หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

สงขลา | ตำนานหลวงพ่อเฟื่อง ปัดระเบิดลงทะเลสงขลา กระโดดถีบผีทหารญี่ปุ่น
7 สิงหาคม 2562 | 18,295

เหตุการณ์โลกครั้งที่สอง นี่คือมหาสงครามที่ก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงนับเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปนับแสนนับล้านผู้คนมากมายที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย บางคนต้องสูญเสียญาติมิตร บางคนต้องไร้บ้านไร้ที่อยู่อาศัย และที่สำคัญก็คือสงครามโลกได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยโดยตรงไม่ใช่ทางอ้อมเหมือนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ยกพลเข้ามาในประเทศไทย 

 พร้อมทั้งบีบบังคับให้คนไทยต้องจำยอมเป็นพันธมิตรด้วย แม้โดยส่วนใหญ่จะไม่สมัครใจก็ตามแต่ก็ต้องจำยอม เนื่องจากเราเป็นประเทศที่เล็กการที่จะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงนั้นก็คือการฆ่าตัวตายดี ๆ นี่เอง แม้ในยามที่เราข่มใจที่ต้องทนเห็นเพื่อนร่วมชาติไปใช้แรงงานอย่างหนัก หญิงบางคนถูกพลัดพรากลักพาตัวไปกระทำชำเราให้เขาย่ำยี โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ของเรานั้น

และนี่เองคือพื้นที่ที่พี่น้องชาวไทยสูญเสียไปอย่างมากมาย และด้วยนิสัยของพี่น้องชาวใต้ที่ดุดันกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ดังวลีที่ว่าคนใต้ใจเด็ด จึงสู้ตายถวายชีวิต และทำให้เกิดวีรกรรมตำนานเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากพิษสงครามคือแถว ๆ ท่าช้างเนื่องด้วยถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักบริเวณสถานีรถไฟ มีคนตายมากมายชาวบ้านชาวช่องอยู่กันอย่างหวาดกลัวovoไม่หลับกันเป็นทิวแถวไม่รู้วันใดจะเป็นคราวเคราะห์ที่ลูกระเบิดตกใส่หลังคาบ้านตน

จนหลาย  ๆ คนต้องหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระ โดยพระองค์แรกที่พวกเรานึกถึงก็คือหลวงพ่อเฟื่อง แห่งวัดคงคาเลียบ จังหวัดสงขลา ท่านคือยอดพระเกจิแห่งแดนใต้ที่คนในสงขลาให้ความเคารพศรัทธkมากมาย พ.ศ.2484 มหาสงคราเอเซียบูรพาได้คืบเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พื้นที่ในแถบภาคใต้ ชาวสงขลาทราบดีว่านี่คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะถูกญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก มีการสู้รบกันอย่างหนักและไทยได้ยิงปืนใหญ่เข้าใส่เรือลำเลียงพลของญี่ปุ่น   กองทัพญี่ปุ่นเองก็ได้ยิงตอบโต้ ถึงแม้เราจะมีกำลังน้อยกว่าแต่เราก็ร่วมแรงกันจนสุดความสามารถ และสามารถโจมตีทหารที่มาทางรถไฟได้สำเร็จ ผลการต่อสู้ในวันนั้นทำให้ทหารญี่ปุ่นเสียชีวิตไปเกือบ 200 ราย และจังหวัดสงขลาเองเป็นพื้นที่ที่หารญี่ปุ่นต้องใช้กำลังพลมากที่สุดในการยกพลขึ้นบก

แต่แม้ว่าความใจสู้ของพี่น้องชาวใต้จะเด็ดเดียวเพียงใด แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟกองทัพญี่ปุ่นยิ่งโดนจู่โจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เพิ่มกำลังพลมากขึ้นและเริ่มปฎิบัติการที่เด็ดขาดรุนแรงโหดเหี้ยมกับชาวบ้าน ใครที่ไม่ยอมจำนนจะถูกสังหาร พวกเขานำระเบิดใส่เครื่องบินมาหย่อนลงกลางเมืองสงขลาสร้างความพังยับเยินให้กับสงขลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสถานีรถไฟและชาวบ้านในท่าช้างเองได้รับอันตรายอย่างมากต้องอยู่กันแบบหวาดระแวงในยามนั้นเองจึงไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ในยามนี้จะมีใครมาดูและคุ้มครองจนหลายคนต้องหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นก็คือหลวงพ่อเฟื่องชาวบ้านจึงเดินทางไปยังวัดคงคาเลียบ

เมื่อไปถึงพบท่านอยู่หน้ากุฎิ ในขณะนั้นยังไม่มีการเอ่ยปากพูดท่านก็พูดสวนออกมาทันทีเลยว่า "เออข้ารู้แล้วโว้ย เดี๋ยวจะให้มันเอาไปทิ้งที่ทะเลสงขลา" เมื่อหลวงพ่อพูดเสร็จท่านก็ได้กล่าวต่อ จงพาข้าไปบริเวณที่ฝังพวกญี่ปุ่น เดี๋ยวจะแจกตะกุดให้พวกเอ็งคนละอัน ในคืนนั้นหลวงพ่อได้ไปยืนอยู่บริเวณปากหลุมพื้นที่ ที่ได้ฝังร่างของทหารญี่ปุ่นไว้ท่านมาที่นี่เพื่อจะเอาดินไปทำตะกุด เหตุที่ต้องมาถึงที่นี่หลวงพ่อท่านกล่าวเพียงว่าหนามยอกต้องเอาหนามมาบก เกลือต้องจิ้มด้วยเกลือ พวกมันจะมาฆ่าเราดังนั้นเราต้องเอาดินที่ฝังศพพวกมันนี่แหละไปทำเครื่องมือป้องกันมันอีกที

เมื่อหวลงพ่อนั่งขัดสมาธิแล้วก็เริ่มใช้คาถาเรียกวิญญาณและเหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นการกระทำผ่านจิตของหลวงพ่อ ทันใดนั้นก็มีร่าวิญญาณทหารญี่ปุ่นลุกขึ้นมาจากหลุมใบหน้าดุดันขมึงขลึงดูน่ากลัว หลวงพ่อจึงเจรจากับมันไปทางจิตว่า "โยมอาตมาจะขอดินที่กลบหลุมตรงนี้เอาไปทำตะกุดหน่อยจะได้ไหม วิญญาณของทหารญี่ปุ่นไม่พูดไม่จาหรือมันฟังภาษาของหลวงพ่อไม่ออกก็ไม่รู้ พร้อมทั้งชักดาบซามูไรเข้าใส่หลวงพ่อทันใดนั้นเมื่อหลวงพ่อเห็นจึงร่ายคาถากำบังกาย วิญาณผีญี่ปุ่นกลับมองไม่เห็นหลวงพ่อ จังหวะนั้นหลวงพ่อได้ทีจึงกระโดดถีบก้านคอมันเข้าอย่างจัง"

จนมันล้มทั้งยืนพร้อมกับพูดขึ้นว่ากับผีญี่ปุ่นว่าไอหยุ่นเอ็งพูดไมได้ฟังหรอว่ะหรือฟังกูไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งส่งสายตาอันดุดันของท่านมองลึกเข้าไปของวิญญาณตนนั้นสีหน้าของทหารญี่ปุ่นซีดลงไปในทันที เพียงไม่นานก็หายวับไปกับตา ท่านจึงร่ายคาถาสะกดวิญญาณพร้อมตักเอาดินจากหลุมศพ โดยเอามาทำตะกุดสวดคาถาอยู่ 3 วัน แลเวจึงนำมาแจกจ่ายชาวบ้านเพื่อบูชาไว้ทุกบ้าน จะช่วยกำบังอันตรายจากบนฟ้า หลังจากนั้นจึงไม่มีระเบิดมาลงที่ท่าช้างอีกเลย เพราะเครื่องบินที่มาทิ้งระเบิดนั้นต่างทิ้งผิดเป้า ส่วนใหญ่จะไปทิ้งตกที่ทะเลสงขลา อย่างคำที่หลวงพ่อพูดไว้ไม่มีผิด มีเสียงร่ำลือกันว่าหลวงพ่อได้ใช้คาถากำบังอำพลางพื้นที่ จนเครื่องบินมองไม่เห็นไปทิ้งลงทะเลกันหมด จนชาวบ้านต่างยกย่องให้ท่านเป็นผู้ปัดระเบิดลงทะเลสงขลา และในที่สุดจึงลงนามยุติการสู้รบทั้งหมด 

ขอบคุณข้อมูลรูปภาพ : พลังจิต Palungjit.org , Double Colour

เรื่องที่เกี่ยวข้อง