วานนี้18/2/63สืบเนื่องจากเพจสมาคมผู้บริโภคสงขลา ออกมาโพสต์ภาพและข้อความว่าเย็นวันที่ 17 ก.พ.63 แอดมินไปเดินเล่นชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา พบคราบน้ำมันเลอะเทอะฝ่าเท้า สังเกตุเห็นก้อนสีดำเล็กใหญ่กระจายตามชายหาด อันตรายใครควรเตือน พบว่าคือ คราบน้ำมันที่มีอันตรายห้ามสัมผัส ถ้าแพ้ไม่มากทำให้เกิดการระคายเคืองตามผิวหนัง เป็นผื่นคัน แสบร้อน เกิดแผลและติดเชื้อได้แต่ถ้าสัมผัสนานรวมถึงสารพิษจะซึมเข้าสู่ผิวหนังทำให้เกิดอันตรายอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เช่น มะเร็งผิงหนัง เป็นต้น
ย้อนดูข้อมูลปรากฏว่าคราบน้ำมะนชายหาดที่เรียกว่าทาร์ลบอกลนี้ เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีตั้งแต่ปี 2553 ทำให้สงสัยถึงแท่นขุดเจาะแหล่งบัวบาน ที่อยู่ห่างจากฝั่งเพียงเล็กน้อยแม้ว่ากระทรวงพลังงานจะแจ้งว่า“เบื้องต้น สันนิษฐานว่าก้อนน้ำมันที่พบเกิดจากเรือเดินสมุทรที่ทิ้งคราบน้ำมันลงในทะเล ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่มีลมมรสุมพัดก้อนน้ำมันขึ้นมาบนฝั่ง”
แต่ปัจจุบัน 17 กุมภาพันธ์ 2563 เรายังพบก้อนคราบน้ำมัน ที่เรียกว่าทาร์บอล อย่างชัดเจน เด็กเล็กยังลงเล่นน้ำอย่างสนุก ไม่มีใครเตือนอันตรายที่จะเกิดจากการรับพิษ ทั้งที่มีแนวทางตามที่สนง.สิ่งแวดล้อมทำข้อมูลไว้หน่วยงานไหนควรเตือนภัย ท้องถิ่นศึกษาต้องมีหลักสูตรให้เด็กเข้าใจการใช้ชีวิตในภาวะทีมีภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง หรือธุรกิจน้ำมันควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้กระทรวงพลังงานควรมีแผนอย่างไร ไม่ให้ กระทรวงสาธารณสุขต้องรับปัญหาหนีกเพราะผลกระทบกับสุขภาพประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ในเรื่องของการดูแลและระวังตัวจากคราบน้ำมันในทะเลอย่างไรเมื่อต้องไปทะเลผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแม้จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลครั้งใหญ่ เราก็ยังพบคราบน้ำมันในทะเลได้เช่นกัน ซึ่งคราบน้ำมันในทะเลที่ พบทั่วไปจะเกิดจากน้ำมันไหลหรือรั่วซึมออกมาจากเรือประมง เรือข้ามฟาก สกูตเตอร์ หรือบรรดาเครื่องยนต์ในทะเล แต่จะเป็นการรั่วซึมในปริมาณน้อยจนเราสังเกตไม่ชัดเจน หรืออาจจะพบเห็นในลักษณะของรุ้งน้ำมันบนผิวทะเล ซึ่งคราบน้ำมันเหล่านี้ก็สามารถรวมตัวกันจนเกิด ทาร์บอลล์ (Tarball) ริมทะเลได้เช่นกันดังนั้นเมื่อไปทะเลจึงมีคำแนะนำดังนี้เลือกลงเล่นน้ำทะเลในพื้นที่ที่น้ำทะเล
เลือกลงเล่นน้ำทะเลในพื้นที่ที่น้ำทะเลมีสีเขียวใส และสังเกตว่าไม่มีคราบรุ้งน้ำมันอยู่บนผิวน้ำหลังจากขึ้นจากเล่นน้ำในทะเลจะต้องล้างตัวด้วยสบู่ให้ร่างกายสะอาจทุกครั้งในการเล่นน้ำทะเลควรระวังไม่ให้น้ำทะเลเข้าจมูกหรือปาก และไม่ควรลืมตาในน้ำทะเลหากไม่มีหน้ากากป้องกันหากพบเห็นก้อนสีดำ นุ่ม แต่มีความเหนียวหนืดคล้ายยางมะตอยตามชายหาดหรือโขดหิน อาจเป็นไปได้ว่า คือ ทาร์บอลล์ (Tarball) หลีกเลี่ยงที่จะหยิบจับหรือสัมผัส แต่หากเหยียบโดยบังเอิญ ให้รีบล้างเท้าทำความสะอาดเพื่อป้องกันสารพิษซึมเข้าสู่ร่างกายนอกจากระวังตัวเองแล้วเรายังต้องช่วยกันระวังและดูแลทะเลของเราด้วยนะคะ เพราะเราคงอยากมีทะเลสวยๆ น้ำใสๆ ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันอีกนาน รวมถึงยังช่วยรักษาระบบนิเวศทางทะเลให้คงอยู่กับเราตลอดไป
น้ำมันดิบรั่วไหลและคราบน้ำมันในทะเลอันตรายต่อสุขภาพอย่างไรการสัมผัสน้ำมันดิบหรือคราบน้ำมันในทะเลทำให้เกิดการระคายเคืองตามผิวหนัง เป็นผื่นคัน แสบร้อน เกิดแผลและติดเชื้อได้ รวมถึงสารพิษจะซึมเข้าสู่ผิวหนังทำให้เกิดอันตรายอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เช่น มะเร็งผิงหนัง เป็นต้น การสูดดมกลิ่นเหม็นของน้ำมันและสารเคมีทำให้ปอดได้รับสารพิษ เกิดอาการปอดอักเสบ โรคระบบทางเดินหายใจการรับสารพิษโดยการดูดซึมทางร่างกายอาจจะทำให้สารพิษไปสะสมในไตจนเกิดภาวะไตเสื่อมและไตวายได้ความกระทบกระเทือนทางระบบประสาท ปวดศีรษะ วิงเวียน ตาพร่า หัวใจเต้นผิดปกติ และมีเลือดออกจากอวัยวะต่างๆหากได้รับสารพิษเป็นระยะเวลานานและในระยะยาวอาจเกิดอันตรายถึงขั้นสารพิษทำลายระบบประสาทการควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถทรงตัวและไม่สามารถเดินได้เป็นปกติ และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งในที่สุด
ขอบคุณภาพข่าว : สมาคมผู้บริโภคสงขลา
สงขลา | ปฏิบัติการฝนหลวง ระดมช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรใน 4
6 พฤษภาคม 2567 | 4,326หาดใหญ่ | เตือนฝนตกหาดใหญ่! ร้อยละ 40 ของพื้นที่
6 พฤษภาคม 2567 | 4,798สทิงพระ | เร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำจากฝนทิ้งช่วง
3 พฤษภาคม 2567 | 4,559เทพา | พบแนวปะการังเกาะขาม กลุ่มปะการังอ่อนหนังและพรหมทะเล
1 พฤษภาคม 2567 | 4,763หาดใหญ่ | ร้องตรวจสอบกลิ่นเหม็น ฝุ่นละอองและเขม่าควัน
26 เมษายน 2567 | 4,890สงขลา | เฝ้าระวังการเกิดปะการังฟอกขาว
20 เมษายน 2567 | 4,695ระโนด | ลงพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ่อตรุ
11 เมษายน 2567 | 4,514หาดใหญ่ | มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20
10 เมษายน 2567 | 4,134