การยางแห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อวิจารณ์การแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงประเด็นข่าว/ข้อวิจารณ์การแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องและเตรียมยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเพื่อให้แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างเร่งด่วน ใน 3 ประเด็น ดังนี้
1. การใช้ยางพาราในประเทศ โดยเฉพาะในภาครัฐยังไม่สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ พร้อมขอให้รัฐบาลเปิดเผยว่า มีการใช้ยางพาราในประเทศไปแล้ว จำนวนเท่าใด หรือมีปัญหาติดขัดอย่างไร
2. ชาวสวนยางต้องมีรายได้เสริม เช่น การปลูกพืชอื่นในสวนยาง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสนับสนุนการปลูกพืชเสริมและประสานเรื่องตลาด ไม่ให้พืชที่ปลูกเสริมมีปัญหาเรื่องราคาซ้ำอีก
3. ภาคเอกชนมีศักยภาพในการนำยางพาราไปแปรรูปในชุมชน เช่น ผลิตหมอนยางพารา รองเท้า เพราะมีตลาดทั้งในและต่างประเทศรองรับ แต่ติดขัดในการจัดตั้งโรงงานระดับชุมชนเรื่องผังเมือง หากมีการเร่งรัดอนุญาตก็จะทำให้ยางพาราแปรรูปได้ต่อไป
ข้อเท็จจริง ประเด็นที่ 1. กยท.มีแผนการใช้ยางตามงบประมาณปกติ คิดเป็นน้ำยางข้น 8,802.40 ตัน และยางแห้ง 785.85 ตัน มีการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด โดยใช้น้ำยางข้น 8,802.40 ตัน และยางแห้ง 785.85 ตัน ส่วนในโครงการฯ ที่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติมและงบกลาง ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2561 และกรมบัญชีกลางยังไม่ได้กำหนดราคากลางของการทำถนนยางพาราดินซีเมนต์ ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างล่าช้า โดยแผนการใช้น้ำยางข้น 37,829.11 ตัน ขณะนี้มีการดำเนินการแล้ว 5,146.63 ตัน ยังเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 32,682.48 ตัน
ประเด็นที่ 2. การดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย มาตรา 36 กยท. ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้รับการปลูกแทนดำเนินการปลูกแทนแบบผสมผสาน โดยปลูกพืชอื่นร่วมในสวนยาง ในปีงบประมาณ 2561 กยท. กำหนดเป้าหมายการปลูกแทนแบบผสมผสานจำนวน 7,000 ไร่ ผลการดำเนินงานเกษตรกรทำการปลูกแทนแบบผสมผสาน จำนวน 8,883.20 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 126.90 ของเป้าหมาย
สำหรับในปีงบประมาณ 2562 กยท. เพิ่มเป้าหมายการปลูกแทน แบบผสมผสานเป็น 20,000 ไร่ ผลการดำเนินงานในเดือน ต.ค. 2561 จำนวน 602.15 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 3 ของเป้าหมาย
เนื่องจาก เป็นการเริ่มดำเนินการต้นปีงบประมาณ 2562 ได้เพียง 1 เดือน ประกอบกับในช่วงเดือน ต.ค. 2561 เป็นช่วงปลายฤดูฝน เพื่อให้ต้นยางพาราและพืชร่วมได้รับปริมาณน้ำฝน เพียงพอต่อการเจริญเติบโต เกษตรกรจะเริ่มทำการเพาะปลูกพืชในช่วงต้นฤดูฝน หรือประมาณเดือน มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป
ประเด็นที่ 3. เนื่องจากพื้นที่การทำสวนยางของเกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่อยู่ในเขตที่เป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งทำให้เกิดข้อจำกัดและเงื่อนไขในเรื่องของการขอจัดตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราระดับชุมชนและการขยายโรงงานแปรรูปยางพาราเพิ่มเติม
ขณะนี้ กยท. กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูล รายละเอียด ของกลุ่มสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ทั้ง 7 เขตทั่วประเทศ จำนวน 1,018 สถาบันฯ ซึ่งมีสมาชิกสถาบันฯ ทั้งสิ้น 340,822 ราย รวมถึงผู้ประกอบการด้านยางพาราเกี่ยวกับประเด็นปัญหา อุปสรรค ในเรื่องดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อกรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านกิจการผังเมือง และกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมการจัดตั้งโรงงาน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ภาพและข้อมูลจาก รัฐบาลไทย / สำนักประชาสัมพันธ์เขต 5
หาดใหญ่ | Q-CHANG จับมือ PDL ผนึกกำลังเพื่อคนรักบ้าน เปิดตัวแบรนด์
29 มีนาคม 2567 | 3,264หาดใหญ่ | Q-CHANG แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพ
26 มีนาคม 2567 | 4,817หาดใหญ่ | เปิดแล้ว! มูจิที่แรกในภาคใต้
16 กุมภาพันธ์ 2567 | 8,720หาดใหญ่ l เปิดราคาแล้ว BYDSeal ซีดานไฟฟ้า100% สุดพรีเมี่ยม
29 กันยายน 2566 | 7,236หาดใหญ่ l สุชาดาพร็อพเพอร์ตี้เปิดตัวโครงการใหม่ SUCHADA NEXUS 3
28 กรกฎาคม 2566 | 7,952หาดใหญ่ | ยกทัพตีเมืองหาดใหญ่แล้ว "JT construction"
20 มกราคม 2566 | 13,600หาดใหญ่ | สุดยอดรพ.ม.อ. เปิดตัวหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ฉลองความสำเร็จ 1 ปี
8 พฤศจิกายน 2565 | 5,660หาดใหญ่ | นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ร่วมกับภาคเอกชน แปรรูปผักตบชวา
23 สิงหาคม 2564 | 6,516