ครูเปรียบเสมือนเรือจ้าง เราส่วนใหญ่จะเคยได้ยินประโยคนี้จนคุ้นหู เรือจ้างหมายความว่าอย่างไร ถ้าตามความเข้าใจแล้ว คือ เรือที่เราจ้างเพื่อส่งเราไปถึงฝั่ง หมายความว่าเรือที่ต้องทำตามความประสงค์ของลูกค้า ในที่นี้คงหมายถึง นักเรียน ประโยคสวยหรูนี้ดูสวยงาม แต่ความจริงกลับไม่สวยอย่างที่คิด เพราะครู คือ ผู้ที่มีความสามารถให้คำแนะนำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการเรียน สำหรับนักเรียน หรือ นักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน มีหน้าที่ หรือมีอาชีพในการสอนกับวิชาความรู้ หลักการคิดการอ่าน รวมถึงการปฏิบัติและแนวทางในการทำงาน และนอกจากการสอนแล้ว ครูยังเป็นผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี สอนในคุณงามความดีเพื่อเป็นแม่แบบให้เด็กได้ปฏิบัติตามทั้งต่อหน้าและลับหลัง
หาดใหญ่โฟกัส จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับเรือจ้างลำหนึ่ง ที่รักและประกอบอาชีพครูมากกว่า 13 ปี นั่นคื นางสาวจันจิรา หิรัญรัตน์ (ครูจันเจ้า) ฃครูชำนาญการ (คศ.๒) ปัจจุบันทำการสอน โรงเรียนเทศบาล ๑ คลองแหอัจฉริยะ สาขาวิชา วิชานาฏศิลป์ จบการศึกษา ระดับปริญญาตรี เอกนาฏศิลป์และการละคร ปริญญาโท การบริหารการศึกษา
ครูจันเจ้า ได้บอกกับเราว่า หัวใจของความเป็นครูอยู่ที่ “ความสุข” ความสุขที่เกิดจากการที่นักเรียนของครู ทำงานร่วมกับครูในการค้นหาความจริงที่ท้าทาย มันเป็นความสุขและกำลังใจ เพราะหลายครั้งที่ครูเกิดการท้อแท้ เสียใจ หรือสับสน แล้วครูก็จะมองตนเองเป็นผู้ที่หมด ต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นร้อยแปด และหลายครั้งที่ความคิดและจินตนาการของครูถูกปิดกั้น ครูมีความรู้สึกว่าบุคคลหรือสิ่งต่างๆ รอบข้างตัวครู ดูเสมือนจะเป็นศัตรูกับครูไปหมด
ก้าวแรกที่สอนนักเรียนในโรงเรียน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น ความตั้งใจ ความสุขและความปรารถนาที่จะเป็นครูด้วยอุดมการณ์ การสอนและนักเรียนเป็นความสุขของครู ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นการเรียนรู้ของครูทุกคน ครูต้องดึงพลังของครูให้กลับคืนมา ปัญหาและอุปสรรคใดๆ ก็ไม่สามารถมาทำลายสิ่งที่เรารักได้
การเป็นครูจึงมิใช่เป็นเรื่องง่าย ครูจะมองเพียงแค่ตน จะได้อะไรจากความเป็นครู จะได้อะไรจากเด็ก จากผู้ปกครอง เท่านั้น คงไม่ใช่ แต่ครูต้องมองในทางกลับกันว่า ครูจะให้อะไรกับเด็ก จะให้อะไรกับผู้ปกครองและชุมชน หลายต่อหลายครั้งที่ สิ่งที่ครูทำวันนี้เพราะเป็นสิ่งที่ครูทำเมื่อวานนี้ หรือ เพราะครูคิดว่า นี่คือสิ่งที่เขาได้รับการคาดหวังว่าจะต้องทำอย่างนี้
เมื่อใดที่ครูได้รู้จักสังเกต ตั้งคำถาม รู้จักที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง สะท้อน ความคิดและผลิตวิธีการใหม่ๆ ซึ่งมีผลกับนักเรียน นักเรียนก็จะเรียนรู้ ด้วยความมีชีวิตชีวา เมื่อใดที่ครูหยุดการพัฒนาและหยุดแสวงหาวิธีการ และแนวทางใหม่ๆ ในการจัดการการเรียนรู้ เด็กๆ ก็จะหยุดพัฒนาเช่นเดียวกัน คนเราทุกคนก็หวังที่จะประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น แต่เส้นทางที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็แตกต่างกันไปตามแนวทางและแนวความคิดของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุก ๆ คนจะต้องมีข้อคิดอะไรบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นเตือนใจอย่างแน่นอน
ความมหัศจรรย์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้...
เริ่มต้นมาจากฝันกลางวันของคนบางคนนี้แหละ...
หนังสือดีเพียงเล่มเดียว....
สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้....
ความคิดดีๆ...เพียงความคิดเดียว...
สามารถสร้างแรงบันดาลใจ
ให้เด็กวัด..กำพร้า...อดอยากยากจนขนาดต้องแย่งหมากิน...
ทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้....
เรา...ไม่สามารถรู้ได้ว่า...เราจะบินได้สูงแค่ไหน...
จนกว่าเราจะ...กางปีก...แล้วบิน...
ตราบใดที่คุณยังไม่ลงมือทำ...
อย่าเชื่อว่าคุณทำไม่ได้...
สิ่งข้างต้นถือว่า เป็นข้อคิดให้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี
ครูเชื่อว่าผลคะแนน หรือ เกรดค่าเฉลี่ย ไม่ได้การันตีว่าลูกศิษย์จะเก่งมากหรือน้อยอย่างไร แต่ครูคิดเสมอว่า เมื่อไหร่ที่ลูกศิษย์ของครูประสบความสำเร็จ และมีอาชีพที่มั่นคง นั่นสามารถการันตีได้ว่า ลูกศิษย์ของครูเป็นคนเก่ง นี่คือสิ่งที่ชอบที่สุด และเอามาเป็นความหวัง และเป็นสิ่งกระตุ้นตัวเองเสมอ
ความรู้สึกของตนเอง ในฐานะเป็นครูนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ ถือว่าเป็นรากเหง้าของไทย เป็นศิลปะการแสดงและการอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่ต่างชาติทั่วโลกยอมรับเป็นอย่างดี นาฎศิลป์เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าศิลปะแขนงอื่น ๆ ความสำคัญของนาฎศิลป์สามารถ กล่าวได้ว่า นาฎศิลป์แสดงความเป็นอารยประเทศ บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองดีก็ด้วยประชาชนมีความเข้าใจศิลปะ เพราะศิลปะเป็นสิ่งมีค่า เป็นเครื่องโน้มน้าวอารมณ์ โดยเฉพาะศิลปะการละคร มีความสำคัญสามารถกล่อมเกลาจิตใจหรือโน้มน้าวอารมณ์ไปในทางที่ดี เป็นแนวทางนำให้คิดและให้กำลังใจในการที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่บ้านเมืองสืบไป
นาฎศิลป์เป็นแหล่งรวมศิลปะ ประกอบด้วยศิลปะประเภทต่าง ๆ มาเกี่ยวข้องสอดคล้องกัน เช่น ศิลปะการเขียน การก่อสร้าง การออกแบบเครื่องแต่งกาย และวรรณคดี ศิลปะแต่ละประเภทได้จัดทำกันด้วยความประณีตสุขุม ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยศิลปะเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของชาติ มนุษย์ทุกชาติทุกภาษาต้องมีศิลปะของตนไว้เป็นประจำนับแต่โบราณมาจนถึงทุกวันนี้ รวมความว่านาฎศิลป์มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น สร้างความเป็นแก่นสารให้แก่บ้านเมือง
ผลงาน/รางวัล ที่ภูมิใจ
1. การแข่งขันการประกวดนาฏศิลป์
2. การแข่งขันทักษะวิชาการของนักเรียน
3. รางวัลครูดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2558
4.รางวัลผลงานครูยอดเยี่ยม
"ป้าบ่วย" เจ้าของร้านฮับเซ่ง สภากาแฟที่ตั้งอยู่คู่เมืองเก่าสงขลาร่วม 100 ปี
25 ตุลาคม 2567 | 1,959"หมี ศุภวิชญ์" ทายาทรุ่นที่ 4 ไอติมบันหลีเฮงสงขลา ส่งตรงจากรุ่นอากงอาม่ากว่า 100 ปี
15 ตุลาคม 2567 | 2,145"โกหล่าย" ทายาทรุ่นที่ 2 ร้านตัดผมสมบูรณ์เกษาหาดใหญ่
21 สิงหาคม 2567 | 829ดอกผลของความเพียร สู่ทุเรียนสองฝนสวนบังบา สวนแรกเริ่มจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียน(เขาพระ)
18 สิงหาคม 2567 | 451ป้าแอด หญิงแกร่งแห่งอำเภอรัตภูมิ ยึดอาชีพทำนาจนเกิดเป็นแบรนด์ข้าวสังข์หยด สบายแสนคูหาใต้
23 มิถุนายน 2567 | 918"ลุงแจ้ว"สามล้อถีบรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสงขลา ขี่สามล้อถีบมากว่า 59 ปีกับอาชีพที่รักและมีความสุข
13 มิถุนายน 2567 | 1,302"หลวงทุ่งจินดา" ขวัญใจเด็กสะเดา แจกนมขนมฟรี ทำมานานกว่า 17 ปี ผู้ให้ที่มีแต่ความสุข
29 เมษายน 2567 | 971"คนสงขลา" ศิษย์เก่า ม.ขอนแก่น รุ่นที่ 1หมายเลขนักศึกษา 001 คณะเกษตรศาสตร์
6 กุมภาพันธ์ 2567 | 28,080