วันนี้อีกหนึ่งบทความเรื่องราวดี ๆ จากเจ้าของธุรกิจ ที่เรียกได้ว่าเป็นครูในการปูทางให้ร้านกาแฟชื่อดังหลายร้านในหาดใหญ่ เป็นที่รู้จักไปทั่วของวงการกาแฟพื้นที่หาดใหญ่และจังหวัดสงขลา วันนี้ หาดใหญ่โฟกัส จะพาไปทำความรู้จักกับพี่เม่น มนทัต เหมพัฒน์ วัย 43 ปี จากอาจารย์มหาวิทยาลัย สู่เจ้าของร้านกาแฟ Foresto Cafe ที่ดำเนินกิจการมานับ 6 ปี ภายใต้ข้อคิดและวิธีบริหารที่ดีจากพี่เม่น และเป็นลูกชายคนเดียว จึงได้ตัดสินใจกลับมาบ้านเกิดและเริ่มงานสายที่ตัวเองรักอย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้ตัวพี่เคยเป็นอาจารย์ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สอนอยู่ที่นู้นนานกว่า 7 ปี ก็เหตุผล ๆ หลักที่ลงมาอยู่ที่นี่อาจจะเพราะด้วยว่าพี่เป็นคนหาดใหญ่ แต่เราแค่ไปเรียนที่กทม. แล้วก็เริ่มงานที่นั่น แต่ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ที่ต้องกลับมาคุณพ่อคุณแม่ก็อายุมากแล้ว และเป็นลูกชายคนเดียว จึงได้ตัดสินใจกลับมาบ้านเกิดและเริ่มงานสายที่ตัวเองรักอย่างจริงจัง
จุดเริ่มต้นด้านกาแฟ เป็นมายังไง การศึกษา แรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้พี่เปิดร้านนี้ ?
- ด้วยอาชีพของเราเดิมทีเราเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย พอเรามาอยู่หาดใหญ่ ที่หาดใหญ่ก็ไม่มีสาขานั้นโดยตรงที่จะให้เราทำงานเดิมได้แบบต่อเนื่อง จึงเป็นแนวคิดที่ว่าเรากลับมาแล้วจะเริ่มต้นทำอะไรดี ตอนนั้น1ในสิ่งที่เราสนใจมานานแล้วก็คือกาแฟ เราก็เป็นเหมือนคนอื่นที่ชอบในบรรยากาศของร้านกาแฟ เราเองก็เป็นคนชอบกินกาแฟ ขอบใช้ชีวิตในร้านกาแฟ รวมถึงเราเป็นสถาปนิกก็ชอบในเรื่องของการออกแบบอาคาร และอยากมีร้านในฝันของเราที่เป็นธุรกิจเกี่ยวข้องในสิ่งที่ชอบ คราวนี้จึงได้ไปเรียนรู้ในด้านของกาแฟ ก็เรียนรู้จากร้านที่เป็นร้านประจำของเราถามพี่เขา เขาเองเล็งเห็นว่าเราสนใจจริง ที่จะเรียนเพื่อเอามาใช้งานได้จริงในอนาคต
พอเราเรียนรู้ปั๊บสิ่งที่เราสัมผัสได้นั่นคือความสนุก เราชอบด้วยเราตื่นเต้นกับมัน และได้วางแผนในการจะจัดตั้งร้าน จนกลับมาหาดใหญ่และเริ่มออกแบบตัวอาคารในพื้นที่ดินของเรา คือเรามองว่าที่ดินตรงนี้คุณปู่คุณย่า คุณพ่อคุณแม่ เขาเก็บรักษาต้นไม้เอาไว้ จึงได้ไอเดียว่าความเป็นร้านกาแฟในแบบที่เราชอบ "ก็คืออยากให้คนมาแล้วสบายใจ" มันจึงเป็นร้าน Foresto Cafe ในแบบที่เราต้องการและเราก็มีสิ่งนั้นอยู่เลยเอาทั้งสองมารวมกัน นั่นคือพื้นที่ของร้านกาแฟสีเขียว ที่มีต้นไม้ในเมือง มีลานจอดรถที่สะดวก ถัดมาจึงได้ออกแบบอาคารและเริ่มการก่อสร้างเป็นปี จนถึงเริ่มเปิดร้านมาจนถึง 6 ปี โดยมีแค่ตัวผมภรรยา และญาติที่ช่วยกันทำ
คือทราบมาว่าพี่เม่นเหมือนครูคนหนึ่งด้านงานกาแฟของร้านดังหลายร้านในหาดใหญ่ ตรงจุดนี้เรามองยังไงบ้าง ?
- ตรงนี้ต้องบอกว่าเรารู้จักกันในบรรดาหมู่ร้านกาแฟอาจจะไม่ทั้งหมด แต่ก็ส่วนนึงเลย โดยเฉพาะร้านที่เปิดในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน พอเราเริ่มขยับขยายทีมงานก็มีคนเข้ามาเรียนรู้ในร้านเรา น้องไผ่ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนรู้ และก็ได้ร่วมงานกัน จนน้องมีความพร้อมและออกไปเปิดร้านของตัวเอง บางร้านก็เป็นลูกค้าประจำ มีความฝันที่จะทำ เมื่อมีความพร้อมก็เปิดร้านกาแฟ เลยทำให้เรารู้จักกันได้กว้างขึ้น ที่มาจากกันและกัน
ในอนาคตพี่อยากจะทำอะไรกับสายงานทางด้านนี้บ้าง เพื่อให้ร้านกาแฟในหาดใหญ่คือที่สุดของความยืนหนึ่ง?
- จริง ๆ พี่มองว่าธุรกิจร้านกาแฟ มันเป็นธุรกิจนึงที่ใครหลายคนฝันถึง มันก็จะมีใครหลายคนที่กระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้ บางคนกระโดดเข้ามาแล้วค้นพบว่ามันไม่ใช่ภาพของการทำงานทั้งหมด ตอนที่เรามองจากภายนอกหรือเราประทับใจร้านกาแฟเราจะเห็นแค่บางมุมเฉย ๆ ในส่วนของผู้บริโภค แต่พอมาวันนึงที่เราต้องเป็นผู้ให้บริการเอง พอมาทำอาจจะค้นพบว่ามันไม่ตรงกับชีวิต
แต่อีกอย่างที่พี่บอกว่ามันเป็นธุรกิจที่เต็มไปด้วยคนที่เข้ามา ทำให้ส่วนแบ่งมันเยอะเมืองหาดใหญ่เองก็ไม่ใช่เมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดนั้น ไม่ใช่เมืองที่เล็กนะ แต่ก็ไม่ใช่เมืองที่ใหญ่มาก เพราะฉะนั้นส่วนแบ่งที่มันมาถึงมันอาจจะไม่ได้เป็นภาพฝันอย่างที่เขาคาดหวัง สุดท้ายก็อาจจะคิดว่าเขาอาจจะเอาเวลาไปใช้ในอย่างอื่น
เพราะว่าในธุรกิจนี้จะมีทั้งคนที่เข้ามาและออกไป ค่อนข้างเยอะ ในส่วนของตัวเราเองตั้งแต่วันที่เราทำ เราเรียน เราชอบ พอเราชอบเราจึงคิดว่าเราจะรักษาความยั่งยืนของมันยังไง ทั้งในรูปแบบธุรกิจ และพนักงานของเรา แล้วก็บนเงื่อนไขต่าง ๆ ที่หมุนเวียนไป
ส่วนตัวเราเองก็พยายามที่จะรักษาธุรกิจในช่วงที่มีการแข่งขันสูง ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ เช่นโควิค-19 ปรับตัวและเอาตัวรอด จุดแรก ๆ ก็คือเราต้องรักษสิ่งที่มีไว้ รวมทั้งมาตรฐานที่เคยทำได้ดี พอเราทำงานซ้ำ ๆ มันจะมีจุดที่เราต้องศึกษาเพิ่มเติม ทำให้ศาสตร์ของเราเริ่มลึกขึ้น ในส่วนของร้านพี่ เราก็วางไว้แล้วในอนาคตจะมีการขยับเพิ่มเติม จากในส่วนของร้านกาแฟจะมีการคั่วเองเพิ่มขึ้น แต่ต้องรอความพร้อมในระยะหนึ่ง เวลาที่เหมาะสม
ข้อคิด ข้อจำกัด แนวคิดในการเปิดร้านธุรกิจกาแฟ และธุรกิจอื่น ๆ ?
จริง ๆ มีได้หลายแบบที่พี่คิดว่ามันเป้นเส้นทางที่ดีอันนึง เวลาที่เราสนใจเรื่องอะไรก็ตาม อยากให้เราเข้าไปทำมันให้จริงก่อน มันจะเป็นเรื่องที่ดีก่อนที่จะเริ่มต้น ถ้าเราไปศึกษาจากคนที่เขามีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างตั้งแต่ระดับนักศึกษา เด็กไทยค่อนข้างจะเรียนตามเสต็ป จบมาก็ทำงานค้นพบตัวเองในวัยทำงาน และคิดว่ามันไม่ตรงกับสาย จริง ๆ ช่วงเวลาในวัยเรียนของเรามหาวิทยาลัย 4-5 ปี เวลาตรงนั้น ถ้าเรามีความฝันในอาชีพอะไรสักอย่าง เราไม่ต้องรอให้ถึงเวลาที่ต้องฝึกงานหรอก เราพยายามเอาตัวเองไปฝังไปเรียนรู้กับคนที่เราอยากให้เขาเป็นครู
พอเราเรียนรู้จากสิ่งนั้น เราจะเริ่มรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ใช่ไหมที่เราควรจะดินต่อ หรือเราจะรู้เองว่าในสิ่งที่ใช้ตรงนั้นdetail ของมันความละเอียดมันคือแบบไหน เราจะเริ่มต้นแบบไหน เริ่มต้นยังไง ร้านกาแฟเองใครมองผิวเผินมันก็คือร้านกาแฟ แต่หากมองให้ลึกมันมีรายละเอียดเฉพาะเจาะจงหลายอย่าง และไม่ต้องเสียเวลาในการลงทุนก่อนที่จะลงมือทำ ส่วนนึงจะเกิน 50 % ที่รู้ว่ามันไม่ใช่ และอาจจะต้องเสียเวลากลับไปนับ 1 ใหม่ จึงอยากฝากไว้ให้คิดกันครับ
"ป้าบ่วย" เจ้าของร้านฮับเซ่ง สภากาแฟที่ตั้งอยู่คู่เมืองเก่าสงขลาร่วม 100 ปี
25 ตุลาคม 2567 | 1,960"หมี ศุภวิชญ์" ทายาทรุ่นที่ 4 ไอติมบันหลีเฮงสงขลา ส่งตรงจากรุ่นอากงอาม่ากว่า 100 ปี
15 ตุลาคม 2567 | 2,145"โกหล่าย" ทายาทรุ่นที่ 2 ร้านตัดผมสมบูรณ์เกษาหาดใหญ่
21 สิงหาคม 2567 | 829ดอกผลของความเพียร สู่ทุเรียนสองฝนสวนบังบา สวนแรกเริ่มจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียน(เขาพระ)
18 สิงหาคม 2567 | 453ป้าแอด หญิงแกร่งแห่งอำเภอรัตภูมิ ยึดอาชีพทำนาจนเกิดเป็นแบรนด์ข้าวสังข์หยด สบายแสนคูหาใต้
23 มิถุนายน 2567 | 918"ลุงแจ้ว"สามล้อถีบรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสงขลา ขี่สามล้อถีบมากว่า 59 ปีกับอาชีพที่รักและมีความสุข
13 มิถุนายน 2567 | 1,302"หลวงทุ่งจินดา" ขวัญใจเด็กสะเดา แจกนมขนมฟรี ทำมานานกว่า 17 ปี ผู้ให้ที่มีแต่ความสุข
29 เมษายน 2567 | 971"คนสงขลา" ศิษย์เก่า ม.ขอนแก่น รุ่นที่ 1หมายเลขนักศึกษา 001 คณะเกษตรศาสตร์
6 กุมภาพันธ์ 2567 | 28,081