วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 กรณีการหายตัวไปของ นางสาวกวินณา หรือน้องฝน อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลจากนายประสิทธิพร หรือปอ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามี ให้ข้อมูลว่า คืนวันที่ 13 พ.ย. ตนเป็นผู้ขับรถกระบะสีแดง ไปส่ง น.ส.กวินนา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เพื่อรับงานตรวจเอกสารให้นักศึกษา และอ้างว่ามีรถเก๋งอีกคันมารับตัวไป จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยที่ผ่านมาสถานะภาพของตนและภรรยา ได้หย่าร้างกันมากว่า 1 ปี แต่ยังอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน โดยนายประสิทธิพร ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่นำตัว นายประสิทธิพรมาสอบปากคำอีกครั้ง กระทั่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือฆ่า นางสาวกวินนา อดีตภรรยาเสียชีวิต โดยนำร่างไปทิ้งปากท่อระบายน้ำริมถนน บริเวณขุนทะเล ซอย 3 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎรธานี แล้วใช้ใบตองปิดปกคลุมไว้ โดยวันรุ่งขึ้น ได้ย้อนกลับมาเพื่อนำปูนซีเมนต์มาโบกเทอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาทางเพื่อนๆและญาติๆ ได้นำร่างนางสาวกวินณามาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดเกาะเสือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อทำพิธีตามหลักศาสนาพุทธโดยมีครอบครัวนางสาวกวินณาคอยรอรับศพและจัดเตรียมงานศพเพื่อรอศพเดินทางมาถึงวัดซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามพูดคุยระหว่างรอศพนางสาวกวินณามาถึงวัดเกาะเสือ
จากการสอบถาม นางสาวปิ่นอนงค์ ทองชูช่วย อายุ 38 ปี กลุ่มเพื่อนสนิท เปิดเผยว่า เมื่อคืนศพน้องมาถึงไม่เกิน 3 ทุ่ม เพราะพี่จะอยู่รับผิดชอบที่นี่ มีการจัดในเรื่องแม่ครัว การจัดดอกไม้ การเช่าศาลาต่างๆ ส่วนศพจะเผาในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ไม่ว่าเขาจะขอช่วยอะไรเราก็ต้องช่วยต่อให้ตอนที่เขาอยู่อะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย ต่อให้ฝนไม่อยู่แล้วพวกเราก็เหมือนเดิม ส่วนเพื่อนๆคนอื่นๆก็ยังสนิทกันเหมือนเดิมตั้งแต่ ม.1 ประมาณ 30 กว่าคน ฝนเป็นคนที่นิสัยดีและยังสนิทกับทุกคน คาดว่าช่วงเย็นเพื่อนๆน่าจะมากันเยอะ
สุดท้ายอยากฝากถึงคนที่ทำว่าตอนทำไม่ได้คิดเลยว่าผลที่จะตามมาเป็นยังไง อนาคตฝน และที่สำคัญคือลูกของตัวเองจะอยู่กันอย่างไร เราห่วงเด็กว่าเขาจะเดินไปข้างหน้ายังไงในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราจึงห่วงว่าเด็กจะปรับสภาพจิตใจยังไง ขนาดเราที่เป็นผู้ใหญ่ยังทำใจยากต้องใช้เวลานาน ส่วนตอนนี้ทางพ่อแม่ฝน หลังจากทราบเรื่องก็ยังทำใจไม่ได้เช่นกันเนื่องจากข่าวที่กำลังดังและการกระทำที่รุนแรง สำหรับฝนแล้วฝนเป็นเสาหลักของครอบครัวแม่เป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ มีพ่อที่ดูแล
ส่วนประเด็นที่เรามองก็คาดว่าเดิดจากการหึงหวง ซึ่งฝนกับแฟนคนที่ลงมือก่อเหตุคบกันนานมากตั้งแต่จบปวช.ไป ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่สุราษฎร์ธานีแล้วก็มีลูกด้วยกัน 3 คน ถ้าให้รวมน่าจะเกือบ 20 ปีได้ พี่เองเสียใจมากเรา เป็นเพื่อนสนิทกันคบกันมาจนตอนนี้อายุ 38 ปี มีธุระอะไรก็คุยกัน เวลามาที่นี่ก็จะมีพาแม่เขาไปหาหมอเราจะคอยซัพพอร์ต เพื่อนรักเขามาก ส่วนหลังจากนี้ไม่มีฝนแล้วอาจจะลำบากเนื่องจากที่บอกไปเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่เพื่อนๆพี่คอยช่วยอยู่ เวลาพาแม่ไปหาหมอพี่ทำงานอยู่รพ. เราก็จะช่วยเรื่องยา นัดหมอให้รวดเร็วขึ้นเขาก็จะได้รีบกลับไปทำงานต่อ เห็นใจพ่อกับแม่และลูกอีก 3 คน อย่างมากตอนนี้
ต่อมาเวลา 20.00 น. ขบวนได้เคลื่อนศพนางสาวกวินณามาถึงวัดเกาะเสือ โดยมีนายสุพจน์ ตันจีบุญ หรือ พ่อพจน์ อายุ 70 ปี พ่อของนางสาวกวินณาและญาติๆรอรับศพนางสาวกวินณา
จากการสอบถาม นายสุพจน์ ตันจีบุญ หรือ พ่อพจน์ เปิดเผยว่า พ่อถามทุกวันครับว่าทำไมโทรไปฝนไม่รับ เขาบอกว่าไปตลาด ส่วนเวลาไปไหนก็มีโทรศัพท์โทรตาม เขาเหมือนโกหกไปวันๆ ให้มันเงียบไป เหมือนเนี่ยจะออกไปไหนก็จะบอกว่าฝนมาหาด้วยที่บ้านเขาพูดงี้ โดยปกติฝนจะโทรหาพ่อทุกวัน กับแม่จะวันเว้นวันเราวีดีโอคอลกันตลอด เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าลูกคนโตเขาจะมาที่นี่แล้วจะคุยกันส่วนหลาน2คนก็อยู่ทางนั้น น้องชายเขาก็อยู่ทางนั้นแล้วจะมีการเดินทางมาดูหลาน พอมารู้เรื่องน้องชายเขาก็ไม่เห็นด้วยที่พี่ชายเขาทำแบบนี้ เราเริ่มรู้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 66 แล้วแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดกับใคร เพราะเรายังไม่เห็นศพลูก
ซึ่งฝนมาบ้านล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 66 พาลูกมาเที่ยวทะเลลูกอยากเล่นน้ำ มากัน 3 คนขับรถมาปกติ เหมือนกับทุกครั้งที่เขามา แต่เหมือนเขาพูดทีเล่นทีจริงเขาว่าพ่อถ้าหนูเป็นอะไรไปไม่ต้องห่วงนะ พ่อกับแม่จะสบาย เราเลยพูดกลับไปว่าพูดอะไรเนี่ยแล้วก็หัวเราะเราเลยไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยหมดแล้วบอกไม่ต้องห่วงนะลูก หลานก็จะดูแลให้ดีๆเรื่องนี้มันต้องจบแน่พ่อให้สัญญาเพราะมีคนช่วยเหลือเยอะ ขอบคุณทุกคนครับที่ช่วยเหลือจนตามไปเจอ โดยเฉพาะพี่ๆอบต.ที่ฝนทำงานอยู่ ผมเห็นในทีวีแล้วทั้งตำรวจ อส. หน่วยงานต่างๆช่วยกันตามหา ผมไม่มีปัญญาไปเพราะภรรยาป่วย
ล่าสุดบรรยากาศเข้านี้ที่วัดเกาะเสือทางญาติได้พานางนิตยา ตันจีบุญ หรือ แม่นิต อายุ 64 ปี แม่ของนางสาวกวินณามาที่วัดซึ่งปกตินางนิตยาป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนอยู่กับที่ที่บ้านและป่วยเป็นอัลไซเมอร์อีกด้วย โดยตลอดช่วงเช้าที่นางนิตยานั่งอยู่หน้าศพนางนิตยาจะถามหานางสาวกวินณาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเข้าใจว่านางสาวกวินณาหลับอยู่ ทำใจนายสุพจน์ถึงกับจุกอกเก็บอาการไม่ให้มีน้ำตาไหลออกมา.
คลองแห | ชายวัย 18 ปี ขับมอไซค์เสียหลักลื่นล้ม
7 พฤษภาคม 2568 | 11,019ยะลา | ตั้งกรรมการสอบวินัยหลังตำรวจไลฟ์สดนาทีสลด
6 พฤษภาคม 2568 | 4,986บ้านพรุ | สลด! ตาวัย 71 ปี ดับคาที่ 1 ราย เหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนกับเก๋ง
6 พฤษภาคม 2568 | 7,746สะบ้าย้อย | แม่ทัพไพศาลลงพื้นที่สะบ้าย้อย
5 พฤษภาคม 2568 | 4,902ปัตตานี | น้ำป่าพัด 2 นักท่องเที่ยวสาวดับที่น้ำตกทรายขาว
5 พฤษภาคม 2568 | 5,486หาดใหญ่ | หนุ่มหาดใหญ่วัย 28 โดดตึกชั้น 10 รพ.ยะลา
5 พฤษภาคม 2568 | 6,230นราธิวาส l แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ด่วนหลังเกิดเหตุยิงชาวบ้าน
3 พฤษภาคม 2568 | 6,013หาดใหญ่ | อันตรายถึงชีวิต! ชายวัย 53 ปี
1 พฤษภาคม 2568 | 7,270