หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ไปหม้ายโหม๋เรา

ยะลา | นั่งรถไฟหาดใหญ่ไปตะลุยยะลา " ทริป 3 วัน 2 คืน "
18 มกราคม 2564 | 4,778

สวัสดีจ้าเพื่อน ๆ ชาวหาดใหญ่โฟกัสทั้งหลายพี่หมีกลับมาแล้วจ้า มาพร้อมกับทริปกินเที่ยวดี ๆ มารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ปักหมุดกันอีกแล้ว ใกล้จะปีใหม่แล้วด้วยใครที่ยังมีวันลาพักร้อนอยู่ได้ใช้แน่นอนจ้า และวันนี้พี่หมีจะพาเพื่อน ๆ ชาวหาดใหญ่โฟกัส "นั่งรถไฟไปตะลุยยะลา" กับทริป 3 วัน 2 คืน ให้จุใจกันไปเลยจ้า การนั่งรถไฟเป็นการเดินทางที่ชิลล์มาสำหรับพี่หมี ได้พบปะผู้คนมากมาย ได้มองวิวธรรมชาติสองข้างทางเป็นอะไรที่ ดี๊ ดี มากจ้า ที่สำคัญราคาก็สบายกระเป๋าด้วย จะได้เก็บตังค์ไว้หาของกินอร่อย ๆ กินกันให้พุงแตกไปเลยว่าแล้วก็อย่ารอช้าพี่หมีว่าเรารีบไปเก็บของกันดีกว่า เพราะความสนุกกำลังรอพวกเราอยู่ ปู๊น ปู๊น

 ปลายทางทริปนี้ของพวกเราคือเมืองเบตง แต่เพื่อให้ได้อรรถรสในการเดินทางพี่หมีเลยเลือกที่จะนั่งรถไฟเพราะจะได้ชมวิวสองข้างทางด้วย

ได้ตื่นเช้ามีสูดอากาศยามเช้านี่มันสดชื่นจริง ๆ เลยจ้า ทริปนี้เรามาเริ่มกันที่สถานีรถไฟเลยอันดับแรกคือซื้อตั๋ว ไม่นั้นได้ลงก่อนถึงยะลาแน่จ้า 

จัดไปเลยจ้ารถไฟขบวนแรก รถเร็ว 175 ชท.หาดใหญ่-ยะลา แต่ไม่เร็วเหมือนชื่อนะ ราคาใบละ 53 บาทถือว่าถูกเลยแหละ

ได้ตั๋วแล้วก็รีบกระโดดขึ้นรถไฟเลยจ้า

ช่วงเช้าบรรยากาศดีมาก อากกาศเย็นสบาย มีทั้งธรรมชาติและสายหมอกสองข้างทาง

ธรรมชาติที่สวยงามสองข้างทาง ดูได้ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา

จะไม่ให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ก็ไม่ได้แล้วแหละ

 เก็บไว้ก่อน 1 แชะ

นั่งมาได้ไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟเทพาแล้วถือว่าเร็วมากเลย แต่น่าเสียดายมากที่ทริปนี้พี่หมีอดกินข้าวแกงไก่ทอดเทพา เพราะพี่หมีนั่งตู้โบกี้ท้าย ๆ แม่ค้าเดินมาขายไม่ทันก็เลยอดเลยจ้า นี่กะจะซื้อฝากเพื่อน ๆ เลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรไว้วันหน้าพี่หมีต้องมากินให้ได้เลย วันนี้ติดไว้ก่อน

หลาย ๆ คนอาจกลัวการเดินทางมาในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ แต่ไม่ต้องกลัวเลยจ้า เพราะตลอดเส้นทางลงสามจังหวัดจะมีพี่ อส. พี่ทหาร ดูแลตลอดเลย อุ่นใจดี

 

ถึงแล้วจ้าเมืองยะลาของเราไม่นานเลย

 อันดับแรกที่ต้องทำก่อนเลย ถ่ายรูปเช็คอินจ้า

และเมื่อเดินออกมาหน้าสถานีรถไฟก็จะเจอกับตึกสีสันสวยงาม ที่ดูแปลกตา

ไงก็ขอเก็บภาพหน่อยแล้วกันจ้า

เดินเล่นจนเพลินเลยเริ่มหิวซิ พี่หมีว่าเราไปหาของอร่อยกินกันดีกว่าจ้า

แล้วถ้าจะหาของอร่อยใกล้สถานีรถไฟ พี่หมีแนะนำร้านนี้เลยจ้า บังแอซุปเนื้อ

ซุปเนื้อร้อน ๆ พร้อมไข่เจียวและข้าวสวยร้อน ๆ คือดีมากจ้า

เนื้อนุ้ม ๆ น้ำซุปเข้มข้นมาก กินให้อิ่มแล้วเราจะเดินทางกันต่อ จุดหมายของเราก็คือเบตงนั้นเอง

ทริปนี้โชคดีมากเพราะมีเพื่อนพี่หมีอาสานำเที่ยวเบตงเองเลย สบายละทีนี้ 5555

ทางไปเบตงก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก แต่ถ้าใครไม่ไหวก่อนขึ้นรถก็จัดยาแก้เมารถสักเม็ดแล้วรีบหลับซะ ระหว่างทางโค้งเยอะมาก แต่แค่นี้สบาย เพราะพี่หมีหลับตั้งแต่ปิดประตูรถจ้า ฝันดีเจอกันที่เบตง อิอิ

จุดนี้ก็ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คระหว่างทาไปเบตงเลยก็ว่าได้เพราะทุกคนต้องแวะถ่ายรูปกับสะพานข้ามเขื่อนบางลาง 

แล้วเราจะไม่แวะเก็บภาพได้ไงละครับ จอดรถด่วนเลยจ้า

เขื่อนบางลาง กว้างสุดตานี่แค่บางส่วนนะ ใกลจะเที่ยงแล้วพี่หมีว่าเรารีบเดินทางกันต่อดีกว่า

Let’s go กันต่อเลยจ้า

สองข้างทางอุดมสมบูรณ์มา

ถึงเบตงสักที มาถึงก็เที่ยงพอดี และสิ่งแรกที่พี่หมีคิดได้ก็คือหิว มือเที่ยงนี้ขอร้านเด็ดของเมืองเบตงเลยแล้วกัน "เจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้" ข้าวมันไก่เบตงแท้ ๆ ก็ต้องร้านนี้เลย

ข้าวมันไก่เบตงแท้ ๆ ที่ทางร้านเขารับจากฟาร์มประจำเลย เนื้อนุ่ม หนังกรอบ มันน้อย

อร่อยยกโต๊ะจ้า ทานอิ่มแล้วก็ต้องไปหาของหวานทานต่อละ

"กล้อยทอดเจ๊หยง" สุดยอดกล้วยทอดเมืองเบตง

ร้านเจ๊หยงแกใช้กล้วยนางยา และกล้วยหินมาทอด กรอบนอกนุ่มใน อร่อยมาก

เจ๊กับเฮียแกใจดีมาก คุยสนุกเป็นกันเอง

อิ่มทั้งของหวานและของคาวแล้วเราไปเดินเล่นชิลล์ให้ย่อยกันในเมืองเบตงดีกว่า เพราะเบตงขึ้นชื่ออีกอย่างเลยว่าเป็นเมืองสตรีทอาร์ท หากเดินไปตามซอยต่าง ๆ ของเบตงก็จะพบสตรีทอาร์ท สีสันสดใสมากมาย สวย ๆ ทั้งนั้น

สวย ๆ ทั้งนั้นไม่เก็บภาพไม่ได้แล้วแหละ

ยืน งง ในดง สตรีทอาร์ทจ้า

 ไม่ว่าจะเดินไปซอยไหนมุมไหนก็จะพบสตรีทอาร์ทอยู่ตลอด ชาวบ้านก็น่ารักมาก จะคอยบอกตลอดทางเลยว่าให้เดินทางนี้ ทางนั้น จะมีภาพสตรีทอาร์ท พี่หมีไปหมดทุกซอยแหละจ้า

 

เยอะมาก และสวยทุกรูปเลย

อีกจุดเลยที่ต้องมาเช็คอิน ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งสูง ทั้งใหญ่ เดินจนเหนื่อยเลยเราไปหาที่พักเก็บของแล้วพักเอาแรงกันก่อนดีกว่าเพราะช่วงเย็นยังมีความสนุกรอเราอยู่อีกเยอะเลยจ้า

 ที่พักสุดหรูของเราคืนนี้ "บ่อน้ำร้อนรีสอร์ท แอนด์ สปา" บรรยากาศดี 

ห้องกว้างสะดวก สบาย มีทีวี ตู้เย็น และแอร์ทุกห้อง บังกะโลหลังละ 1000 เองจ้า

 แต่ที่ฟินไปกว่านั้นก็คือ มีสระน้ำร้อนให้แช่ฟรี ๆ ด้วยจ้า จะแช่ให้เปื้อยแค่ไหนก็ได้เดินทางมาเหนื่อย ๆ ได้แช่เท้ากับน้ำอุ่น ๆ แบบนี้หายเหนื่อยเลย

 ขอพักสักแปปนะแล้วเดียวเราไปลุยกันต่อจ้า

ตกเย็นเรามาเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนกันดีกว่า ช่วงปลายปีแบบนี้อากาศดีเลยไม่ร้อนมาก 

 กลางคืนนี้สวยไม่แพ้กลางวันเลยจ้า ช่วงค่ำตรงวงเวียนหอนาฬิกาจะเปิดไฟสวยงามมาก เห็นอะไรเกาะบนสายไฟ เล็ก ๆ นกนนางแอ่นทั้งนั้นเลย เขาว่ากันว่าถ้าโดนนกนางแอ่นขี้ใส่จะได้กลับมาที่เบตงอีก แต่ถึงไม่โดนพี่หมีก็อยากกลับมาอีกอยู่แล้วจ้า

 ก่อนจะไปมุมอื่นขอสักรูปก็แล้วกัน

 และเดินมาไม่ไกลจากวงเวียนหอนาฬิกา ก็จะเจอกับ "อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์" เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทยเลยจ้า

 หิวแล้วสิไปหาของกินกันดีกว่า หากเดินย้อนกลับมาจะเจอย่านของกินที่แอบอยู่ในซอย จะมีรถเข็นขายของกินมาจอดเรียงรายกันเต็ม

 

ถ้าจะหาของทานเล่น นั่งชิลล์ ๆ ถือว่าโอเครเลยจ้า

 คืนนี้เรามาปิดท้ายกันที่ "ร้านน้ำชากะเด๊ะ" ดีกว่า กินโอวัลตินเย็นก่อนนอน

 คนแน่นเต็มทุกโต๊ะ เต็มร้านตลอด เป็นร้านเชเลบเจ้าประจำยามค่ำคืนของชาวเบตงเลยก็ว่าได้

 ชาหอม กาแฟดี ชงสดใหม่แก้าต่อแก้ว แถมราคาก็ไม่แพงร้อง 10 บาท เย็น 15 บาทเองขนมปังปิ้ง ปังอบไอน้ำ คู่ละ 12 บาท

ปังปิ้งไส้เยิ้ม กัดแล้วชุ่มฉ่ำมาก รีบกินดีกว่าจะได้รีบกลับไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้า 

 สวัสดียามเช้า อากาศเย็น ๆ กับสายหมอกที่ "Skywalk อัยเยอร์เวง" จ้าอากาศดีมากสดชื่นสุด ๆ 

 Skywalk อัยเยอร์เวง เบตง แลนด์มาร์คแห่งใหม่สุดฮอตสุดฮิตในตอนนี้ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งสามารถเข้าชมวิวสวย ๆ ได้แล้ว

 ต้องบอกว่าสวยมากจริง ๆ สามารถเห็นวิวแบบ 360 องศาเลยนะ สะพานที่ทอดยาวยื่นไปกลางอากาศ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้มองทะเลหมอกสวย ๆ แต่วันนี้ที่เรามาถึงหมอกยังไม่หนาเท่าไร แต่ก็ยังคงความสวยงามไว้ให้ผู้คนที่แวะมาได้เซลฟีกัน

สวยงามมาก ธรรมชาติสุด ๆ ชมความงามจนอิ่มใจแล้วได้เวลาที่ต้องลงกลับแล้วสิ เพราะยังเหลือที่เที่ยวอีกหลายที่เลย

 แล้วอีกแลนด์มาร์คใหม่ที่กำลังจะเปิดในอีกไม่นานนี้เลยกับ "สนามบินเบตง" อีกไม่นานก็จะเปิดอย่างเปิดทางการแล้ว เพื่อน ๆ ก็จะเดินทางมาเที่ยวเมืองเบตงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถอีกต่อไปแล้วจ้า

 ตัวอาคารตกแต่งด้วยไม้ไผ่สวยมาก

เป็นเอกลักษณ์เด่นของ"สนามบินเบตง"เลยก็ว่าได้ เดียวเราเข้าไปต่อกันที่ในเมืองเบตงเลยดีกว่า

 

พิพิธภัณฑ์เมืองเบตงแหล่งรวบรวมข้อมูลของเมืองเบตงใว้ที่นี่ มีการจัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า เช่น ถ้วยชาม เครื่องเคลือบรูปเก่า ๆ หนังสือพิมพ์ประวัติความเป็นมา แบบว่าใครอยากรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเบตงก็มาที่นี่ได้เลยจ้า

 

ของสะสมเก่า ๆ เยอะมาก

 และหากเดินขึ้นมาข้างบนก็ยังสามารถชมวิวแบบ 360 องศาของเมืองเบตงได้ด้วยนะ

 นั่นไงวงเวียนหอนาฬิกาเมืองเบตง

เข้าชมได้ฟรี ๆ เลยจ้าแค่ตั้งบัตรประชาชนไว้ก็พอ พี่ ๆ ที่ดูแลสถานที่ใจดีมาก ได้เวลาเดินทางกันอีกแล้วละสิ สายแค้มปิ้งเตรียมตัวเลยเพราะคืนนี้พี่หมีจะพาเพื่อน ๆ ไปแค้มปิ้งแบบคลู ๆ 

 "คูลแค้มปิ้ง" ที่พักวิวหลักล้านของเราในคือนนี้ บอกได้เลยว่ามันฟินมาก ๆ จ้า บรรยากาศธรรมชาติแบบสุด ๆ ตั้งอยู่บนยอดเขากลางธรรมชาติที่เงียบสงบและมีอากาศเย็นตลอดปี และไม่ไกลด้วยจากเมืองเบตง เป็นทางผ่านตอนกลับเลย ขอแวะพักผ่อนอีกสักคืนก็แล้วกัน

 ธรรมชาติสุด ๆ จ้า มองไปทางไหนก็เจอแต่ธรรมชาติที่สวยงาม

 

 ที่พักสบายราคาเป็นกันเอง วิวและบรรยากาศที่ได้ถือว่าคุ้มเกินคุ้ม

 ที่ขาดไม่ได้เลยคือปิ้งย่าง ทางที่พักมีอุปกรณ์ให้พร้อม ทั้งเตาถ่าน จาน ช้อน แก้ว ทุกอย่าง เราแค่เตรียมอาหารและทำท้องให้ว่างมาก็พอจ้า กินให้อิ่มแล้วก็ไปนอนเช้าพรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่

 ตื่นเช้ามาแบบสดชื่นมากจ้า อากาศดี เย็นฉ่ำเหมือนอยู่ภาคเหนือเลย มองไปทางไหนก็เจอแต่ธรรมชาติสวย ๆ ทั้งนั้นเลย 

เป็นที่พักที่ดีมากเลยคิดไม่ผิดเลยที่แวะมาก่อนจะกลับ แต่ก็ยังเหลือของกินอีกหนึ่งอย่างที่พี่หมีต้องไปกินให้ได้ก่อนที่จะกลับหาดใหญ่ ซึ่งก็อยู่ในเมืองยะลานั้นแหละ

 ร้านเด็ดเมืองยาลา "ข้าวมันไก่หน่ำเทียน" เจ้าเก่าแก่ในยะลาที่ใครมาก็ต้องกิน เปิดขายมานานกว่า 57 ปี

 ความพิเศษของ "ข้าวมันไก่หน่ำเทียน" คือทางร้านใช้ไก่บ้าน เนื้อแน่น นุ๊มมมมนุ่ม ไก่เนื้อแน่น นุ่มมากกก ข้าวมันเม็ดสวยหอมนุ่มสุด ๆ น้ำจิ้มรสเด็ดทานคู่กันอร่อยลงตัว

พี่หมีขอปิดทริปนี้ไว้ที่ข้าวมันไก่หน่ำเทียนแล้วกันนะ เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังจะหาที่เที่ยวช่วงปลายปีนี้ ต้องไม่พลาดทริป ดี ๆ แบบนี้แล้วแหละ เก็บกระเป๋าให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยแล้วอย่าลืมเก็บภาพทริปของเพื่อน ๆ มาฝากพี่หมีด้วยนะ

ถึงเวลาที่เราต้องกลับกันแล้วแหละทุกคน ยังไม่อยากกลับเลย เอาไว้ทริปหน้าพี่หมีจะไปเที่ยวที่ไหนกันนั้นก็รอติดตามกันได้เลยจ้า

สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้ พี่หมีจ่ายไป 1043 บาท แต่นี่ยังไม่รวมค่าขนมนะ แต่ก็ถือว่าไม่แพงเลยถือว่าคุ้มค่ามาเลยจ้า

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง