวตนจริงหรือไม่ ผมเองเคยสงสัยมานานแล้วแต่ก็ไม่รู้จะตั้งต้นอย่างไร เพราะไม่ใช่นักเลงพระเครื่องวันหนึ่งเมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว ธนะ บุญศิริ ลูกหลานเจ้าเมืองแกลงระยอง ผู้ค้นคว้าเรื่องสายสกุลทางระยอง มอบหนังสือ หลวงพ่อทวด เล่มบาง ๆ ให้ผมอ่านเขาบอกว่าเขามีซ้ำ พี่เอาไปอ่านเถอะ ผมก็รับมาด้วยความยินดีหนังสือเล่มนี้หนาแค่ 28 หน้าปกเป็นรูปหลวงพ่อทวดบนใบโพธิ์ พิมพ์หมึกสีเขียวบนกระดาษขาวบอกว่าแต่งโดยนายณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม ส.ส.พระนคร พิมพ์แจกเป็น ส.ค.ส. ปี 2513 เมื่อหยิบอ่านก็ทำให้ได้รู้ว่านี่แหละคือหนังสือที่ผมต้องการเริ่มต้นณัฐวุฒิบอกว่าตนเองเกิดที่บ้านน้ำโอ ต.โรง อ.ระโนด เมื่อพ่อตายแล้วก็มาอยู่บ้านโคกแห้ว ซึ่งมองเห็นวัดพะโคะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระอยู่ไร ๆ แม่ของณัฐวุฒินับถือพ่อท่านโคะหรือหลวงพ่อทวดมาก ท่านแก้บนด้วยขนมโคทุกปีวัดที่พ่อท่านโคะอยู่นั้นก็คือวัดพะโคะ ซึ่งมีเจดีย์เก่าแก่สวยงามมากตั้งอยู่บนเนินเขา

เจดีย์แบบนี้คนธรรมดาไม่น่าจะสร้างได้ ต้องเป็นคนที่มีบุญบารมีสูง เมื่อเราเดินขึ้นไปบนเจดีย์นี้แล้วจะเห็นฝั่งทะเลทั้ง 2 ฟากคือ ฟากอ่าวไทย กับฟากทะเลสาบ ชัดเจนน่าตื่นตาเวลาผมขับรถจากสงขลาไประโนด ผมจะแวะขึ้นไปกราบรูปหลวงพ่อทวด แล้วขับรถชมวิวไปเรื่อยๆเป็นประจำถามว่าณัฐวุฒิใช้หนังสืออะไรเป็นหลักในการกล่าวถึงประวัติหลวงพ่อทวดต้องตอบว่าท่านใช้หนังสือชื่อ “ประชุมพระตำราบรมราชูทิศเพื่อกกัลปนาสมัยอยุธยา ภาค 1 “ซึ่งคณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและโบราณคดี สำนักนายกรัฐมนตรี พิมพ์จำหน่ายเมื่อ พ.ศ. 2510 เป็นหลัก

ขอบคุณภาพข้อมูล : เอนก  นาวิกมูล