วันนี้ ( 20/1/63 ) หมู่ที่ 7 ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ชาวบ้านนาป๋อง หมู่ 7 ตำบลพะวง เล่าว่าบนยอดเขาสูงสุดหลานชายตนเองพบ มีเจดีย์เก่าแก่มาก ๆ จึงได้ชักชวนชาวบ้านพร้อมผู้สื่อข่าวประมาณ 50 คน เดินทางไปยังเขาชื่อว่าเขาวัดควนตามที่ชาวบ้านเขาเรียก
พอไปถึงที่เชิงเขาพบกับบ่อน้ำที่น้ำไม่เคยแห้งเลยชื่อว่าบ่อน้ำต้นทุเรียนเป็นน้ำที่ใสสะอาด มีคนที่ผ่านไปมาตักน้ำไปกินและเป็นความเชื่อว่าใครที่เจ็บไข้ไม่สบายเอาน้ำไปดื่มหายไข้ทุกคน หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้พากันเดินทางด้วยเท้า เข้าไปในเขาซึ่งภายในเขายังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอีกมากมาย เช่นมีต้นเถาวัลย์และต้นไม้ขนาดใหญ่อีกมากมาย
ระยะทางในการขึ้นไปถึงที่ยอดเขาหรือเจดีย์โบราณที่อายุหลายร้อยปีระยะทางประมาณ 1,500เมตร หรือกิโลครึ่ง ซึ่งใช้เวลาไปกลับก็ประมาณสามชั่วโมงทุกคน ได้เจอเจดีย์โบราณที่สร้างด้วยอิฐแดงสมัยก่อนรูปโครงสร้างสีเหลี่ยมประมาณ 5 ชั้น ความสูงประมาณ 7 เมตร
ซึ่งมีเถาวัลย์ขึ้นปกคลุมมีล่องลอยการขุดหาของโบราณจึงทำให้ฐานเจดีย์ผุพังในสภาพตอนนี้ มีแต่รูปอิฐและฐานเจดีย์และข้างยังมีหลักเป็นหินขนาดใหญ่คล้ายกับการสลักความหมายหรือตราสัญลักษณ์ อะไรสักอย่าง ห่างจากนั้นยังพบหินสามก้อนขนาดใหญ่กว้างวางเรียงกัน คล้ายกับเป็นกำบังของกองทัพเมืองสมัยก่อนเพราะเห็นเป็นทางช่องของหินแยกของแต่ละก้อนสามารถมองลงเห็นบรรยากาศข้างล่างได้หมด ถัดไปมีกำแพงหินขนาดเล็กๆที่มีการเอาหินมาวางทับกันเพื่อสร้างบริเวณ
จากการสอบถามนายจวน ไชยศรี อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ที่ 7 ตำบลพะวง กล่าวว่าตนเองก็อยู่ที่นี้มาตั้งแต่เกิด ตนเองจำได้ว่าเคยขึ้นไปที่เจดีย์หลายสิบปีที่ผ่านมาแต่เรื่องราวตนเองก็ลืมๆเหมือนกันแต่จำได้ว่าเจดีย์เก่าแก่มากหลายชั่วอายุคนแล้วสมัยที่ตรงแถวนี้มีความรุ่งเรืองจนไปเกิดเที่ในตัวเมืองสงขลา
และทางด้านนายสัญญา วัชรพันธุ์ ประธานตัวแทนองค์กรชุมชนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตนเองได้ชักชวนชาวบ้านขึ้นมาดูเพราะได้ยินจากคำบอกเล่าจากผู้เฒ้าผู้แก่ว่า บนเขาแห่งนี้เคยเป็นวัดกับเคยเป็นที่พักของกองทัพทหารเมืองสงขลาวัดกับกองทัพอยู่ด้วยกัน เพราะเห็นจากล่องลอยหลายอย่างมาประกอบกันและยังมีถ้ำอีกสามถ้ำอยู่ตรงกลางเขามีชาวบ้านได้เห็นแสงไฟเป็นประกายหลาย ๆ ครั้ง เคยมีคนมาหาของป่าเคยเห็นเป็นคนคล้ายทหารบ้างคล้ายกับพระนั้งสมาธิบ้าง และมีคนเคยมาเอาถ้วยจามที่อยู่ใต้เจดีย์นำไปใช้แล้วไม่คืนก็ทำให้ไม่สะบายก็ต้องเอาไปคืน
และยังมีอีกมากมายที่ต้องค้นหา ชาวบ้านได้เห็นถึงความศักดิ์สิทิ์ ของเจดีย์ และบารมีของเจดีย์ที่ทำให้คนนาป๋องและลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุขเลยคิดจะสร้างแรงศัทธาให้เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปและยังสามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒธรรมเพราะยังมีความอุดมสมบูรณ์อีกมากแถมยังอยู่ในอำเภอเมืองอีกด้วย
ชาวบ้านจึงขอเชิญชวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจเจดีย์โบราณที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองอายุเกือบห้าร้อยปี ให้ลูกหลานได้เห็นถึงความสำคัญของอารยะธรรมของชนรุ่นเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ถ้าช้ากว่านี้ยังมีพวกที่ฉวยโอกาสบุกรุกที่ดินหรือกลุ่มนายทุนเข้ามาแล้วจะได้ยินแต่ชื่อเจดีย์วัดควนนาป๋องแน่นอนนอนนี้ชุมชนนาป๋องมีความเข้มแข็ง และพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ที่ต้องห้ามพลาดอีกแห่งของสงขลา
ควนลัง | ชวนเที่ยวงานวันส้มโอหอมควนลังและของดีเมืองควนลัง วันที่ 6 -
31 ตุลาคม 2567 | 2,889หาดใหญ่ | เปิดจองพื้นที่ขายของ งานลอยกระทงสวนสาธารณะหาดใหญ่ วันที่ 15
30 ตุลาคม 2567 | 4,893สงขลา | เตรียมฟื้นฟูสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี
29 ตุลาคม 2567 | 3,747สงขลา | ห้ามพลาดคืนสุดท้ายงาน Seamila Sandwalk ชมประติมากรรมบนผืนทราย
27 ตุลาคม 2567 | 5,252สงขลา | ไทย-มาเลเซียจับมือส่งเสริมการท่องเที่ยวเปิดเส้นทาง Self-Drive
27 ตุลาคม 2567 | 3,624บางกล่ำ | อบจ.สงขลาร่วมลงนามMOU การแข่งขันกีฬาเรือยาวประเพณี ครั้งที่
26 ตุลาคม 2567 | 3,579สงขลา | ติดตั้งไฟส่องสว่างป้อมเมืองเก่าสงขลา
25 ตุลาคม 2567 | 4,008บ้านพรุ | ประกาศปิดการจราจรบางส่วน
20 ตุลาคม 2567 | 5,021