คนเรามักจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่สิ่งที่เราเลือกได้นั่นคืออาชีพที่เราแสวงหามาใช้ในการดำเนินชีวิต ต้องบอกก่อนว่าต้นทุนเราต่ำมีมาไม่เหมือนชาวบ้านอะไรที่เราอยากได้เราต้องหาเองทำเองหมด ต้องสู้แบบชาวบ้านกว่าจะมามีวันนี้มันไม่ง่ายเลย
เมื่อก่อนเองตัวพี่จุ๋มก็ทำเสริมสวยจนรู้สึกว่าร้านเสริมสวยมันบูมมากเกิดขึ้นหลาย ๆ ร้าน พี่จึงเกิดความคิดที่อยากจะเปลี่ยนตอนนั้นคือพอจะเปลี่ยนก็รู้เลยเราอยากสักคิ้วมันเลยมีที่มาของคำว่าช่างจุ๋มเกิดขึ้นที่นี่สัมภาษณ์มาขณะนี้แล้วเราไปฟังเรื่อราวเต็ม ๆ ของช่างจุ๋มกันเลยดีกว่า
ให้ช่างจุ๋มเล่าเรื่องราวชีวิตก่อนจะมามีวันนี้ให้ฟังหน่อย ?
- เริ่มแรกจากที่สนใจแล้ว เราเริ่มหาอาจารย์เลยที่สำคัญต้องดูงบประมาณด้วยว่าเอาที่เราไหวเราเรียนได้ เพราะช่วงนั้นค่าเรียนก็สูงนะ 20,000-30,000 บาท พอเจอที่โอเคก็เลือกไปเรียนเลย หลังจากกลับมาก็ทำสักคิ้วโดยตรงเลยมันก็เครียดอยู่ประมาณนึงถ้าให้บอกเวลาเป็นปี กว่าจะลงตัวลูกค้าจะติดพอลูกค้าเริ่มติดพี่ก็ย้ายจากร้านที่เคยอยู่ที่เดิมเล็ก ๆ ขยายให้ใหญ่ขึ้นมาอยู่ปัจจุบันคือตรงนี้
ช่างจุ๋มร้านเดิมที่พี่เล่าให้ฟังเนี่ย พี่ขยายความให้ฟังหน่อยได้ไหมเป็นมาอย่างไรก่อนจะมามีร้านนี้ ?
- พี่พูดตรง ๆ เลยนะเมื่อก่อนพี่ลำบากมากอาศัยวัดอยู่อาศัยตรงที่ดินของวัด คือพอเราได้มาทำสักคิ้วเราก็เปลี่ยนไปเลย เมื่อก่อนอยู่น้ำกระจายพ่อแม่ค่อนข้างฐานะยากจน เราจึงพยายามที่จะผลักตัวเองทำมาหากินจากช่างเสริมสวยธรรมดาสู่ช่างสักคิ้ว จนทำให้พี่มีที่ดิน มีบ้าน มีรถยนต์ มีครบเลยตั้งแต่ทำอาชีพนี้ โดยบ้านที่ซื้อพี่สักคิ้วอยู่ 1 ปี พี่ซื้อบ้านให้หนึ่งหลัง ส่วนร้านที่เปิดอยู่นี่ก็คือเช่า บ้านพี่ไปสร้างในที่ดินที่พี่มีอยู่แล้ว
ชีวิตเปลี่ยนไปมากขนาดไหนหลังจากเริ่มทำอาชีพนี้มาโดยตลอด
- มันไม่รู้จะพูดยังไงดีอ่ะ แต่มันมีหมดเลยมีครบตามที่พี่บอกไป มันพลิกชีวิตไปเลยพลิกชีวิตคนในครอบครัว พลิกจากคนที่ไม่เคยมีอะไรจนมามีครบพี่สุขใจมาก พี่ยังโชคดีตรงที่ว่าลูกค้ายอมรับในฝีมือเราเค้าโอเคที่เลือกเราสนับสนุนเรามาโดยตลอด ถ้าไม่มีลูกค้าก็จะแอบแย่อยู่นิดนึงนะ
คิวต่อวันของพี่ประมาณกี่คนได้คะ ?
- ในแต่ละวันเลยนะ ประมาณ 10 กว่าคน คือทำกันแบบนั่งอยู่กับที่ เพราะพี่ทำคนเดียวด้วยพี่ไม่ค่อยอยากมีลูกน้องเพราะคงไม่มีใครอยากจะมาทำกับลูกน้องใครก็อยากทำกับช่างทั้งนั้น ซึ่งเราก็เปิดมา 2 ปีล่ะ ถ้าเปลี่ยนไปทำกับลูกค้าจะโอเครึเปล่า พี่ก็คิดตรงส่วนนี้ด้วยเลยทำเองดีกว่าเหนื่อยหน่อยแต่คุณภาพเราไม่ลดลง
ขอทราบได้รายพี่นิดนึง ?
- ต่อเดือนเลยนะมันก็เป็นยอดที่สูงใช้ได้ 100,000 - 300,000 บาทเลยนะ เพราะว่าสักคิ้วต่อคนคนละ 1,000 กว่าบาทแล้วไงแล้วพี่รับ 10 กว่าคนด้วยในแต่ละวันและพี่ก็ทำครบทุกอย่างด้วย ทั้งสักคิ้ว ลบลิ้ว แก้คิ้ว ทุกอย่างเลยที่เกี่ยวกับคิ้ว
แอบเห็นป้ายรางวัลจากต่างประเทศมากมายในร้าน พี่จุ๋ม บอกเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับรางวัลนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ ?
- รางวัลแรกตรงนั้นที่ได้รับมาเป็นของบริษัท GM เขามาค้นหาพวกช่างใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยไปประกวดที่ไหนเลย และพี่ก็อยู่ในจุดนั้นที่ไม่เคยไปประกวดที่ไหนเลย อาจารย์ที่พี่เคยเรียนด้วยเขาเลยส่งพี่ไปประกวดพี่เลยตัดสินใจขึ้นไปกรุงเทพเพื่อประกวด ซึ่งไมไ่ด้คิดด้วยว่าเราจะได้ด้วยคนมาแข่งตั้ง 300 กว่าทั่วประเทศ แต่พอประกาศมันดีใจมากเป็นชื่อพี่แล้วได้มา 2 รางวัล รางวัลคิ้วสไลด์ที่ 1 สักตาอินเนอร์ที่ 2 รางวัลที่พี่ได้ที่1 เขาจะให้ไปจีนและได้ไปเรียนเพิ่มเติมกับอาจารย์ระดับโลก ตรงจุดนี้ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ วันนั้นที่ประเทศจีนพี่ก็ไม่ได้อยู่รับรางวัลด้วยนะ เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้แน่ ๆ แข่งเสร็จจึงบินกลับไทยเลยแต่พอประกาศมันได้เรา.. นั่นแหละคือที่สุดในชีวิตแล้ว
ฝากแนวทางการคิดการใช้ชีวิตให้คนทั่ว ๆ ไปหน่อยค่ะ ที่เขาอยากทำอาชีพนี้หรือาชีพอื่นก็ตาม ?
- ต้องบอกก่อนว่าเราทุกคนสามารถทำได้หมดตามที่เราหวัง และอย่าลืมว่าการได้มาทั้งหมดไม่ใช่เพียงถ้วยรางวัลที่ตั้งโชว์ แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่าลูกค้ายอมรับเราด้วยเรามีงานให้ทำทุกวัน เรามีการรีวิวจริงไม่ว่าคุณจะทำอาชีพใดก็ตามที่สุดในชีวิตคือคำชมที่เราอยากได้เราก็ต้องให้ดีที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้มันก็จะออกมาดีทุกวันนี้พี่โอเคกับอาชีพนี้แล้วพอใจมาก ซึ่งถ้าหากนาน ๆ ไป อาจจะมีเรียนอะไรเพิ่มให้มากขึ้นอาจจะรับสอนตัวต่อตัวให้เขาเอาไปประกอบอาชีพต่อได้ มีวันนี้ได้เพระอาชีพสักคิ้วคนอื่นเห็นพี่เค้าก็เหลือเชื่อเลยจากที่ไม่มีอะไรเหมือนคนอื่นพี่ก็มี พี่ก็เลยอยากบอกว่าพี่ประสบความสำเร็จในด้านทำมาหากินตรงจุดนี้ ซึ่งพี่ก็พัฒนาต่อไปให้ดีที่สุดไม่ใช่มีแล้วพอเลิก แต่อาชีพเหมือนวิชาที่จะติดตัวพี่ไปตลอดชีวิต
"หลวงทุ่งจินดา"ขวัญใจเด็กสะเดา แจกนมขนมฟรี นานกว่า 17 ปี
29 เมษายน 2567 | 75"คนสงขลา" ศิษย์เก่า ม.ขอนแก่น รุ่นที่ 1หมายเลขนักศึกษา 001 คณะเกษตรศาสตร์
6 กุมภาพันธ์ 2567 | 27,029"เจ๊หลั่น"ทายาทโรงขนมเหนียนเกาหรือขนมเข่ง ทำมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ กว่า 40-50 ปี หนึ่งเดียวในสะเดา
31 มกราคม 2567 | 686ผู้ก่อตั้งเพจเรื่องนี้ฉายเถอะ คนหาดใหญ่อยากดู คอมมูนิตี้ที่เปิดกว้างต้อนรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการจะเปิดประสบการณ์การดูหนังที่ไม่เหมือนใคร
5 มกราคม 2567 | 948"น้องน้ำฝน"นางสาวสมิหลาสงขลา ประจำปี 2566 สวย เก่ง ครบ สมตำแหน่งที่ได้รับ
6 กรกฎาคม 2566 | 11,867"เซียวบ๊ะจ่าง"ป้าจำลอง ความอร่อยกว่า 80 ปี บ้านทับโกบสะเดา สูตรอาม่าชาวแต้จิ๋ว เมืองซัวเถา ประเทศจีน
21 มิถุนายน 2566 | 1,382ผู้ก่อตั้งเพจ Hatyai Connext กลุ่มคนขับเคลื่อนเมืองหาดใหญ่ ผ่านการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ในมุมมองใหม่
30 พฤษภาคม 2566 | 2,619"หินสีครีม"ช่างซ่อมหนังสือหนึ่งเดียวในย่านเมืองเก่าสงขลา
28 ธันวาคม 2565 | 2,724