หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวสังคมและการเมือง

สงขลา | สิระพร้อมคณะกรรมาธิการกฎหมาย ลงพื้นที่ตรวจสอบเซฟเฮาส์จุดที่อุ้มซ้อปลาพร้อมนำเงินสดและทองมาตรวจสอบ และเตรียมย้ายคดีเข้ากองปราบ
24 กันยายน 2564 | 5,161
สงขลา | สิระพร้อมคณะกรรมาธิการกฎหมาย ลงพื้นที่ตรวจสอบเซฟเฮาส์จุดที่อุ้มซ้อปลาพร้อมนำเงินสดและทองมาตรวจสอบ และเตรียมย้ายคดีเข้ากองปราบ

วันที่ 23 กันยายน 2564  จากกรณีนางสาวกมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ อายุ 25 ปี แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง พร้อมทนายซึ่งได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ หมู่ 3 ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดสงขลา หลังมีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนางสาวกมลวรรณปิ่นทองพันธุ์ ก่อนตรวจยึดเงินสด 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณอีกประมาณ 60 บาท ก่อนมีการเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง ก่อนเจ้าหน้าที่ขอเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว 

ล่าสุดนายสิระ เจนจาคะ ได้เดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรสงขลา หลังมีการนัดนางสาวกมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ และทีมทนาย เข้าพูดคุยหารือถึงข้อเท็จจริง

ซึ่งนายสิระ เจนจาคะ ได้กล่าวในห้องประชุมว่า ผมเชื่อว่ามีมูลความจริง ก็เลยรับเรื่องเข้าองค์กรในนามของสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และก็จะให้เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน เข้าตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ เรื่องความปลอดภัย ส่วนซ้อปลาติดต่อมายังเลขาผมเดี๋ยวผมจะจัดการให้ 

 

ทางด้านคณะกรรมาธิการกฎหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมก็ได้ตามข่าวที่เกิดขึ้น และก็ฟังจากทุกมุมทุกมิติ และวันนี้ท่านสิระ และ พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ  ผบก.จว.สงขลา ก็ได้ฟังข้อมูลจากผู้เสียหายแล้วนะครับ ต้องนำเรื่องนี้เข้าสู้การประชุมทางระบบของเรา โดยเบื้องต้นเองก็หาข้อเท็จจริงให้ได้ก่อนว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่งล่าสุดได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้แล้ว ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ก็ต้องไปฟังทุกมุม ฟังทุกฝ่าย เรามีหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายครับ ขอแค่ไว้ใจครับ

 

พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ  ผบก.จว.สงขลา กล่าว ผมในนามของผู้บังคับการ ณ เวลานี้ ต่างฝ่ายต่างก็มีข้อมูล ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 9 สงขลา ก็ได้ส่งเรื่องมาที่นี่ หลังจากทราบเรื่องแล้ว ทางเราก็ได้ดูคำร้องต่าง ๆ ก็ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบสวน ส่วนอีกชุดหนึ่งก็จะมีชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของพนักงานนะครับ ที่เขาจะทำหน้าที่สอบสวน เพราะฉนั้นต้องเชิญผู้ร้องมาให้ถ้อยคำก่อน หากผู้ร้องมีอะไรก็สามารถพูดออกมาได้หมด ซึ่งทางภาค 9 แจ้งมาแล้วว่าในส่วนนี้ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

 

ส่วนด้านของทนายซ้อปลา กล่าวว่า ทางเราก็อุ่นใจขึ้น และก็มีความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่าทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรม ทางผมก็ไม่ได้เห็นว่าไม่ได้มาทำงานในฐานะขององค์กรสภาทนายความ ไม่ได้มาทำงานในฐานะที่เข้าข้างซ้อปลา เพียงแค่คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า เขาถูกใส่ร้ายหรือไม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เต็มที่ หากพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าเขาทำความผิดก็ทำตามกฎหมาย แต่ถ้าหลักฐานบ่งชี้ว่าเขาบริสุทธิ์ทางซ้อปลาก็ต้องยอมรับในผลครับ

และในส่วนของนางสาวกมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ หรือซ้อปลา ได้กล่าวในห้องประชุมว่า ตอนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัวมาก และก็ขอความยุติธรรมของปลา ถ้าหากว่าปลาผิดก็ว่าไปตามผิด แต่นี่ก็คือปลาไม่ได้ผิดแต่อย่างใด อยากเรียกร้องความยุติธรรมเท่านั้นค่ะ

ซึ่งทางด้านทนายก็พูดเพิ่มเติมว่า ผมห่วงความปลอดภัยครับ คืออยากให้ทางตำรวจช่วยป้องกันมากกว่า ไม่ใช่เราต้องไปร้องขอ ทำยังไงก็ได้ให้น้องปลอดภัย เพราะน้องกลัวตำรวจมาก เมื่อวานนี้สารวัตร สภ.ปากรอ ก็ไปหาที่บ้านด้วยความหวังดี แต่น้องกลัวและไม่อยากให้ใครเข้าบ้านเลย สุดท้ายผมก็แจ้งน้องว่าถ้าใครไปหาที่บ้านให้น้องโทรมาหาผมโดยตรงจะดีกว่าครับ ตอนนี้คืออยากจะได้ตำรวจที่ไว้วางใจช่วยป้องกันน้องครับ 

ต่อมาหลังมีการพูดคุยในที่ประชุม นายสิระ เจนจาคะ พร้อมคณะกรรมาธิการกฎหมาย ซ้อปลาและกลุ่มทนาย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเซฟเฮาส์ซึ่งตั้งอยู่ภายในมู่บ้านเปรมสุข บ้านเลขที่ 203 (บ้านอติเวทย์) ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นจุดที่ชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดสงขลา ได้ควบคุมตัวซ้อปลาและคนในครอบครัว พร้อมเงินสด 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณอีกประมาณ 60 บาท มาทำการตรวจสอบและมีการต่อรองขอเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยที่ประตูเข้าเซฟเฮาส์มีโซ่กุญแจคล้องล็อคประตูเอาไว้ จากนั้นนายสิระจึงได้เรียกซ้อปลาและคนในครอบครัวมายืนยันว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นเซฟเฮาส์ที่ชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดสงขลานำซ้อปลาและคนในครอบครัวจริง พร้อมกับเล่าเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุและบอกลักษณะภายในเซฟเฮาส์

จากการตรวจสอบพบป้ายชื่อที่ระบุ ชุดปฎิบัติการณ์ที่ 1 กก.สส.ภ.จว.สงขลา ติดอยู่บนประตูทางเข้าพบมีการทำป้ายขึ้นมาใหม่ ซึ่งทางน้องสาวของซ้อปลาได้นำรูปในโทรศัพท์มือถือที่แอบถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุนำมาให้นายสิระดู พร้อมกับนำรูปดังกล่าวขึ้นเปรียบเทียบว่าป้ายดังกล่าวถูกทำขึ้นมาใหม่ จากนั้นนายสิระจึงได้ให้ซ้อปลาวาดลักษณะภายในเซฟเฮาส์ว่ามีอะไรบ้าง หลังมีการตรวจสอบภายในเซฟเฮาส์จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของซ้อปลา ซึ่งเป็นจุดแรกที่ชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสงขลา ได้เข้าตรวจค้น ซึ่งระยะทางจากเซฟเฮาส์จนถึงบ้านพักของซ้อปลา ประมาณ 26 กม. 

หลังคณะของนายสิระเดินทางถึงบ้านพักของซ้อปลา ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ก็ได้มีการเรียกคนในครอบครัวของซ้อปลาทั้งหมดออกมาพูดคุยและมีการยืนยันการปฎิบัติหน้าที่ของชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมพวกอีก 6 คน ที่ทางครอบครัวซ้อปลาและทนาย ได้กล่าวถึงในการปฎิบัติงานโดยมิชอบ โดยมีการขอหมายค้นบ้านพักพื้นที่หมู่ 2 แต่นำหมายค้นมาตรวจค้นบ้านพักของซ้อปลาที่อาศัยอยู่ในหมู่ 4 

ทางด้าน นายสิระ เจนจาคะ ได้กล่าวทิ้งท้าย สุดท้ายคือทางผู้เสียหายมีหลักฐานกล้องวงจรปิดซึ่งมีภาพหน้าคล้ายๆ กัน จะปฎิเสธยังไง ไม่ว่าจะเป็นหมายศาล หรือจะอ้างว่าเป็น พรบ.ยาเสพติด และนำไปกักตัวไม่นำส่งพนักงานสอบสวน มันไม่ได้และไม่เกี่ยวกับยาเสพติดเลย เรื่องนี้ทางซ้อปลากลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่โชคดีมีทนาย มีสิทธิมนุษยชนเข้ามาจากสภาและที่สำคัญมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่เดินทางมาจากยะลาด้วยตนเองที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้

หลังจากนี้ช่วงกลางเดือนตุลาก็จะเชิญผู้การกองปราบ ผบ.ตร. กรรมมาธิการ และทนาย มาประชุมในเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ดีไม่ดีเรื่องนี้อาจขัดคำสั่งศาลด้วยซ้ำ ไปขอหมายศาลหมู่ 2 แต่มาค้นหมู่ 4  และฝากถึงตำรวจอย่ามีเลยเซฟเฮาส์นะ ทุกสถานีมีพื้นที่ให้ทำการสอบสวนอยู่แหละ อย่าทำ ไม่คุ้มหรอก พรบ. ป้องกันการอุ้มหายเนี๊ยะ เพราะได้ร่างกฎหมายมาแล้ว คนที่ทำติดคุกหมด

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางนายสิระพร้อมคณะกรรมมาธิการกฎหมายเตรียมยื่นเรื่องนี้เข้ากองปราบปรามภายในต้นเดือนตุลานี้


เรื่องที่เกี่ยวข้อง