หากพูดถึงจังหวัดสงขลา เชื่ออย่างแน่นอนว่าทุกคนต้องพูดถึงย่านการค้าในจังหวัดสงขลานั่นคืออำเภอหาดใหญ่น้อยคนที่จะรู้จักเมืองสงขลาและบางคนไม่มากก็น้อยต่างคุ้นเคยกับสงขลาดี แต่ถ้าหากถามถึงความทรงจำของทุกคนทุกคนต้องนึกถึง หาดสมิหลา รูปปั้นนางเงือก เขาตังกวน สถานที่ล้วนเป็นความทรงจำในวัยเด็กเลยก็ว่าได้
ในบางครั้งหลาย ๆ คนได้ลบเลือนความจำตรงนี้ไปบ้างแล้วเพียงแค่ในยุคนั้นสงขลาไม่ได้เป็นที่เที่ยวยอดฮิตและเป็นที่รู้จักของคนต่างจังหวัดและต่างชาติ เพราะฉะนั้นใครจะรู้ว่าสงขลามีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์มากน้อยแค่ไหนรูปทรงและเอกลักษณ์แห่งย่านเมืองเก่ามีที่มาอย่างไร วันนี้เราอยากจะนำเสนอข้อมูลกันอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคืออัตตลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมในย่านเมืองเก่าสงขลา
ย่านเมืองเก่าสงขลา มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างรูปแบบอาคารบ้านเรือนที่ได้รับการผสมผสานศาสตร์แห่งเชิงช่างโบราณอันมีเสน่ห์หลอมรวมวัฒนธรรมทั้งไทย จีน มุสลิม และตะวันตกเข้าด้วยกันไว้ให้ผู้มาเยือนได้ชมและสัมผัสถึงตึกความงามแห่งนี้โดยในย่านเมืองเก่าแห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมถึง 4 รูปแบบไว้ด้วยกันดังนี้
1. เป็นแบบตึกแถวแบบจีนดั้งเดิม สร้างขึ้นในช่วงปี 2379 ซึ่งเป็นช่วงแรกในการตั้งเมืองสงขลารูปแบบสถาปัตยกรรมส่วนหน้าจะเป็นส่วนหน้าเป็นร้านค้าขายส่วนชั้นบนใช้เก็บของมีช่องส่งของเล็ก ๆ มีความยาวจากดินประมาณ 30 - 40 เมตรและเนื่องจากเป็นแปลงที่ดินยาวผู้ออกแบบจึงออกแบบให้มีช่องว่างเปิดโล่งและในกลางส่วนอาคารหลังเป็นที่พักอาศัย กรมศิลปากรได้ระบุว่าห้องแถวแบบจีนหลังแรกของจังหวัดสงขลาตั้งอยู่บนถนนเก้าห้อง (ถนนนางงาม)
2.ตึกแถวแบบจีนพาณิชย์ โดยลักษณะจะถัดมาจากจีนดั้งเดิมการออกแบบมีอายุประมาณ 70 ปีขึ้นไป รูปกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมแบจีนดั้งเดิมแต่ประยุกต์ให้มีความทันสมัยขึ้นลักษณะที่สองเป็นอาคารตอบสนองทางการค้าไม่มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม
3.ตึกแถวแบบจีนสมัยใหม่ อันนี้ได้รับอิทธิพลมากจากตะวันตกอาคารอยู่ในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไปมีแผงปกปิดหลังคา และจะมีอักษรแสดงปี พ.ศ. ปรากฎบนแผงดังกล่าวบางหลังมีหลังคาจั่วหรือปั้นหยาซ่อนอยู่บางหลังเป็นหลังคา คสล. ส่วนใหญ่มักมี 2 - 4 ชั้น
4.ตึกแถวแบบสงขลาดั้งเดิม ( ชิโน - ยูโรเปี้ยน ) มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมตกแต่งลวดลายแบบจีนและยุโรป คล้ายกับรูปแบบที่เรียกว่าชิโนโปตุกิสจะพบมากที่ภูเก็ตต่ที่สงขลาจะไม่มีทางเดินใต้อาคาร ที่เรียกว่าหงอคากี่ อาคารจะมีช่องเปิดกลางอาคารและเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำ ซึ่งในอดีตน้ำจะมีรสชาติจืดจนสามารถดื่มได้
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่อ่านบทความนี้จบแล้วคงจะหลงรักความเป็นสงขลามากขึ้น และหากใครที่ยังไม่ได้มาเยือนอยากมาให้ลองมาเที่ยวกันสักครั้งเพราะเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะเทใจให้เมืองที่มีเสน่ห์ผสมผสานสถาปัตยกรรมเกินร้อยกันอย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : ดร.จเร สุวรรณชาต , กลุ่มภาคีคนรักสงขลา
เจดีย์เก้ายอด วัดชูนวลรัตนาราม (วัดพยอมทอง) ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
21 เมษายน 2567 | 392"เรือ" ยานพาหนะและการเดินทางของคนสงขลาในอดีต
21 เมษายน 2567 | 1,398ยุคหม้อแหล็งแฉ็ง ยุคสมัยเครื่องทองเหลืองรุ่งเรืองของภาคใต้
21 เมษายน 2567 | 471ตำนานนางผมหอม นางไม้ผู้จิตใจดี แห่งต.อุเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
7 เมษายน 2567 | 1,661"ส้วมแดง" คนเฒ่าเล่าเรื่อง...เมืองสงขลา
7 เมษายน 2567 | 1,673ย้อนรอยตลาดคลองแดน ชุมชนวิถีพุทธสามคลองสองเมือง
7 เมษายน 2567 | 1,670ย้อนรอยอดีตโทรเลข การสร้างสายโทรเลขระหว่างเมืองสงขลา-เมืองปีนัง
31 มีนาคม 2567 | 668น้ำตกคลองกอย(รัตภูมิ) น้ำตกลับๆที่ใครหลายๆคนอาจไม่รู้จัก
31 มีนาคม 2567 | 7,315