หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 37 ปี 20 เดือน ผู้ก่อเหตุรุนแรง รับสารภาพยิงเจ้าหน้าที่ – พัวพันคดีมั่นคง

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว ระหว่างปฏิบัตินั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 2 ราย ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บรายละเอียดวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้ในการขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะลุกาสาเมาะ จังหวัดนราธิวาส ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยที่พยายามหลบเลี่ยงจุดตรวจ เมื่อตรวจสอบภายในรถพบชาย 5 คน พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ หนึ่งในผู้โดยสารคือ นายอัซมัน (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีมั่นคงซึ่งมีหมายจับเป็นจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเคยหลบหนี จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอเทพา เมื่อปี 2563 ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ศาลจังหวัดนาทวี (ชั้นต้น) พิพากษา “จำคุก 8 ปี” นายอัซมัน (สงวนนามสกุล) จำเลย ความผิดฐานร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธฯ ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตไว้ในครอบครองฯ และพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นดำเนินกรรมวิธีซักถามและเชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงเหลือ “จำคุก 4 ปี 16 เดือน” (ขังจำเลยระหว่างอุทธรณ์ (อ.291/67)

และต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นจาก “จำคุก 4 ปี 16 เดือน”เป็นให้ลงโทษ “จำคุกตลอดชีวิต” นายอัซมัน (สงวนนามสกุล) จำเลย ความผิดฐาน ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธฯ ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตไว้ในครอบครองฯ และพยามฆ่าเจ้าพนักงานขณะกระทำตามหน้าที่ พกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวนลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงเหลือ “จำคุก 37 ปี 20 เดือน” (ขังจำเลยระหว่างฎีกา อ.291/67)