ไม่กลัวแม้สภาพร่างกายที่เจอจะสยดสยองและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด อุทิศชีวิตและร่างกายเพื่อช่วยเหลือสังคม ทำงานเต็มที่ทุกครั้ง ไม่ว่าเคสนั้นจะหนักเพียงใด
หาดใหญ่โฟกัส ขอแนะนำ “กระแต” นางสาวเมธาวี รักษาผล ให้ทุกคนรู้จักกับผู้เสียสละอีกท่านหนึ่ง ที่อุทิศชีวิตและร่างกายเพื่อช่วยเหลือสังคม ไม่กลัวแม้สภาพร่างกายที่เจอจะสยดสยองและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ทีมงานมีโอกาสได้พูดคุยกับ “พี่กระแต” หรือเจ้าของฉายา “กู้ภัยปากจัดจ้าน” เชื่อว่าในแวดวงจิตอาสา และกู้ภัยหาดใหญ่คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการทำงานที่เต็มที่ทุกครั้ง ไม่ว่าเคสนั้นจะหนักเพียงใด
"พี่กระแต" ได้เล่าจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่สังคมจิตอาสา อดีตเคยทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง กว่า 11 ปี ในตำแหน่ง กัปตันและแคชเชียร์ ระหว่างที่ทำงานก็เป็นอาสากู้ภัยมาตลอด ว่างจากงานประจำก็มาช่วยที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ ตลอดเวลา 4-5 ปี ที่ได้ใช้ชีวิตเป็นอาสากู้ภัยพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของตนเองให้มากที่สุด จนทางมูลนิธิเห็นความตั้งใจจริง จึงชักชวนมาเป็นเจ้าหน้าที่อยูในชุดบริการแรงงานสงเคราะห์ (ชุดเก็บศพ) และได้บรรจุเข้าทำงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
หากถามว่าทำไมถึงเลือกเดินเส้นทางนี้มันอาจไม่สวยหรู และต้องทำด้วยใจที่รัก "พี่กระแต" เล่าว่า
จุดที่อยากเข้ามาอยู่ในงานอาสาคือ จากที่เราไปเจออุบัติเหตุทั่วไป แล้วอยากจะเข้าไปช่วย แต่เราไม่รู้วิธีที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เลยตัดใจเข้ามาฝึก มาเรียนและหาประสบการณ์จากรุ่นพี่ และหลักสูตรต่าง ๆ ที่เปิดสอน หาความรู้มาตลอด จนเกิดความชำนาญ ทำให้เรามีความมั่นใจ และทำได้ถูกต้อง หลังจากนั้นทำมาเรือยๆ ไม่ว่าจะขึ้นรถพยาบาล จับงู ช่วยเหลือสัตว์ และหน้าที่หลักจริงๆ จะอยู่ในแแผนกเก็บศพ
ทุกครั้งที่พบศพกลัวไหม แล้วเคสหนักสุดคือ ………..
ไม่เคยกลัว!! เพราะคิดว่าจะทำหน้าที่สุดท้ายส่งผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด เคสที่หนักสุดที่เเคเจอ คือผู้หญิงนอนให้รถไฟทับ คอขาด ทุกส่วนของร่างกายเละ ตับ ไต ใส้ พุงกระเด็นไปถึงหลังคาบ้านเราก็ตามเก็บชิ้นส่วน ส่วนเล็กส่วนน้อยให้เขาให้ครบสมบูรณ์ที่สุด
และการช่วยเหลือทุกครั้งก็ไม่เคยหวังผลอะไรเลย เพียงแค่ต้องการช่วยเหลือตอนทุกคนประสบเหตุ ถ้าเขาปลอดภัย พาตัวเองกลับไปหาครอบครัว กลับถึงบ้านเจอคนที่รักนั่นคือเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการ อาจจะมีคนแค่ส่วนน้อยที่คิดว่าพวกเราหวังผล ถ้าคนที่รู้จริงๆ จะรู้ว่าใจพวกเราเกินร้อยที่คิดจะช่วย และช่วยจริงๆๆ เพราะทุกครั้งที่เราอออกไปช่วย ไม่เคยจะเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งนี้ “พี่กระแต” ยังฝากว่าพวกเรากู้ภัยไม่เคยต้องการอะไรจากสังคมเลย แค่คำขอบคุนพวกเราก็ชื่นใจแล้ว และขอความร่วมมือจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในขณะทีใด้ยินเสียงไซเรน ขอให้ช่วยหลีกทางให้พวกเรา เพราะแค่เสี้ยววินาทีมันสำคัญกับชีวิตจริงๆ
"ป้าบ่วย" เจ้าของร้านฮับเซ่ง สภากาแฟที่ตั้งอยู่คู่เมืองเก่าสงขลาร่วม 100 ปี
25 ตุลาคม 2567 | 1,959"หมี ศุภวิชญ์" ทายาทรุ่นที่ 4 ไอติมบันหลีเฮงสงขลา ส่งตรงจากรุ่นอากงอาม่ากว่า 100 ปี
15 ตุลาคม 2567 | 2,145"โกหล่าย" ทายาทรุ่นที่ 2 ร้านตัดผมสมบูรณ์เกษาหาดใหญ่
21 สิงหาคม 2567 | 829ดอกผลของความเพียร สู่ทุเรียนสองฝนสวนบังบา สวนแรกเริ่มจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียน(เขาพระ)
18 สิงหาคม 2567 | 451ป้าแอด หญิงแกร่งแห่งอำเภอรัตภูมิ ยึดอาชีพทำนาจนเกิดเป็นแบรนด์ข้าวสังข์หยด สบายแสนคูหาใต้
23 มิถุนายน 2567 | 918"ลุงแจ้ว"สามล้อถีบรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสงขลา ขี่สามล้อถีบมากว่า 59 ปีกับอาชีพที่รักและมีความสุข
13 มิถุนายน 2567 | 1,302"หลวงทุ่งจินดา" ขวัญใจเด็กสะเดา แจกนมขนมฟรี ทำมานานกว่า 17 ปี ผู้ให้ที่มีแต่ความสุข
29 เมษายน 2567 | 971"คนสงขลา" ศิษย์เก่า ม.ขอนแก่น รุ่นที่ 1หมายเลขนักศึกษา 001 คณะเกษตรศาสตร์
6 กุมภาพันธ์ 2567 | 28,080