วานนี้ (25/6/65) กรมศุลกากรเปิดแผนปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร(Narcoticcs Operation Guardian) ระหว่างไทยกับมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมสร้างเครือข่าย ทั้งในและต่างประเทศ เป็นการปิดกั้นเส้นทางการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณชายแดไทย ณ ห้องประชุมพระนิกรบดี ด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรได้มอบหมายให้ นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม ได้เปิดเผยแผนปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร" ว่าจากปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางศุลกากรทั้งท่าเรือ สนามบิน รวมทั้งแนวชายแดนต่างๆ ยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด อีกทั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 11/2564 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกแล้วนำเข้ายาเสพติด ซึ่งมีอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการ จึงเร่งรัดดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดข้ามชาติให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ที่ยังคงมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องสร้างความเสื่อมเสียและเกิดผลกระทบต่อประเทศ กรมศุลกากรจึงได้จัดทำโครงการเปิดปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร" ขึ้น
ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม กล่าวอีกว่า " ยุทธการกำแพงพระนคร" เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดระหว่างศุลกากรไทยมาเลเซียลาวกัมพูชาและเมียนมาร์ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มิถุนายน-กันยายน 2565 ในวันนี้เป็นการดำเนินการโครงการครั้งแรกระหว่างศุลกากรไทยกับศุลกากรมาเลเซีย หน่วยงานความมั่นคงไทย- มาเลเซีย ที่ด่านสะเดา ซึ่งเป็นด่านทางบกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
สำหรับครั้งต่อไปจะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ด่านศุลกากรมุกดาหารจังหวัดมุกดาหารภาคกลางที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศจังหวัดสระแก้วและภาคเหนือที่ด่านศุลกากรแม่สายจังหวัดเชียงรายร่วมกับประเทศ สปป.ลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ ตามลำดับ
ด้าน น.ส.สุไฮลา บินตี โมหัมหมัดนอร์ ( Suhaila binti Mohamad Noor) หัวหน้าแผนกบังคับคดี/รักษาการผู้อำนวยการศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม เคดาห์ “ก่อนอื่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอขอบคุณที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุมในครั้งนี้ และขอขอบข้อมูลจากประเทศไทยเกี่ยวกับคดีลักลอบขนยาเสพติดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงมาเลเซียด้วย
ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ เราหวังว่าจะทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างมาเลเซียและไทยในการปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดตามตะเข็บชายแดนแม้ว่าโรคระบาดจะยังคงอยู่ ดังนั้นเราหวังว่าด้วยความร่วมมือกับศุลกากรของไทย เราจะสามารถสัดการลักลอบนำเข้าทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางบก
เราจะเพิ่มการตรวจที่เข็มงวดมากขึ้นในการตรวจตรานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเข้าออกทางบน เรามีการตรวจผู้โดยสารไม่เว้นรถโดยสารหรือรถยนต์ส่วนตัว เราจะตรวจสอบผู้โดยสารอย่างละเอียดและเราจะให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวทั้งจากมาเลเซียสู่ไทยหรือไทยไปมาเลเซียว่ามาเลเซียยังคงห้ามการนำเข้า ยาเสพติดทุกชนิดรวมทั้งกัญชาด้วย แม้ว่าที่ประเทศไทยได้อนุญาตให้ใช้กัญชาแต่ห้ามนำเข้ามาเลเซียเด็ดขาด เราจะมีการเพิ่มการปฏิบัติตามชายแดนและทำอย่างต่อเนื่อง และเราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดไปเผยแพร่ต่อชุมชนเพราะมีคนไม่รู้ถึงโทษของยาเสพติด
ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารและการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามแดนเพื่อปกป้องสังคมให้ปลอดพ้นยาเสพติดได้อย่างยั่งยืนต่อไป
หาดใหญ่ | ชื่นชมคนขับตุ๊กตุ๊ก นำมือถือส่งคืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
3 พฤษภาคม 2567 | 2,826หาดใหญ่ | ยึดตู้เติมน้ำมันอัตโนมัติ
3 พฤษภาคม 2567 | 2,882หาดใหญ่ | ร่วมส่งกำลังใจ! เยาวชนหาดใหญ่ ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย
3 พฤษภาคม 2567 | 2,643หาดใหญ่ | แยกสนามบินในไฟริมทางเสีย ส่งผลให้ถนนมืดนานนับปี
3 พฤษภาคม 2567 | 3,174สงขลา | เตือน! 4 โรค ที่ต้องระวังในช่วงเปิดเทอม เน้นย้ำผู้ปกครอง
3 พฤษภาคม 2567 | 4,277นราธิวาส | คุมตัว! ผู้ต้องสงสัย 2 ราย
3 พฤษภาคม 2567 | 3,292สะเดา | พร้อมเปิดใช้งาน! เสร็จสมบูรณ์สามแยกทางหลวงหมายเลข 4 -
2 พฤษภาคม 2567 | 4,669สงขลา | เคลื่อนย้ายสัตว์น้ำภายในอควาเรียม
2 พฤษภาคม 2567 | 5,357