หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวเศรษฐกิจและการเงิน

สงขลา | เปิดด่านฟื้นการค้าชายแดน กระตุ้นส่งออกครึ่งปีหลัง
5 สิงหาคม 2563 | 10,216
สงขลา | เปิดด่านฟื้นการค้าชายแดน กระตุ้นส่งออกครึ่งปีหลัง

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เคยตั้งเป้าส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมูลค่าตลอดทั้งปี 2563 ไว้ที่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 ที่มีมูลค่า 1.337 ล้านล้านบาท แต่เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้การค้าชายแดนไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-พฤษภาคม) ซบเซาอย่างหนัก เนื่องจากการปิดด่านเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด แต่รัฐบาลยังผ่อนปรนให้เปิดด่านถาวรและจุดผ่อนปรนให้สามารถขนส่งสินค้าได้จำนวน 28 ด่าน จากทั้งหมด 97 ด่าน

การปิดด่านฯ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการทั้งส่งออกและนำเข้า เพราะไทยต่างก็ต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านกันมายาวนาน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการสินค้าไทยเป็นอย่างมากเพราะความนิยมในคุณภาพของสินค้าไทยซึ่งมีมาตรฐานสินค้าและความคุ้มค่าสูง นอกจากเราจะขายสินค้าให้เพื่อนบ้านได้มากแล้ว เรายังได้รับสินค้าที่มีความหลากหลายจากเพื่อนบ้าน ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นและยังได้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า ประชาชนคนไทยได้รับประโยชน์จากการได้ดุลการค้าเพื่อนบ้าน โดยในช่วงปี 2562 การค้าชายแดน[1] กับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย สปป. ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์)     มีมูลค่า 1,069,251 ล้านบาท เป็นการส่งออก 612,490 ล้านบาท นำเข้า 456,762 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 155,728 ล้านบาท และการค้าผ่านแดน[2] กับ 3 ประเทศ (จีน สิงคโปร์ และเวียดนาม) มูลค่า 268,031 ล้านบาท เป็นการส่งออก 136,933 ล้านบาท นำเข้า 131,098 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 5,834 ล้านบาท

เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ปลดล็อกระยะที่ 5 เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ว่า ไทยจะต้องเร่งสนับสนุนการค้าที่ด่านชายแดน และเพิ่มการค้าระหว่างไทยกับประเทศในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และไทย โดยมอบกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป

บัดนี้ ได้มีการอนุมัติให้เปิดจุดผ่านแดน และจุดผ่อนปรนเพิ่มเติม 9 จุดใน 9 จังหวัด ท่ามกลางการคุมเข้มการแพร่ระบาดไม่ให้กลับมาระบาดรอบ 2 ได้ ได้แก่

-จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือหนองคาย จ.หนองคาย

-จุดผ่านแดนถาวรบ้านคกไผ่ อ.ปากชม จ.เลย

-การผ่อนปรนเปิดช่องทาง/ท่าข้ามธรรมชาติ ตลาดแนวชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก

-จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

-จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

-จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

-จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ และจุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา

-จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

-จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี

ทำให้วันนี้ มีด่านชายแดนที่เปิดแล้วเพิ่มเป็น 37 จุด จากทั้งหมด 97 จุด เป็นด่านถาวร 31 จุด จากทั้งหมด 42 จุด  เป็นด่านผ่อนปรนการค้าและท่องเที่ยว 4 จุด จาก 52 จุด เป็นด่านผ่อนปรนพิเศษ 1 จุด และเป็นด่านชั่วคราว 1 จุด แม้ว่ายังเปิดไม่ได้ครบทั้งหมด รัฐบาลจะประสานเพื่อให้มีการเปิดเพิ่มเติม โดยเฉพาะ 11 ด่านถาวรที่เหลือซึ่งเป็นด่านติดกับเมียนมาร์และ สปป. ลาว

โดยขณะนี้ ได้มีการสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านให้พิจารณาเปิดช่องทางเข้าออกด่านจุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะเพื่อการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านแดนได้ตามความจำเป็น เพื่อบรรเทาผลกระทบและขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดน แต่จะต้องมีมาตรการป้องกันโรค และกำกับการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบและเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งหมดนี้ ทำให้มีจุดผ่านแดนเพิ่มขึ้นอีก 12 จุด ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ดังนี้

-ไทย-มาเลเซีย จำนวน 4 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา / จุดผ่านแดนถาวรด่านบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส / จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา / จุดผ่านแดนถาวรด่านตากใบ จ.นราธิวาส

-ไทย-เมียนมาร์ จำนวน 6 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี / จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสินขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ / จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน / จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยผึ้ง จ.แม่ฮ่องสอน / จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแสบ จ.แม่ฮ่องสอน / จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) จ.กาญจนบุรี

-ไทย-สปป.ลาว จำนวน 1 จุด คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน อ.สองแคว จ.น่าน

-ไทย-กัมพูชา จำนวน 1 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

ในด้านมูลค่าการค้าชายแดนในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มาเลเซีย ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้า

-มาเลเซีย  มีมูลค่าการค้ารวม 87,854 ล้านบาท ลดลง 32.43%

-สปป.ลาว มูลค่าการค้ารวม 77,172 ล้านบาท  ลดลง 6.59%

-เมียนมาร์ มูลค่าการค้ารวม 73,740 ล้านบาท ลดลง 10.96%

-กัมพูชา มูลค่าการค้ารวม 70,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.20%

นอกจากนี้ ในด้านมูลค่าการค้าผ่านแดน ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา จีนยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง โดยมีสิงคโปร์ และ เวียดนามรองลงมา

-จีน มีมูลค่าการค้ารวม 90,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.74%

-สิงคโปร์ มีมูลค่าการค้ารวม 36,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.83%

-เวียดนาม มีมูลค่าการค้ารวม 24,697 ล้านบาท ลดลง 26.71%

-ประเทศอื่น ๆ มีมูลค่าการค้ารวม 63,180 ล้านบาท ลดลง 16.85%

ทั้งนี้ การค้าชายแดนและจุดผ่านแดนของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 524,357 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คาดการณ์แนวโน้มการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2563 เชื่อว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการคลายล็อกมาตรการและเปิดจุดผ่านแดนได้ครบทุกจุด ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 และการไม่กลับมาแพร่ระบาดรอบ 2 อันจะทำให้การค้าชายแดนกลับมาคึกคักสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี


เรื่องที่เกี่ยวข้อง