จากการศึกษาวิจัยโดยคณะนักวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการทดสอบระดับภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น โดยเปรียบเทียบระหว่างการได้รับวัคซีนปริมาณ 1 ใน 5 ของโดสปกติเข้าใต้ผิวหนัง กับการได้รับวัคซีนปริมาณปกติเข้ากล้ามเนื้อ ในกลุ่มประชากรทั่วไปจำนวน 95 คน หลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม ผลวิจัยเบื้องต้น พบว่า
การฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า เป็นเข็มกระตุ้น ด้วยวิธีการฉีดเข้าใต้ผิวหนังในปริมาณ 1 ใน 5 ของโดสปกติ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งแอนติบอดี้ (B cells) และทีเซลล์ (T cells) ได้สูง เทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนเต็มโดสเข้ากล้ามเนื้อแบบปกติ
อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันจะอยู่ที่ 128.7 BAU/mL และเมื่อรับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็มที่ 3 ด้วยวิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นเป็น 1652 BAU/mL แต่ในกลุ่มอาสาสมัครที่รับวัคซีนเข็ม 3 แบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันระบบแอนติบอดี้ได้ถึง 1300 BAU/mL ซึ่งใช้วัคซีนปริมาณ 1 ใน 5 ของโดสปกติ (ความแตกต่างนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ)
แอนติบอดี้จะช่วยในการป้องกันไวรัสเข้าเซลล์ร่างกาย แต่ถ้าไวรัสเข้าไปแล้วต้องใช้ “ทีเซลล์ (T cells)” ในการจัดการ จึงจำเป็นต้องศึกษาภูมิคุ้มกันทั้ง 2 แบบ อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 กลุ่ม เมื่อถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามแหลมของโคโรน่าไวรัส (S1 peptide pool) สามารถหลั่งไซโตไคน์อิเตอเฟอรอนแกรมม่า (IFN-γ) เพื่อกำจัดไวรัสได้ในปริมาณที่ไม่แตกต่างกัน
การได้รับวัคซีนแอสต้าเซนเนก้าเข้าใต้ผิวหนังแบบลดโดส (ปริมาณ 1 ใน 5 ของโดสปกติ) ของกลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มมาแล้ว 4-8 สัปดาห์ หรือกลุ่มที่ได้รับมาแล้ว 8-12 สัปดาห์ ระดับภูมิคุ้มกันทั้งการสร้างแอนติบอดี้และทีเซลล์ (T cells) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
อาสาสมัครทั้ง 95 คนในโครงการวิจัย ไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรงทั้งหมด ในกลุ่มที่ได้รับการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง มีผลข้างเคียงทางร่างกาย เช่น อาการไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อย น้อยกว่ากลุ่มที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แต่มีผลข้างเคียงทางผิวหนัง เช่น อาการบวม แดง ร้อน และคัน มากกว่ากลุ่มที่ได้รับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ซึ่งอาการดังกล่าวหายเองได้ทั้งหมด
ทางคณะผู้วิจัยขอบคุณอาสาสมัครและผู้มีส่วนร่วมในโครงการวิจัยทุกท่าน ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะนำข้อมูลมาเผยแพร่ให้ทราบต่อไปเป็นระยะ
หาดใหญ่ | เตือนฝนตก ร้อยละ 20-40% ของพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 7-13
7 มิถุนายน 2567 | 4,826สงขลา | พายุ "มาลิกซี"…
2 มิถุนายน 2567 | 5,358หาดใหญ่ | อุตุแจ้ง ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรง
1 มิถุนายน 2567 | 4,941สงขลา | อุตุเตือน! สงขลาฝนตกหนักบางพื้นที่ ร้อยละ 20-60%
31 พฤษภาคม 2567 | 3,192ปัตตานี | เรือประมงช่วยเหลือ ลูกเต่าตนุกลืนเบ็ดตกปลาติดในลำคอ
28 พฤษภาคม 2567 | 3,507สงขลา | นายกชาย ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอชะลอคำสั่งรื้อโพงพาง
15 กุมภาพันธ์ 2567 | 4,922ระโนด | ทัพเรือภาคที่ 2…
14 กุมภาพันธ์ 2567 | 5,023สิงหนคร | ชาวบ้านเร่งช่วยเหลือเต่าตนุ ติดอวนพันรัด น้ำหนัก 37 กก.
13 กุมภาพันธ์ 2567 | 4,245