สวัสดีเช้าอันสดใสหรือจะยามบ่ายของแสงแดดอ่อน ๆ เราออกมาเริ่มการออกเดินทางกันอีกหนึ่งวัน วันนี้มีหมอกควันหนาจัดอากาศไม่ค่อยเอื้อต่อการเดินทางสักเท่าไหร่ทัศนียภาพในการมองเห็นก็น้อยลงเราเลือกทริปนี้เป็นอำเภอบางกล่ำระแวกใกล้เคียงถือว่าไม่ไกลมาก อากาศที่นี่น่าจะบริสุทธิ์ดูจากต้นไม้ที่เรียงรายข้างทางแล้ว
เมื่อเราขับรถเข้ามาภายในวัดสิ่งแรกที่เราจะมองเห็นอย่างชัดเจนนั่นก็คือ "หอระฆังวัดบางทีง" ซึ่งเราได้ทราบว่าหอระฆังแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหน้าศาลาการเปรียญ สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัย พ.ศ. 2475 โดยด่านล่างของหอระฆังทำเป็นอาคารเครื่องก่อมีแผนผังเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาด 3 X 3 เมตร เจาะผนังเป็นทำเป็นโค้ง บริเวณซุ้มโค้งด้านนอกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น
ส่วนบนของหอระฆังตั้งโครงสร้างด้วยเสาไม้สี่ต้นล้อมรอบด้วยพนักก่ออิฐปูนทั้งสี่ด้านพื้นชั้นบนเป็นพื้นไม้ที่เจาะช่องส่วนหนึ่งสำหรับวางบันไดพาดจากชั้นล่างขึ้นมา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ซึ่งมีความเก่าแก่มาหลายร้อยปี
หลังจากที่เราเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงจุด ๆ หนึ่งที่มีความน่าสนใจอย่างมากไม่แพ้กับหอระฆัง มองไปทางด้านซ้ายมือเราจะเจอกับศาลาเก่าแก่หลังหนึ่งซึ่งเราได้สอบถามประวัติจากหลวงพ่อภายในวัดจึงรู้ว่าศาลาเก่า ๆ ในแต่ก่อนสามารถให้ประชาชนเข้ามานั่งพักกายใจในวัดได้แต่ปัจจุบันเสื่อมโทรมลงไปเยอะมาก
และหากเดินต่อไปอีกนิดที่ตรงนั้นแต่ก่อนเองเคยเป็น "หอพระพุทธบาทจำลองวัดบางทีง" แต่ในปัจจุบันตัวอาคารมีความชำรุดอย่างมาก แต่ทางวัดยังคงเก็บเอาไว้เพราะถือว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญต่อวัดบางทีง
หอพระพุทธบาทจำลองจะตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุโบสถสภาพปัจจุบันหลังคาชำรุด ส่วนตัวอาคารเป็นอาคารก่อด้วยอิฐถือปูนแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร มีบันไดอยู่ทางทิศตะวันตก ผนังเสาและผนังอาคารตกแต่งด้วยลวดลายรูปปั้นอย่างสวยงาม
สภาพปัจจุบันในทุกวันนี้
วัดบางทีงตั้งอยู่ริมคลองบางทีงและคลองบางกล่ำ เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2323 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใน พ.ศ. 2444 ถือได้ว่าเป็นวัดซึ่งสะท้อนการนับถือพุทธศาสนาของชุมชนตั้งแต่รัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงปัจจุบัน
ซุ้มประตูกำแพงแก้วของอุโบสถทางทิศตะวันตกเป็นซุ้มประตูทรงจตุรมุขหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา หน้าจั่วแต่งปั้นรูปครุฑและพันธุ์พฤกษา ผนังซุ้มประตูตกแต้งด้วยภาพจิตรกรรมเก่าแก่ค่อนข้างเลือนลางลงไปบ้างแล้ว
ซึ่งยังคงมีประตูด้านหลังของอุโบสถประตุปิดอย่างหนาแน่นมากเราจึงไม่สามารถเข้าไปชมข้างในได้ อุโบสถตรงนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกมีประตูทางเข้าออกทั้งสองด้าน ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย
หากเราเดินไปบริเวณโดยรอบเราจะเจอกับเจดีย์วัดบางทีง ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถมีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 24 - 25 ส่วนของยอดเจดีย์นั้นได้ชำรุดหักพังตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2547 หากเรามาทอดสายตามองไปโดยรอบเราจะเห็นหน้าบันประตูประดับด้วยปูนปั้นลายดอกไม้พันธุ์พฤกษา ปัจจุบันมีการบูรณะองค์เจดีย์ขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมส่วนฐานยืดสูงประดับซุ้มจระนำรองรับส่วนที่ซ้อนด้วยชุดมาลัยเถาและองค์ระฆังกลม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปั้น เจดีย์ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วมีบันไดทางขึ้นอยู่ทางด้านทิศตะวันตก
เราเดินชมโบราณสถานในวัดบางทีงมากันจนครบถือได้ว่าแหล่งโบราณสถานที่นี่มีอยู่อย่างมากมายและสวยงาม ซึ่งอยากให้มีการดูแลให้มากกว่านี้หากเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเขาจะได้รู้สึกประทับใจเหมือนกับที่เราไป และแล้วคงถึงเวลาที่เราควรจะลากลับแล้ว คงฝากไว้กับภาพที่สวยและงดงามเหล่านี้และหวังอย่างยิ่งว่าคนที่มาจะรู้จักบางกล่ำมากขึ้น..
ย้อนรอย 3 เรือบรรทุกขนาดใหญ่ ถูกพายุพัดเกยตื้นชายหาดชลาทัศน์-แหลมสนอ่อน
5 พฤษภาคม 2567 | 139รู้หรือไม่ ศาลาท้าวมหาพรหม ตั้งอยู่บนเขาชุมสักภายในสวนสาธารณะหาดใหญ่
5 พฤษภาคม 2567 | 88วิหารพระพุทธมารดา วัดเขาเก้าแสน สงขลา
5 พฤษภาคม 2567 | 105เจดีย์เก้ายอด วัดชูนวลรัตนาราม (วัดพยอมทอง) ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
21 เมษายน 2567 | 410"เรือ" ยานพาหนะและการเดินทางของคนสงขลาในอดีต
21 เมษายน 2567 | 1,420ยุคหม้อแหล็งแฉ็ง ยุคสมัยเครื่องทองเหลืองรุ่งเรืองของภาคใต้
21 เมษายน 2567 | 488ตำนานนางผมหอม นางไม้ผู้จิตใจดี แห่งต.อุเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
7 เมษายน 2567 | 1,683"ส้วมแดง" คนเฒ่าเล่าเรื่อง...เมืองสงขลา
7 เมษายน 2567 | 1,698