ย้อนไปเมื่อ 70 กว่าปีก่อน เมื่อแรกตั้งเทศบาลเมืองสงขลาใหม่ๆ นั้น นอกเขตกำแพงเมืองสงขลา โดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกของทางรถไฟ ฝั่งที่ติดกับทะเลอ่าวไทย ยังเป็นป่าป่าก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาพร้อมกับการเกิดขึ้นของสันชายหาด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดสันทราย ธรรมชาติได้สร้างชายหาดของจังหวัดสงขลาให้มีความกว้างพอเหมาะ ขณะที่น้ำขึ้นได้พัดพาทรายละเอียดมาทิ้งไว้ และเมื่อน้ำลงก็ปล่อยให้ทรายได้อาบแสงแดดร้อนแรง จนแห้งสนิท ปลิวตามลมได้
ป่าก่อตัวขึ้นบนสันทราย ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน กลายเป็นระบบนิเวศที่เรียกว่า ป่าสันทรายชายหาด ในการบันทึกของพุทธพร ส่องศรี กล่าวถึงความทรงจำในตอนนั้น ลมที่พัดสม่ำเสมอตามฤดูกาล มีความแรงพอดี พัดเอาทรายแห้งปลิวมากองทับถมกันริมชายหาด วันละเล็กวันละน้อย จนกลายเป็นเนินหรือสันทรายผมจำได้ว่าเมื่อก่อนจะมีถนนชลาทัศน์เลียบริมหาดสมิหลาไปจนถึงเขาเก้าเส้งนั้น เด็กๆ จะสนุกมากกับการวิ่งไต่เนินทรายลงไปในทะเล ขากลับก็ต้องออกแรงไต่เนินทรายขึ้นมา
ป่าก่อตัวขึ้นบนสันทราย ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน กลายเป็นระบบนิเวศที่เรียกว่า พระอารามหลวง ซึ่งว่ากันว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระอาจารย์ชัย พระภิกษุชาวเมืองกลันตันนั้น มีที่ตั้งอยู่ที่บ้านโคกเสม็ด ตามชื่อบ้านบ่งบอกสภาพภูมิศาสตร์สมัยนั้นได้ดี ตอนเริ่มสร้างวัดคงต้องหักร้างถางพง โค่นป่าเสม็ดที่ขึ้นเต็มเนินทรายอย่างแน่แท้
ถัดจากวัดชัยมงคลลงมาทางทิศใต้ไม่ไกลนัก มีวัดอีกวัดหนึ่งคือ วัดเพชรมงคล น่าจะสร้างในสมัยเดียวกัน โดยพระอาจารย์เพชร ชาวเมืองกลันตัน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับพระอาจารย์ชัยนั่นเองวัดเพชรมงคล เดิมชื่อวัดโคกขี้หนอน นี่แหละแสดงว่าสร้างขึ้นบนเนินทรายที่เต็มไปด้วยป่าต้นขี้หนอน ไม้ในป่าชายหาดอีกชนิดหนึ่ง
เมื่อทางรถไฟสร้างมาถึงเมืองสงขลาในปี พ.ศ.2456 นั้น หน้าสถานีรถไฟสงขลาคงเต็มไปด้วยป่าสันทรายชายหาดกว่าจะเริ่มใช้พื้นที่สร้างสนามบินสงขลา สร้างสถานที่ราชการ สถานศึกษา ถนนทะเลหลวงและการเกิดขึ้นของชุมชนวชิรา ก็คงหลังจากนั้นหลายสิบปี
โรงเรียนวชิรานุกูลน่าจะเป็นผู้บุกเบิกยุคแรก ราวปี 2478 ซึ่งเป็นปีที่ตั้งเทศบาลเมืองสงขลา ส่วนวิทยาลัยเทคนิคภาคใต้ ซึ่งพัฒนามาเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยในปัจจุบันนั้น สร้างขึ้นในปี 2497สำหรับสถานีทหารเรือสงขลา (ฐานทัพเรือสงขลาในปัจจุบัน) นั้น สร้างเสร็จสมบูรณ์ราวช่วงปี 2510 โดยใช้พื้นที่รอบสนามบินสงขลา ซึ่งอยู่ในการปกครองของกรมการบินพาณิชย์เดิม
ร่องรอยของป่าสันทรายชายหาด ในเขตเทศบาลนครสงขลา ไม่มีเหลือให้เห็นอีกแล้ว คงต้องไปดูที่อำเภอจะนะ ทะเลที่นั่นยังมีร่องรอยของป่าสันทรายชายหาดให้เห็นอยู่บ้างตำบลตลิ่งชัน เป็นตำบลชายทะเลแห่งหนึ่งของอำเภอจะนะ ชื่อตำบลบ่งบอกถึงสภาพที่มีสันทรายก่อตัวเป็นเนินสูงชัน ก่อให้เกิดป่าสันทรายชายหาดเป็นแนวแคบ ๆ
ป่าสันทรายทอดยาวตามแนวชายฝั่งเป็นระยะทางยาวราว 20 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากคลองนาทับไปจนถึงปากคลองสะกอม เป็นป่าปฐมภูมิ พัฒนามาตั้งแต่เริ่มมีสันทราย เต็มไปด้วยพืชที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น เสม็ดชุน หว้า ยางนา ตำเสา ตลอดจนเฟินและกล้วยไม้ป่าชนิดต่างๆ ไม่เหมือนป่าทดแทน ที่มีให้เห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ที่ถูกบุกเบิกและปล่อยทิ้งร้าง
ขอบคุณข้อมูล: พุทธพร ส่องศรี , ขอบคุณภาพวัดชัยมงคล :ข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โรงแรมสุขสมบูรณ์2 โรงแรมเรือนไม้เก่าแก่ ย่านเมืองเก่าสงขลา
24 มีนาคม 2567 | 2,189วัดศาลาหัวยาง วัดเก่าแก่คู่เมืองสงขลายาวนานกว่า 267 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย
24 มีนาคม 2567 | 246เปิดประวัติพิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ (บ้านป๋าเปรม) สถานที่ใช้ชีวิตในวัยเด็กของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษคนสำคัญของไทย
24 มีนาคม 2567 | 179คนจีนในหาดใหญ่ ยุคแรกสร้างเมืองหาดใหญ่ กับการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน
17 มีนาคม 2567 | 345ขุนคล่องคลอยหอย ปูชนียบุคคล คนสำคัญของอำเภอคลองหอยโข่ง
17 มีนาคม 2567 | 823ฉับโผง ของเล่นพื้นบ้านของเด็กใต้ยุค 90's
17 มีนาคม 2567 | 227หาดใหญ่แจกพิกัดสถานที่มู ขอพรความรักปังๆต้อนรับวาเลนไทน์
12 กุมภาพันธ์ 2567 | 989ตลาดรถไฟสงขลา ตลาดเก่าแก่กว่า 107 ปี ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดให้บริการสถานีรถไฟสงขลาครั้งแรก
11 กุมภาพันธ์ 2567 | 9,350