กรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางสาวเอ อายุ 25 ปี พนักงานขับรถของบริษัแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดและอื่นๆเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า มีคนขับรถกระบะอีซูซุ แบบแคป สีดำ ทะเบียนไม่ชัด ได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ ก่อนบังคับให้จอดรถกลางถนน บริเวณฝั่งขาเข้าหาดใหญ่ ถนนเพชรเกษมเลยปั้มน้ำมัน ปตท.สาขา บางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 09.33 น.
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริษัทแห่งหนึ่งได้พบกับ นางสาวเออายุ 25 ปี ซึ่งยังคงอยู่ในอาการตกใจเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมอบคลิปหลักฐานกล้องหน้ารถ ซึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์นาทีคนขับรถกระบะชักอาวุธปืนขึ้นมา ก่อนจะขับปาดหน้าเบียดให้รถของนางสาวกัลยาณีหยุดรถกลางถนน จากนั้นคนขับรถกระบะลงมาพร้อมอาวุธปืนในมือ เดินตรงมาฝั่งทางที่นั่งคนนั่งข้าง ก่อนจะด่านางสาวเอ โดยที่อาวุธปืนยังคงอยู่ในมือ จากนั้นไม่นานเพื่อนของคนขับรถกระบะได้เข้ามาห้าม ว่า พอแล้ว พอแล้ว ก่อนที่คนขับรถกระบะจะขึ้นรถขับออกไป โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกล่ำ
ล่าสุด พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ หลังรับทราบจึงได้เชิญตัว นางสาวเอ อายุ 25 ปี และนายบอล อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางสาวกัลยานีที่ได้เดินทางมาด้วยกัน พร้อมนำรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ซึ่งเป็นรถยนต์ของผู้เสียหาย ซึ่งในวันเกิดเหตุได้โดนคนขับรถกระบะขับปาดหน้าก่อนเฉี่ยวชนที่บริเวณบังโคลนซ้ายหน้าล้อหน้ายุบลงไปเล็กน้อย เพื่อมาทำการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนสั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.บางกล่ำ ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุม นาย ประดิทรรศณ์ คงทอง อายุ 23 ปี ชาวอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส (คนชักปืน) และ นายณัฐกิจ โวหาร อายุ 21 ปี (คนนั่งข้าง) ชาวอำเภอละงู จังหวัดสตูล ได้ที่บ้านหนึ่ง หมู่ 7 ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พร้อมของกลางอาวุธปืนเทียมจำนวน 1 กระบอก รถกระบะอีซูซุดีแม็ก สีดำ แคป ทะเบียน บน-336 พัทลุง จำนวน 1 คัน ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมนำของกลางทั้งหมดที่ใช้ก่อเหตุมาทำการตรวจสอบที่ สภ.บางกล่ำ
ทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดเพื่อหารถคันที่ก่อเหตุ ชักอาวุธปืน ข่มขู่ผู้เสียหายในพื้นที่อำเภอบางกล่ำ เบื้องต้นทราบข้อมูลทะเบียนรถและผู้ครอบครองแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างสั่งให้ชุดสืบสวนออกติดตามเพื่อที่จะยึดรถและดำเนินการตามตัวคนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการออกหมายจับนั้นจากพยานหลักฐานเจ้าหน้าที่ทราบผู้ครอบครอง ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ซึ่งไม่มั่นใจว่า คนขับกับเจ้าของรถกระบะใช่คนเดียวกันหรือไม่ เกรงว่าการออกหมายจับจะผิดพลาดจึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลให้แน่ชัดก่อน แต่ 80% เป็นคนเดียวกัน
จากการตรวจสอบประวัติคนที่ก่อเหตุเบื้องต้นไม่พบประวัติอาชญากรจากทะเบียนรัฐ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาก็จะมีข้อหาการพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและจะเป็นข้อหาเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพคือทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพไปขวางเส้นทางก็ได้ ผู้เสียหายยืนยันว่ามีการเฉี่ยวชนกัน อาจจะมีการแย่งในเรื่องการเสียทรัพย์เพิ่มเติมด้วย สุดท้ายนี้อยากฝากประขาชนที่ใช้รถใช้ถนนต้องคำนึงถึงการให้อภัยกันเพราะว่าถนนหนทาง แล้วก็มารยาทในการขับขี่ ถ้าเราขับช้าก็ต้องหลบช่องทางด้านซ้ายแล้วก็การมีมารยาทในการขับรถด้วยที่สำคัญใจต้องไม่ร้อนในการขับรถ แต่ถ้าใจร้อนอุบัติเหตุเกิดขึ้นหรือไม่ ลักษณะแบบนี้ผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีกลายเป็นเป็นเรื่องใหญ่โต
จากการสอบถาม นายบอล อายุ 23 ปี แฟนหนุ่มได้เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุคนถือปืนขับเดินตรงมาที่ตนแล้วก็ด่าตามในคลิปเป็นภาษาใต้ตามที่ในคลิปที่ออกเผยแพร่ แล้วก็อาวุธปืนที่คนขับถือลงมาแล้วก็พาดที่ขอบหน้าต่างตอนนั้นตนและแฟนกลัวมาก สั่นไปหมด พร้อมกับพูดขอโทษอย่างเดียวเลยเพราะไม่รู้ว่าเราผิดตรงไหน ก็เลยพูดขอโทษไว้ก่อน ซึ่งตอนนั้นตนได้พูดกับแฟนว่า ถ้าเค้าหัวร้อนมากว่านั้นเราคงได้ตายตรงนั้น ตอนนี้เจ่าหน้าที่ตามจับได้แล้วอยากจะชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ว่าตามจับกุมตัวได้เร็วมาก แล้วก็อยากฝากถึงคนที่ชักอาวุธปืนว่า ตนกับแฟนไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจหรือป่าว ทำไมหัวร้อนได้ขนาดนั้น สุดท้ายนี้ในส่วนที่เกิดเหตุการณ์นั้น เป็นการเตือนของตัวเองในชีวิตเลย เราก็เร่งรีบ ทุกคนก็เร่งรีบ เราก็ไม่รู้ว่าใครมีธุระเร่งรีบอะไรมากกว่ากัน แต่การใช้รถใช้ถนนน่าจะมีน้ำใจกันซักหน่อยและอย่าอารมร้อนในช่วงเวลาขับรถ
ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายประดิทรรศณ์ คงทอง อายุ 23 ปี (คนชักปืน) และ นายณัฐกิจ โวหาร อายุ 21 ปี (คนนั่งข้าง) พร้อมอาวุธปืนปลอม 9 มม. (ปืนอัดลม) จำนวน 1 กระบอก และรถกระบะอีซูซุ ดีแม็ค สีดำ ทะเบียน บน-336 พัทลุง มาถึง สภ.บางกล่ำ เพื่อดำเนินการสอบปากคำ จากดารตรวจสอบช่วงบังโคลนหลังทางขวา พบร่องรอยเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งคู่กรณี ซึ่งมีสีขาวของรถยนต์เก๋งติดอยู่
จากการสอบถาม นายประดิทรรศณ์ คงทอง (คนชักอาวุธปืนและคนขับรถกระบะ) ได้เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุทางฝั่งคู่กรณีขับรถยนต์แช่อยู่ทางเลนขวา ส่วนตนนั้นรีบขับรถกระบะไปส่งเหล้า จากนั้นคู่กรณีก็เหยียบเบรครถกระทันหันเพื่อแกล้งให้รถของตนชนท้าย ตนก็เลยขับรถแซงขึ้นไปแล้วก็ปาดหน้ารถเค้าตามในคลิปเพราะตนยังไม่ทันทำอะไร ตนก็แค่เดินเข้าไปบอกว่า ขับรถยังไงให้ดูกระจกหลังบ้าง ถ้าถามว่า คู่กรณีขับแช่เลนขวานานไหม ตนบอกเลยว่าตนบีบแตรจี้ตูดสองยูเทิร์นคู่กรณีก็ยังไม่เปลี่ยนเลนถนนลงมาเลย ซึ่งถนนเลนซ้ายว่างตลอดไม่มีรถยนต์วิ่งมาซักคัน แต่คู่กรณีไม่ยอมเปลี่ยนเลนถนน
ซึ่งระหว่างทางก็มีอุบัติเหตุอยู่ถนนเลนซ้ายก่อนจะมีปัญหากัน ถามว่าตนใจร้อนไหม ตนนะใจร้อนแต่จะใจร้อนกับพวกนิสัยไม่ดี พวกที่คุยไม่รู้เรื่อง ที่ผ่านมาตนขับรถไม่เคยทะเลาะกับใคร พี่นักข่าวคิดดูว่าอาการหนักไหมทะเลาะกับคนแบบนี้ ตอนที่ตนลงไปถามแล้วพูดมาได้ไงว่าไม่รู้ ทั้งๆที่ตนบีบแตรสะเทือนทั้งถนน แล้วก็ยังมีในคลิปที่คู่กรณีบอกนักข่าวว่า ผู้หญิงเป็นคนขับรถยนต์นั้น จริงๆแล้วผู้ชายเป็นคนขับรถยนต์ต่างหาก ซึ่งบอกกับนักข่าวก็โกหกแล้ว จริงๆแล้วผู้ชายแฟนของผู้หญิงต่างหากเป็นคนขับ
ส่วนที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ขอโทษคู่กรณีแน่นอน ตนไม่ผิด เพราะคู่กรณีขับรถยนต์ไม่ดูกระจกหลังเอง ตนยืนยันไม่มีการขอโทษคู่กรณีแน่นอนเพราะไม่ได้ผิดอะไร ช่วงตอนที่ลงตนก็ไม่ได้ทำร้ายร่าง มีแต่จะไปต่อว่าคู่กรณีถ้าไม่เชื่อให้ลองไปฟังในคลิปดู ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่พามาสรุปเป็นของปลอม พกปืนอัดลมไป ซึ่งเป็นปืนยิงสุนัขเพราะตนเลี้ยงสุนัขพันธ์ุพิทบูล ช่วงก่อนเกิดเหตุตนได้เล่นกับสุนัขอยู่ ต่อมาเถ้าแก่ก็ใช้ตนให้ออกไปส่งเหล้าให้ลูกค้าและตอนนั้นตนถอดเสื้อกำลังเล่นกับสุนัขอยู่ ก่อนจะรีบหยิบเสื้อที่แขวนอยู่เอามาใส่ ส่วนอาวุธปืนอัดลมก็ใส่กระเป่ากางเกงแล้วก็ขึ้นรถขับรถออกไปเลย จากนั้นตนก็เอาปืนอัดลม ออกมาวางข้างมือบนเบาะรถ ซึ่งตนยืนยันว่าอาวุธปืนนั้นเป็นปืนอัดลม ไม่ใช่อัดแก๊ส
หลังทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแล้วเสร็จ ทางชุดสืบสวนได้นำตัวมาสอบปากคำ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ราย 4 ข้อหา ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ข้อหาสิ้นเสรีภาพ ข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวและข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ก่อนที่พนักงานสอบสวนส่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
หาดใหญ่ | หาดใหญ่คึกคัก แม่ค้าแฮปปี้! มาเลย์-อินเดีย แห่เที่ยวหาดใหญ่
31 ตุลาคม 2567 | 3,524สงขลา | ตรวจรับงานเรียบร้อยถนนใหม่ไฉไลกว่าเดิม
31 ตุลาคม 2567 | 2,873สงขลา | วอดหนักชาวบ้านเล่านาทีไฟไหม้ได้เสียงระเบิดเกิดขึ้น
31 ตุลาคม 2567 | 4,367สงขลา | แล่นเรือหนีแต่ไม่ทัน ตำรวจน้ำ รวบ 2 ราย
31 ตุลาคม 2567 | 3,557หาดใหญ่ | วอนปรับปรุงไฟแดงแยกที่มีกล้องตรวจจับ
31 ตุลาคม 2567 | 3,511หาดใหญ่ | หาดใหญ่โฟกัสขออภัย ที่นำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วน
31 ตุลาคม 2567 | 2,803สงขลา | ทำบุญกฐินปีนี้ สคร.12 สงขลา
30 ตุลาคม 2567 | 3,621หาดใหญ่ | ไขข้อสงสัย…
30 ตุลาคม 2567 | 5,415