หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

วิถีชีวิต

"เฮียฝ่า"จากเด็กบ้านนอกเพื่อนดูถูกสารพัด เห็นพ่อทำงานตั้งแต่เด็กสู้ถีบตัวเองต่อยอดธุรกิจแลปฟิล์ม Analog ถึง 4 สาขา กว่า 50 ปี
25 ตุลาคม 2563 | 9,295

ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวคนจีน ผมได้คลุกคลีกับธุรกิจมาตั้งแต่วัยเรียนหนังสือ วิธีการปลูกฝังของเค้าไม่มีความซับซ้อนเลย เค้าสอนให้เราขยัน ตื่นเช้ามามีหน้าที่เรียนหนังสือ หลังเลิกเรียน และวันหยุดหากไม่มีการบ้าน หรือทำแล้วเสร็จ ต้องมาช่วยงานร้าน และทำงานบ้าน ปลูกฝังเรื่องคุณค่าของเงินที่หามาได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย คำบอกเล่าของเฮียฝ่า เด็กบ้านนอกที่มีใจรักด้านกล้องฟิลม์ และต่อยอดพัฒนาธุรกิจแลปล้างฟิลม์ตัวร้านที่ครบวงจร (ขนาดใหญ่)  นายวีรสิทธิ์ ชีวกุลประสิทธิ์ อายุ 48 ปี ระดับการศึกษาปริญญาโท ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะบริหารธุรกิจ Marketing ปริญญาโท คณะการจัดระบบข้อมูลสารสนเทศ MIS (Master of Information System) Dominican University เมืองOak Park มลรัฐIllinois ประเทศสหรัฐอเมริกา

เล่าถึงความเป็นมาในวัยเด็กให้เราฟังหน่อย เพราะทราบว่าเฮียฝ่าค่อนข้างสู้ชีวิต และอึด ?

ผมเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะธรรมดา ค่อนไปทางลำบากซะมากกว่า คุณพ่อเป็นเด็กสวนยาง(คลองหวะ หาดใหญ่) จบระดับการศึกษาเพียงประถม 4 คุณแม่จบเพียงประถม 7 ชีวิตคุณพ่อในวัยเด็กเติบโตมากับสวนยาง อยู่กับอากงอาม่าที่อพยพกันมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ปลูกผัก ปลูกยาง ไม่มีไฟฟ้าใช้ จนอายุในวัย 18 ปี (พ.ศ.2506) คุณพ่อมีความคิดที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงขออากงออกจากสวนยางเพื่อหางานทำในตัวเมืองหาดใหญ่

งานแรกที่ได้ทำส่งผลมาสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนตลอดมา คือเป็นเด็กหัดงานในร้านถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงร้านหนึ่งในยุคนั้น ชื่อว่าร้าน Hollywood จากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการถ่ายรูปเลย จนเป็นช่างถ่ายรูปที่มีฝีมือดีระดับหนึ่งในระยะเวลา 3 ปี กับการขวนขวายและขยันอย่างมากกับร้านนี้ จากนั้นเริ่มอยากจะเก็บเกี่ยวความรู้ให้มากขึ้น จึงได้เดินทางไปทำงานที่ จ.ตรัง เป็นเวลา 2 ปี ที่ร้านสุริยา จนมีความรู้ที่แตกแขนงมากขึ้น และนำไปสู่การเดินทางไกลครั้งแรกในชีวิตของท่านถึงจ.ฉะเชิงเทรา ชื่อร้านศิลป์อะไรซักอย่างที่ไม่สามารถจำชื่อเต็มได้ชัดเจน เป็นระยะเวลาอีก 1 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่หาดใหญ่อีกครั้งกับร้านบุญศิลป์ 2 ปี ซึ่งที่นี่เป็นที่พบรักของคุณพ่อและคุณแม่ ในฐานะลูกค้าที่มาใช้บริการถ่ายรูป และคุณพ่อเป็นช่างภาพบันทึกภาพให้กับคุณแม่

(คุณแม่ผมมีฐานะยากจนช่วยคุณย่าขายข้าวสารที่ตลาดกิมหยงในช่วงวัยเรียนตลอดมา) รวมระยะเวลาของการเป็นลูกจ้างของคุณพ่อ 8 ปี ก่อนที่คุณพ่อเริ่มมีความคิดที่อยากจะเปิดร้านถ่ายรูปเป็นของตัวเอง จุดเริ่มร้านถ่ายรูปเทพกร จึงเกิดขึ้นในช่วงปี 2510 ที่ย่านเมืองเก่า ถ.นครใน จ.สงขลา

(รูปคุณพ่อของเฮียฝ่า)

และต่อมาไม่นานจึงเปิดสาขาที่กลางเมืองหาดใหญ่ในชื่อเดียวกันเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะปิดสาขานี้เนื่องจากคุณพ่อเหนื่อยมากกับการขับรถไปๆมาๆของ2 สาขานี้ หลังจากคุณพ่อคุณแม่แต่งงานกัน ช่วยกันทำมาหากินจนฐานะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ สามารถที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้หลังแรกจากที่เช่ามาโดยตลอด ร้านถ่ายรูปเทพกร ณ ปัจจุบันจึงเกิดขึ้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของคนสงขลา ร้านถ่ายรูปบุษรากร จึงถูกเปิดตัวเป็นสาขาที่ 2 ในปี 2524 ตามมาด้วย ร้านบุษรากรสาขาที่ 3 ด่านนอก อ.สะเดา ในปี 2549 (เพิ่งปิดตัวไปในปี 2563 จากเศรษฐกิจขาลง) และสาขาที่ 4 ตลาดเกาะเสือ ชายขอบเมืองหาดใหญ่ ในปี 2556

ส่วนตัวผมเองที่ตัดสินใจมาสานต่อธุรกิจคุณพ่อจากจุดเริ่มที่ไม่ได้รัก อาจจะเกิดจากสาเหตุที่เห็นมาตั้งแต่เกิด และการถ่ายรูปเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น ประกอบกับมีความคิดที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวของเราเอง แต่พอได้ทำธุรกิจถ่ายภาพก็เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณพ่อปล่อยให้ผมบริหารธุรกิจเต็มตัว ให้ความอิสระทางความคิด จึงทำให้เราใส่ใจเข้าไปเต็มๆ การวิเคราะห์เชิงธุรกิจจึงเกิดขึ้นมานับจากจุดนั้น จากความชอบกลายเป็นความหลงรัก มีความสุขทุกวันที่ได้ตื่นมาทำงานที่เรารัก คือ ธุรกิจร้านถ่ายรูป ที่เป็นมากกว่าร้านถ่ายรูป เพราะผมเริ่มสร้างทีมงานถ่ายรูปงานแต่งงานเป็นรูปเป็นร่างจากเดิมออกถ่ายงานคนเดียวตั้งแต่ในยุคสมัยกล้องฟิล์ม จนเริ่มมีชื่อเสียงและลาวงการในช่วงการกลับมาของกล้องฟิล์มที่ผมก็คาดไม่ถึงว่ากล้องฟิล์มจะกลับมาอีกครั้ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดแล็บล้างสแกนฟิล์มในชื่อ Analog ช่วงกลางปี 2560 จริงๆเป็นงานที่เราทำมาตลอดตั้งแต่ในยุคคุณพ่อ แต่ต้องปิดตัวลงถึง 10 ปีเพราะกล้องดิจิทัลบูมมากในช่วงปี 2550

หัวใจของการทำธุรกิจ ?

จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านๆมา ผมค่อนข้างได้เจอะเจอกับผู้คนเยอะ โดยเฉพาะงานที่ต้องใข้การติดต่อสื่อสาร การเจรจาต่อรอง การพูด การอ่านใจคน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การบริการ ทำให้เกิดการหล่อหลอมจนเป็นผมในทุกวันนี้ ถ้าจะให้กลั่นกรองลงมาให้เป็นคำพูดสั้นที่สุด ผมใช้ความจริงใจกับการทำธุรกิจ คำว่าจริงใจจะครอบคลุมไปถึงความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความเป็นกันเอง มีความรู้จริงในเชิงลึกกับธุรกิจที่ตัวเองทำ ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนครับ (ผมจะโฟกัสในเรื่องของกล้องฟิล์มเป็นหลัก แต่ธุรกิจเราทำทั้งดิจิทัลและฟิล์ม)

กลุ่มลูกค้ากล้องฟิล์มส่วนใหญ่จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ถึง 90% ความรู้ในเรื่องกล้องฟิล์มจะไม่ลึก หากผมไม่มีความจริงใจในการทำธุรกิจ ผมสามารถที่จะแทรกความมั่วในเชิงข้อมูลให้กับน้องๆได้แบบแยบยล แต่ผมไม่เลือกที่จะทำ แต่กลับทำงานหนักมากขึ้น เพื่อที่จะตอบคำถามลูกค้าได้ และผมก็ได้ความรู้คู่ขนานไปด้วย อย่างในเชิงทฤษฎีนั้นผมต้องอ่านข้อมูลเยอะมากในเวบต่างประเทศ ฟังPodcast เข้ากรุ๊ปช่างภาพกล้องฟิล์มฝั่งอเมริกาและยุโรป ดูภาพจากช่างภาพในตำนานแทบจะทุกวัน

ส่วนในเชิงปฎิบัติ ผมก็ต้องเอาตัวเองออกไปถ่ายรูปแทบจะทุกวันที่มีโอกาส เดือนๆหนึ่งจะถ่ายอยู่เฉลี่ย 15 ม้วน ในชนิดฟิล์มที่ต่างๆกัน และนำมาล้างฟิล์มกับน้ำยาที่ผมหามาสต็อกเพื่อหาจับคู่ที่ลงตัวที่สุด และศึกษาเทคนิควิธีล้างฟิล์มแปลกๆใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา เหล่านี้คือความจริงใจที่ผมส่งต่อให้กับกลุ่มลูกค้าด้วยความสุข และเต็มใจที่จะตอบคำถามทุกคำถาม บางครั้งผมก้ได้ความรู้กลับมาจากน้องๆเหล่านี้ในสิ่งที่ผมไม่รู้ เป็นการแชร์ประสบการณ์ควบคู่ไปด้วย

คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังในเรื่องการทำธุรกิจอย่างไร?

ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวคนจีน ผมได้คลุกคลีกับธุรกิจมาตั้งแต่วัยเรียนหนังสือ วิธีการปลูกฝังของเค้าไม่มีความซับซ้อนเลย เค้าสอนให้เราขยัน ตื่นเช้ามามีหน้าที่เรียนหนังสือ หลังเลิกเรียน และวันหยุดหากไม่มีการบ้าน หรือทำแล้วเสร็จ ต้องมาช่วยงานร้าน และทำงานบ้าน ปลูกฝังเรื่องคุณค่าของเงินที่หามาได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ปลูกฝังให้อยู่กับความลำบาก ไม่ให้อยู่สบายเหมือนเด็กคนอื่นๆ ซึมซับแบบนี้เรื่อยมาจนเติบโต ผู้ใหญ่ก็ค่อยๆป้อนหลักการทำธุรกิจเรื่อยมา ไปโยงถึงคำถามก่อนหน้านี้ นั่นก็คือความจริงใจที่มีต่อการทำธุรกิจ (ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบ ไม่โลภ เป็นต้นครับ) ด้วยความที่ธุรกิจการถ่ายรูป ฝีมือเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นคุณพ่อจะคอยให้คำแนะนำในเรื่องเทคนิคการถ่ายรุป การแต่งภาพ การออกไปหาความรู้ใหม่ๆตามWork Shop ที่ทางบริษัทหยิบยื่นเข้ามา ไปดูงานแฟร์ว่าเทคโนโลยีตอนนี้ล้ำหน้าไปถึงไหน พาผมไปเยี่ยมร้านเพื่อนๆคุณพ่อที่เค้าประสบความสำเร็จใจกลางเมืองกรุงเทพ ผมโชคดีที่มีคุณพ่อและคุณแม่ให้ความใส่ใจและคอยอบรมสั่งสอนเรื่อยมา

ทั้ง ๆ ที่เค้าเองทำแต่งานแทบไม่มีเวลาให้ แต่ผมกลับรู้สึกว่า ผมได้รับการปลูกฝังจากท่านทั้ง2ด้วยความเอาใจใส่ไม่ขาดเลย ส่วนคุณแม่จะคอยให้ผมดูตัวอย่างคุณพ่อให้เป็นแบบอย่างของคนที่ทำงานหนัก และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากคนที่ไม่มีอะไรเลยนับจากศูนย์ และที่สำคัญที่สุดที่ท่านทั้ง 2 ให้การสนับสนุนในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนในชั้นสูงๆ เนื่องจากเค้าไม่ได้เรียนมาสูง โอกาสในด้านต่าง ๆ จึงน้อย ผมจึงมีโอกาสนำความรู้ และประสบการณ์การใช้ชีวิตมาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจได้ดีมากๆครับ

ดำเนินธุรกิจมากี่ปี เปิดมากี่สาขา มีอุปสรรคอย่างไรบ้าง?

ธุรกิจเราดำเนินมา 50 กว่าปีเศษ เปิดสาขารวม 4 สาขา อุปสรรคของการทำธุรกิจร้านถ่ายรูปขอตอบเป็นส่วนของดิจิทัล และฟิล์ม  ดิจิทัล : ในยุคปัจจุบันค่อนข้างจะเห็นชัดเจนในเรื่องของเทคโนโลยีการปริ้นที่คนไม่นิยมปริ้นเหมือนก่อน จำนวนในการปริ้นจึงลดลงอย่างมหาศาล ส่งผลกระทบหนักมากลามไปถึงเครื่องปริ้นที่ลงทุนเป็นหลักล้าน 3-5ล้านต่อ1เครื่อง คือน้ำยาอัดรูปค่อยๆเสื่อมสภาพลง หากจำนวนการปริ้นลดลง เพราะไม่มีการเสริมน้ำยาให้สดใหม่ น้ำยาจึงเกิดการตกตะกอน

สีของภาพที่ปริ้นออกมาจึงหม่น ผิดเพี้ยน วิธีที่แก้ได้ คือ ต้องเดรนน้ำยาทิ้ง และผสมน้ำยาใหม่ นั่นก็เป็นต้นทุน หากเป็นแบบนี้บ่อยครั้งผลกำไรก็จะหายไป จนต้องขายเครื่องทิ้ง นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร้านถ่ายรูปปิดตัวลงหลายร้านในหาดใหญ่ เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน ปัจจุบันจึงเกิดเครื่องปริ้นที่มีขนาดเล็กลง และราคาถูกลงเป็นหลักแสน แต่งานปริ้นยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของโทนสีภาพเหมือนเครื่องปริ้นที่ผ่านๆมา ประกอบกับเวลาในการปริ้นต่อ1ชม.ยังไม่ดีเท่าเครื่องปริ้นยุคก่อน

ส่วนในส่วนของฟิล์ม การนำเครื่องล้างฟิล์ม เครื่องสแกนฟิล์มที่มีอายุอานามค่อนข้างมากกลับมาใช้ใหม่กับกระแสการใช้กล้องฟิล์มที่เยอะมากของน้องๆลูกค้าหน้าใหม่ เรื่องความขัดข้องของระบบต่างๆของเครื่องย่อมมีแน่นอน มันเป็นการนำเครื่องเก่ามาใช้งาน เราจึงต้องดูแลระบบฟันเฟือง สายพาน น้ำยาที่มีอยู่หลายตัวในเครื่องเดียว ให้อยู่ในมาตรฐานที่สุด เนื่องด้วยอะไหล่ต่างๆก็หายากมาก การบำรุงรักษา คอยเช็คเครื่องไม้เครื่องมืออยู่ตลอดเวลาเป็นคีย์สำคัญอย่างมากเพื่อเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และอีกปัจจัยสำคัญในเรื่องระบบไฟฟ้าของมหานครหาดใหญ่ค่อนข้างมีการตกบ่อย แล็บเราต้องมีระบบการติดตั้งตัวสำรองไฟ เพื่อลดผลกระทบที่มีกับการทำงานตรง ถือเป็นตัวแปรที่เราแก้ตรงต้นทางไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุมมันได้หากมันจะเกิด

วันหนึ่งอยากจะพัฒนาร้านให้ไปแค่ไหน ในรูปแบบใด?

เรื่องการทำธุรกิจ ผมคิดทุกวันว่าอยากจะให้มันเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกำลังและทรัพยากรที่เรามี ไม่เร่งรีบจนเกินไป หากถามว่ามาร์จิ้นกลุ่มคนเล่นกล้องฟิล์มเยอะมากแค่ไหน? ตอบได้ว่าน้อยมากหากเทียบกับกล้องดิจิทัล ถามว่ากล้องฟิล์มกลับมาครั้งนี้เป็นเพียงกระแสมั๊ย? ตอบได้ว่าเป็น และไม่เป็น ผมยังมองว่ามันยังคงจะเติบโตไปอีกไกล เพราะเสน่ห์ของมันที่กล้องดิจิทัลไม่มีในหลายๆปัจจัย ด้วยความที่ผมทำธุรกิจนี้ด้วยใจรักมากๆ การเติบโตมันค่อยๆเห็นภาพไปทีละเล็กละน้อย กราฟค่อยๆชันขึ้นๆ

วัตถุประสงค์ในตอนเริ่มต้นเปิดแล็บผมไม่ได้คาดหวังว่าต้องปัง หรือบูมมาก เพราะตลาดบ้านเรายังเล็กมาก หากเทียบกับกรุงเทพฯ แต่มันดันไปไกลเกินกว่าที่คาดไว้ มาถึงจุดนี้ผมก็ดีใจ ภูมิใจ มีความสุขมากแล้วกับการเริ่มต้นกับภรรยาเพียงลำพัง 2 คน แต่สิ่งที่ผมได้เริ่มทำไปบ้างแล้วตามปณิธานคือ การให้ความรู้กับน้องๆลูกค้าในเรื่องของการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม เป็น Work Shop ที่ชื่อว่า ' ชวนกันถ่ายภาพ ' จัดกิจกรรมนี้มา 2ครั้ง โดยไม่มีคชจ.ใดๆ อยากให้น้องๆมีพื้นฐานที่ถูกต้อง และได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆเพื่อนำไปต่อยอดกันเองได้ จะทำไปเรื่อยๆ

ส่วนรูปแบบอื่นๆที่ตั้งใจไว้ว่าอยากจะทำ คือ อยากให้แล็บAnalog ของเรามีกล้องฟิล์ม เลนส์ อุปกรณ์เสริมต่างๆแบบครบวงจร พร้อมด้วยบุคลากรที่เราเทรนนิ่งคอยให้คำแนะนำในการใช้กล้องฟิล์ม และอื่นๆอย่างเป็นมืออาชีพ และที่อยากจะให้บรรลุที่สุดคือ อยากให้มี Community คนที่เล่นกล้องฟิล์มได้มีที่ๆได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ณ สถานที่หนึ่งที่ผมอยากจะสร้างมันขึ้นมาให้เกิดเป็นรุปธรรมในหาดใหญ่บ้านเกิด ครอบคลุมไปถึงแกลเลอรี่โชว์งานหมุนเวียนของน้องๆ เชิญช่างภาพทั้งใน และตปท.มาแชร์ความรู้ หยิบยืมแลกเปลี่ยนกล้องฟิล์มใช้กันได้ และมีห้องสมุดกล้องฟิล์มที่มาแล้วทุกคนต้องได้ความรู้กลับไป เมืองหาดใหญ่คงมีสีสันน่าดูครับ

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง