หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวสังคมและการเมือง

สงขลา | คืบหน้า ผู้เสียหายรวมตัวเอาผิดยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.จว.สงขลา เร่งจับนายใหญ่ สายยืม เชิดรถหนีกว่า 100 คัน
30 มีนาคม 2566 | 5,342
สงขลา | คืบหน้า ผู้เสียหายรวมตัวเอาผิดยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.จว.สงขลา เร่งจับนายใหญ่ สายยืม เชิดรถหนีกว่า 100 คัน

วันที่ 29 มีนาคม 2566จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนมาก ว่ามีนายวิเชียร ดำมี หรือ ใหญ่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/13 ถนนริมทางรถไฟนอก ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และ นางสาวนฤมล เอียดช่วย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 8 ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล โดยทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ซึ่งได้ก่อเหตุหลอกยืมและเช่ารถยนต์ก่อนเชิดหนีหาย เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา กว่า 100 คัน และผู้เสียหายได้รวมตัวทยอยเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.เมืองสงขลา เพื่อให้เร่งติดตามจับกุมตัวมิจฉาชีพทั้ง 2 คน 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ได้พบกับผู้เสียหายต่างทยอยเดินทางเข้าแจ้งความจำนวนมากเกือบ 100 คน ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ พร้อมกับมอบหลักฐานภาพรถยนต์ที่ถูกสองสามีภรรยาหลอกยืมและหลอกเช่ารถยนต์ ก่อนจะสูญหายติดต่อไม่ได้ 

ล่าสุดผู้เสียหายได้เดินทางมาที่ตึกกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.จว.สงขลา  เร่งดำเนินการจับกุมตัว นายวิเชียร ดำมี หรือ ใหญ่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/13 ถนนริมทางรถไฟนอก ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และ นางสาวนฤมล เอียดช่วย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 8 ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ซึ่งได้ก่อเหตุหลอกยืม หลอกเช่ารถยนต์ ก่อนเชิดรถยนต์หนีหายไม่สามารถติดต่อได้ เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา กว่า 100 คัน 

โดยมี พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รอง ผบก.จว.สงขลา เป็นผู้รับหนังสือแทน ก่อนเชิญให้ตัวแทนผู้เสียหายเข้าห้องประชุม 2 บริเวณชั้น 1 ตึกกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อให้ผู้เสียหายทำการชี้แจงกับเหตุการณ์ที่ขึ้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที  ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อพร้อมกับผู้เสียหาย


พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รอง ผบก.จว.สงขลา เปิดเผยว่า มีตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 30 คน ได้มาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามรถยนต์ได้ถูกคนร้ายจำนวน 2 คน นายวิเชียร์ และ นางสาวนฤมล ได้ร่วมกันฉ้อโกงหลอกให้ผู้เสียหายเอารถยนต์มาให้เช่า ซึ่งช่วงแรกๆ มีลักษณะการจ่ายเงินค่าเช่าเป็นผลตอบแทนที่น่าพอใจทำให้ผู้ที่ให้รถเช่าไป จึงได้ไปบอกต่อกับญาติพี่น้องเพื่อนฝูงให้นำรถมาให้เช่าซึ่งขาดว่าอาจจะมีจำนวนมากกว่านี้ ลักษณะนี้ก็น่าจะเป็นเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะให้ทางผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่มีการส่งมอบรถกัน ส่วนทางสืบสวนจะสั่งการให้ติดตามรถยนต์เหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนอย่างไรและจะมีการออกหมายจับ เร่งรัดให้ออกหมายจับผู้ต้องหาให้เร็วที่สุด เชื่อว่าอาจมีขบวนการที่มากกว่านี้ สองคนนี้อาจจะเป็นแค่นายหน้าแทนตัวกลางในการรับรถส่งให้แก๊งมิจฉาชีพ ซึ่งทราบว่าบางส่วนได้ถูกเอาไปจำนำ หรือรถเหล่านี้จะออกนอกประเทศตามแวชายแดนแล้วหรือยังนั้นจะต้องตรวจสอบต่อไป

ทางด้าน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จากที่ท่านรองผู้การฯ สงขลา ว่าเป็นแชร์รถเช่านั้น ตนคิดว่ายังไม่ใช่ พฤติกรรมของผู้ต้องหานั้นเข้าถึงตัวบุคคลด้วยตนเองซึ่งผู้เสียหายแต่ละคนไม่รู้จักกันเลย โดยเข้าหาผู้เสียหายด้วยความรู้จัก สนิทชิดเชื้อและมีการคุยสัญญาระยะสั้น ซึ่งทางผู้ต้องหามีการคุยสัญญาระยะสั้นมีความเดือดร้อนจำเป็นในการที่จะเอารถไปใช้งานไม่ทัน ด้วยความที่เป็นเพื่อนเป็นพี่ ด้วยความสงสาร มีรายได้จากรถยนต์ที่จอดไม่ได้ใข้

พอเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ไม่น่าจะใช้แชร์ลูกโซ่ ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้ต้องหามาเจอตัวต่อตัวไม่มีนายหน้าทั้งสิ้น ผู้เสียหายทั้งหมดที่มาเจอกันนั้นเจอกันด้วยความบังเอิญ เช่น ที่บ้านพักของผู้ต้องหา ซึ่งทางผู้เสียหายได้มาตามหารถยนต์และสอบถามผู้ต้องหาว่าเกิดอะไรขี้น เนื่องจากขาดการติดต่อและช่วงเวลาบ่ายสาม ของวันที่ 28 มีนาคม ทางผู้ต้องหาได้นัดผู้เสียหายมารับรถพร้อมกันที่สืบถามนะครับ บางคนเจอกันที่โรงพักโดยบังเอืญและตนไม่เข้าใจความหมายแชร์รถเช่าเป็นแบบไหน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับผู้เสียหาย ซึ่งมีนายวิชัย ดำมี อายุ 44 ปี ซี่งเป็นแฝดผู้น้องหน้าคล้ายกับนายวิเชียร์ ดำมี อายุ 46 ปี โดยในวันนี้นายวิชัยได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อป้องกันผู้เสียหายเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตนเป็นแฝดผู้น้องส่วนนายวิเชียร์เป็นแฝดผู้พี่ จึงต้องป้องกันตนเองไว้ก่อนหากเกิดผิดพลาด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่าหลังเรื่องนี้เป็นข่าวนายวิเชียร์ได้แอบติดต่อผู้เสียหาย เพื่อจำนำรถยนต์มาคืน โดยให้ทางผู้เสียหายหาเงิน 45,000 -50,000 บาท มาไถ่รถคืน เนื่องจากนายวิเชียร์ได้แอบนำรถยนต์ไปตั้งจำนำที่บ่อนการพนัน โดยนัดรับรถภายในป่า ซึ่งล่าสุดมีรถยนต์ที่นายวิเชียร์นำมาคืนแล้วจำนวน 5 คัน ส่วนนายวิเชียร์น้้นอยู่ระหว่างหลบหนี

 


เรื่องที่เกี่ยวข้อง