หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

เรื่องเล่าจากเขารูปช้าง ดวงไฟลอยจากองค์เจดีย์
10 พฤษภาคม 2563 | 12,943

ย้อนอดีตไปยังถิ่นเดิมของคนเขารูปช้าง อ. เมือง  จ. สงขลา  เดิมมีหมู่บ้านเป็นหย่อม ๆ ชื่อบ้านในบ้าน ,บ้านสวนขี้กวาง,บ้านสวนเจ้ากล้อง ( เดิมบ้านเหล่านี้อยู่ในบริเวณม. ทักษิณ ) บ้านโคกปรักแรด (เดิมอยู่บริเวณ ม. ราชภัฏสงขลา ) ห่างไกลออกไปได้แก่บ้านสะพานยาวและบ้านยวน

สำหรับบริเวณหน้าพ่อทวดช้างอยู่ในเขตหมู่ที่สอง  ในปัจจุบันเดิมเป็นป่ารกมาก มีสัตว์นานาชนิด เช่น  เสือโคร่ง  แรด  หมูป่า  กวาง  ฯลฯ  ต้นไม้ใหญ่มี  ต้นตะเคียน  ต้นแค  และไข่เน่า  ฯลฯ  ไม่มีใครกล้าเข้าไปในบริเวณนี้ ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4  นายบุญสังข์  ณ สงขลา  ได้รับแต่งตั้งเป็นพระยาวิเชียรติคีรี มีตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการปกครองเมืองสงขลาและได้เป็นประธานรวมศรัทธาชาวสงขลาสร้างองค์เจดีย์ประจำเมืองสงขลาขึ้นบนยอดเขารูปช้าง  เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง  ก่ออิฐถือปูน  ซึ่งกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติในหนังสือราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75  ลงวันที่  8  มีนาคม  พ.ศ. 2478  พระเจดีย์ดังกล่าวเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวสงขลาและที่ใกล้เคียงพร้อมกับจัดงานทำบุญทุกปีเป็นประจำดังปรากฏมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับเรื่องเล่าเกี่ยวกับองค์พระเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์นี้มีว่าชาวบ้านหลายคนมักจะเห็นดวงไฟ 2 ดวงลอยออกจากองค์เจดีย์ แล้วมาตกลงที่ต้นเลียบซึ่งอยู่ตีนเขารูปช้างนั้น  ดวงไฟกลมโตสองดวงนี้เท่าศีรษะมนุษย์ผู้ใหญ่ มักเกิดยามค่ำคืนในวันพระขึ้นหรือแรม 15 ค่ำ  ( นายนำ แก้วคีรี อายุ 77 ปี พ.ศ. 2556 บ้านอยู่หลังตึกคณะมนุษย์ ฯ ม. ทักษิณ คือหนึ่งคนในผู้เห็นดวงไฟนี้เล่าให้ฟังช่วงที่อายุยังเด็กจนเป็นผู้ใหญ่สมัยยังไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างปัจจุบัน) คาดว่าในอนาคตคงได้เห็นการพัฒนาเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขารูปช้างนี้อย่างเป็นรูปธรรม  เพราะในปัจจุบันมีเพียงการสร้างบันใดขึ้นไปยังไม่ถึงยอดเขา  ผู้ที่ต้องการขึ้นไปกราบไหว้องค์พระเจดีย์ต้องปีนป่ายขึ้นไปตามเนินเขาที่สูงชันดังกล่าว 

สำหรับพ่อทวดช้างอันเป็นที่มาของชื่อภูเขาลูกนี้มีเรื่องเล่าว่า  พญาหลักเก้านำบริวารมาจากเมืองทางใต้ไม่ทราบว่ามาจากเมืองใด  ด้วยมีจุดหมายว่าจะนำทรัพย์สมบัติไปร่วมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์แห่งเมืองนครศรีธรรมราช  พอมาพักไพร่พล  ณ ที่ตรงนี้เกิดลมพายุใหญ่จึงไม่สามารถเดินทางต่อไปได้และช้างสองเชือกชื่อพลายแก้วและแม่พังงาก็มาตายลงตรงบริเวณนี้ พร้อมกับบังดอเลาะห์และบังสม ซึ่งนายครวญช้างก็ตายด้วย พญาหลักเก้าจึงได้ฝังช้างและนายครวญช้างพร้อมกับทรัพย์สมบัติในบริเวณนั้น  พร้อมกับสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่ในถิ่นนั้นมาจนล่วงลับไป 

ต่อมามีหินสองก้อนผุดขึ้นมามีรูปคล้ายช้างสองเชือกที่ตายในบริเวณนี้  ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพ่อทวดช้างคือพ่อพลายแก้วและแม่พังงา  จึงได้นามเรียกขานบริเวณนี้ว่าบ้านเขารูปช้าง  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านทำพิธีบูชาทวดเขารูปช้างช่วงเดือนเมษายนของทุก ๆ ปี  เพราะมีอภินิหารปรากฏแก่ผู้ศรัทธามากประการ  เล่าขานกันมาในชุมชนเขารูปช้างนี้มาจนถึงปัจจุบัน  เช่นเรื่องเล่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สองชาวบ้านชุมชนแถบนี้อยู่รอดปลอดภัยเพราะอาศัยบารมีองค์พระเจดีย์บนเขารูปช้างและพ่อทวดเขารูปช้างนั้น

ขอบคุณภาพข้อมูล : ดร. อุทัย เอกสะพัง

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง