หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวเศรษฐกิจและการเงิน

สตูล | มานิ ชนกลุ่มน้อย 30 ชีวิต ออกจากป่าเรียนรู้แปลงเศรษฐกิจพอเพียง เที่ยวชมแปลงดอกไม้และบ่อเต่า
27 มีนาคม 2566 | 11,258
สตูล | มานิ ชนกลุ่มน้อย 30 ชีวิต ออกจากป่าเรียนรู้แปลงเศรษฐกิจพอเพียง  เที่ยวชมแปลงดอกไม้และบ่อเต่า

วันที่  24  มี.ค.2566  ที่ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง   อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  ได้ต้อนรับคณะชนกลุ่มน้อยชาวมานิ   จำนวน 30 คน  นำทีมโดยคุณลุงคนึง  จันทร์แดง และคุณครูนัฐ    ณัฐนันท์  โอมเพียร  ครูจิตอาสา  ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นบุคคลที่ชาวมานิกลุ่มนี้ให้ความไว้วางใจ

ซึ่งการออกจากป่าในครั้งนี้เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับชาวมานิ  ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดสตูล  ได้เรียนรู้แปลงเกษตรบนพื้นที่ 4 ไร่  ขององค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง  ที่ได้เนรมิตเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรปศุสัตว์  รวมไปทั้งด้านการท่องเที่ยว   สร้างความชื่นชอบและตื่นตาตื่นใจให้กับชาวมานิ เด็กๆ  และครอบครัวเป็นอย่างมาก 

นอกจากนี้ชาวมานิได้มีโอกาส เก็บผักจากแปลง   โดยเฉพาะผลบวบ  การให้อาหารปลาภายในบ่อเลี้ยง  รวมถึงการชื่นชมความสวยงามของไม้ดอกไม้ประดับที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม   หลังจากนั้นได้เดินทางไปศึกษาเรียนรู้ยังบ่อเต่าน้ำจืด

สร้างความสนุกสนานในการทัศนศึกษาครั้งนี้ได้ไม่น้อย  โดยชาวมานิ หลายคนสนใจที่อยากจะมีแปลงผักบ่อเลี้ยงปลาไว้ที่ทับของตนเอง  แต่ก็ดูเป็นเรื่องยากเพราะด้วยสภาพพื้นที่และเด็กๆที่ซนและมักชอบรื้อถอนทำให้ไม่สามารถเพราะปลูกได้

ชาวมานิ  บอกว่า  เคยกินผลบวบ เพราะชาวบ้านเอามาให้กินก็อยากจะปลูกไว้ที่ทับของตนเอง  แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะปลูกได้หรือไม่เพราะเคยปลูกผักอื่นๆแล้วเด็กๆชอบไปรื้อถอนต้นไม้ทิ้ง  ชื่นชอบสถานที่แห่งนี้มากถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาอีก

ขณะที่ด้านนางสำลี   ลัคนาวงศ์  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง   เปิดเผยว่า  ที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้มีทั้งปศุสัตว์แปลงผัก  ไม้ดอกไม้ประดับให้ชื่นชมความสวยงามของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงหลักปรัชญา  ซึ่งเมื่อทางอบต.กำแพง ทราบข่าวได้จัดรถไปรับชาวมานิมาศึกษาดูงาน โดยเชื่อว่าจะการเดินทางมาเรียนรู้ในครั้งนี้ทำให้เขาสามารถไปปลูกอาหาร ทานเองได้ เหลือจากทานแล้วสามารถขายได้

คุณครูนัฐ    นางณัฐนันท์  โอมเพียร  ครูจิตอาสา  เปิดเผยว่า   เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะนำไปปรับใช้ในทับ  มีอาหารที่ยั่งยืนตลอดทั้งปีหากเหลือก็นำมาขาย  โดยให้ความสนใจในการปลูกผักเลี้ยงปลาและแปลงดอกไม้ซึ่งยอมรับว่าเขาให้ความสนใจในการที่จะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองกว่าอดีตที่ผ่านมา  เชื่อว่าอนาคตช่องว่างระหว่างคนเมืองกับชาวมานิจะได้แน่นแฟ้นกันมากขึ้น  และเห็นว่าเขาต้องเรียนรู้กับชีวิตข้างนอกด้วยเพื่อที่จะมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน   สังคมคนเมืองต้องช่วยให้เขามีอาชีพที่ยั่งยืนมีรายได้ในแต่ละวันเข้ามา  ช่วยสอนและช่วยทำโครงการต่างๆให้กับพวกเขา


เรื่องที่เกี่ยวข้อง