หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวสังคมและการเมือง

หาดใหญ่ | หญิงสาวป่วยโรคหลายบุคลิก ใช้ไม้เบสบอลทุบรถมอไซค์พังเสียหาย ก่อนบุกตบคู่กรณีถึงโรงพัก
19 เมษายน 2567 | 6,000
หาดใหญ่ | หญิงสาวป่วยโรคหลายบุคลิก ใช้ไม้เบสบอลทุบรถมอไซค์พังเสียหาย ก่อนบุกตบคู่กรณีถึงโรงพัก

สาวป่วยเป็นโรคหลายบุคคลิก คลุ้มคลั่งใช้ไม้เบสบอลทุบรถจักรยานยนต์พังเสียหาย ก่อนบุกตบผู้เสียหายบนโรงพัก ตร.ห้ามศึกจับใส่กุญแจยัดห้องขัง ล่าสุดเจ้าของหอและผู้เช่าหวาดกลัว ให้ทางญาติรีบมาค้นของย้ายออกทันที

วันที่ 18 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาววาสนา บุญเรียม อายุ 23 ปี ซึ่งได้ถูก นางสาวนวพร ปทุมพอง หรือ หวาน อายุ 25 ปี ใช้ไม้เบสบอลทุบรถจักรยานยนต์ของตนจนพังเสียหายทั้งคันและมีการข่มขู่หมายจะเอาชีวิตว่า หากเจอจะขับรถยนต์เหยียบให้เละ จึงทำให้ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในหอพักด้วยที่ต้องดูแล จึงเป็นสาเหตุเดินทางเข้าแจ้งความและร้องทุกข์สื่อเข้ามา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณหอพักนงลักษณ์ ตั้งอยู่ถนนศรีภูวนาท ซอย 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบริเวณหน้าพักพบมีเศษพลาสติกใส 5-6 ชิ้น เป็นเศษของไฟหน้ารถจักรยานยนต์แตกกระจัดกระจายที่พื้นถนน ส่วนรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน 1 กง 6132 สงขลา ที่โดนนางสาวนวพรใช้ไม้เบสบอลทุบพังเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ พร้อมให้นางสาววาสนา บุญเรียม เจ้าของรถจักรยานยนต์เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสองสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย  

หลังสอบปากคำนางสาววาสนาแล้วเสร็จ ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกนางสาวนวพรผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำและเจรจาไกล่เกลี่ยให้รับผิดชอบทรัพย์สินที่เสียหาย ซึ่งขณะที่นางสาวนวพรเดินทางมาถึงที่สถานีตำรวจ ปรากฎว่านางสาวนวพรได้เดินไปจิกหัวนางสาววาสนาและทำร้ายร่างกาย ทำให้พนักงานสอบสวนต้องเข้าห้ามนางสาวนวพรก่อนใส่กุญแจมือและนำตัวฝากขังก่อนชั่วคราวเพื่อให้นางสาวนวพรสงบสติอารมของตัวเอง 

จากการสอบถาม นางสาววาสนา บุญเรียม (ผู้เสียหายเสื้อแดง) ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ตนได้สั่งสินค้าราคา  890 บาท กับทางนางสาวนวพรก่อนจะมีการนัดสถานที่เพื่อรับสินค้า แต่ปรากฎว่าพอถึงเวลากลับติดต่อนางสาวนวพรไม่ได้ และทักข้อความไปแต่ก็ไม่มีใครเปิดอ่าน จากนั้นตนได้แค๊ปหน้าข้อความพูดคุยและนำไปลงโพสต์ในโซเชียลเพื่อต่อว่านางสาวนวพรจนทำให้นางสาวนวพรติดต่อกลับมาและจะรับผิดชอบชดใช้คืนเงินให้ ต่อมาวันที่ 11 มีนาคม นางสาวนวพรได้บุกไปที่บ้านของนางสาววาสนา ก่อนพบนางสาววาสนาและพ่อแม่ ซึ่งทางนางสาวนวพรพยายามจะหาเรื่องให้ได้ จนเกิดการโต้เถียงมีปากเสียงกันขึ้นกับทางครอบครัว แต่ทางนางสาวนวพรพยายามข่มขู่แจ้งความเอาผิดกับทางนางสาววาสนาข้อหาหมิ่นประมาท ที่นำภาพข้อความการสนทนานำไปโพสต์ประจานลงในโซเชียลให้ได้

ต่อมานางสาวนวพรและทางครอบครัวนางสาววาสนาเจรจาไกล่เกลียยุติเรื่องดังกล่าวและมีการคืนเงิน 890 บาท ให้กับนางสาววาสนาและตนคิดว่าเรื่องจะจบในวันนั้น จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 เมษายน ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนของตนที่หอพักนงลักษณ์ โดยไม่ทราบว่านางสาวนวพรจะพักที่เดียวกันกับเพื่อนของตน ซึ่งมาทราบภายหลังเกิดเหตุแล้ว ซึ่งตอนนี้ตนได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดนางสาวนวพรแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดตนกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยเพราะนางสาวนวพรป่วยเหมือนคนเป็นจิตเวชและเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยส่งตัวไปบำบัดอาการป่วยจิตเวชด้วย เพราะทราบว่านางสาวนวพรเคยเข้ารับการบำบัดรักษามาแล้ว 

ต่อมาแม่ของนางสาวนวพรได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนและเจรจาไกล่เกลียรับผิดชอบทรัพย์สินที่เสียหายในราคา 12,000 บาท แต่ทางแม่ของนางสาวนวพรไม่มีเงินมากพอตามที่เสนอมาบวกกับอยากให้ทางนางสาวนวพรได้มีการส่งตัวเข้าบำบัดรักษาอาการป่วยจิตเวชด้วย จึงให้ทางนางสาววาสนาดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายเอาผิดนางสาวนวพรได้เลย 

ต่อมา นายซุภชัย จันทราวิชัยกุล หรือ พี่หน่อง อายุ 45 ปี  เจ้าของหอพักนงลักษณ์ ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เพื่อลงบันทึกประจำวันและให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการให้ทางญาตินางสาวนวพรขนของออกจากหอพักโดยทันที ซึ่งทางนายศุภชัยไม่สามารถทนรับพฤติกรรมของนางสาวนวพรได้ 

จากการสอบถาม นายซุภชัย จันทราวิชัยกุล หรือ พี่หน่อง เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนได้ไปส่งเพื่อนตอนตี 1 (01.00น.) แล้วก็เวลาขี่รถผ่านหน้าปากซอย ตนก็จะมองเข้าไปหน้าหอพักว่ามีรถใครจอดบ้าง ซึ่งเป็นแบบนี้ประจำและก็เห็นรถยนต์ของน้องเค้าจอดหน้าปากซอย ซึ่งตนคิดว่าวันนี้น้องเค้าน่าจะตั้งใจลงมือทำแน่นอน ช่วงหลังเกิดเหตุตนก็มาดูกล้องวงจรปิดซึ่งน้องเค้าได้ถอยรถเข้า ถอยรถออก แล้วก็เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมซึ่งมีไม้เบสบอลที่ใช้ทุบรถ ส่วนรถจักรยานยนต์น้องเค้าได้เล็งไว้แล้วต้องเป็นคันนี้ จากนั้นน้องเค้าก็เข็นออกมาจากที่จอดรถแล้วก็จอดแล้วก็ถีบและก็ตามในกล้องวงจรปิดเลย พอทุบเสร็จน้องเค้าก็ขับรถยนต์หนีออกไปเลย 

ส่วนลักษณะนิสัยของน้องเค้ามีบุคคลิกและอารมณ์ 2 ขั้ว น้้นค่อนข้างจะรุนแรงและกลายเป็นคน 2 บุคคลิกไปเลย บางทีมีอารมณ์รุนแรง บางทีอารมณ์นิ่งๆเฉยๆ ช่วง 2-3 เดือนแรก ตอนที่น้องเค้าย้ายมาอยู่ใหม่ๆ ยังไม่มีวี่แววและยังเป็นคนปกติทั่วไป จากนั้นน้องเค้าเริ่มมีอารมณ์แปรปวนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และก็พูดเตือนเรื่องกฎระเบียบหอพักน้องเค้าจะไม่ค่อยฟัง อาทิ เรื่องการจอดรถก็ดี เรื่องการเข้าออกหอพักก็ดีและเรื่องพฤติกรรมของน้องเค้า พอพูดเตือนน้องเค้าจะโต้กลับด้วยการอารมณ์เหวี่ยงอารมณ์เสียใส่ตน ทำให้ตนถึงกับสะอึก ว่านี่ตนแค่พูดเตือนถึงต้องเหวี่ยงอารมณ์ใส่ สิ่งไหนที่เป็นส่วนรวมเราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันเพราะมันมีกฎระเบียบของหอพักอยู่แล้วในตัว 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเคสที่หนักสุด รุนแรงที่สุด ทำให้ตนและผู้ที่มาเช่าถึงกับตกใจกลัวแล้วก็มีคำถามว่า น้องเค้าเป็นอะไรของเค้า ทำให้ทุกคนที่อยู่ในหอพักทั้งหมดต้องมากลัวน้องเค้า ที่สำคัญครอบครัวของตนต้องเจอน้องเค้าด้วย (ยกตัวอย่าง) น้าชายของตนบางทีเวลาอยู่อู่ด้านล่าง เค้าจะค่อยเช็กรถเข้าออก หรือ การจอดรถ น้าชายตนได้เข้าไปเตือนเรื่องจอดรถ น้องเค้าจอดรถในที่ห้ามจอด จอดขวางตรงทางเข้าออกก็จะทำให้รถไม่สามารถออกมาได้ น้องเค้าก็ตอบสวนกลับมา ก็เรื่องของเค้า ที่ผ่านมาตนโทรศัพท์พูดเตือนดีๆมาตลอดแต่กลับกลายเป็นว่า น้องเค้าเหวี่ยงอารมณ์เสียใส่ทันที น้องเค้ายังบอกอีกว่า  ฉันจะจอดรถของฉันแบบนี้ ส่วนในวันนี้ตนได้เดินทางมาพบร้อยเวรเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมและลงบันทึกประจำวันเนื่องจากกรณีน้องเค้าเป็นคนมี 2 บุคคลิกแบบนี้ ซึ่งมันทำให้คนที่อยู่หอพักกลัวไปหมดแล้ว ที่สำคัญถึงแม้น้องเค้าจะเป็นลูกค้าของตนมี่มาเช่าห้องพักก็จริง ตนและทุกคนในหอพักไม่อยากให้น้องเค้าอยู่ที่นี่อีกแล้ว ให้ย้ายออกไปเลยเพราะตอนนี้น้องเค้าเป็นบุคคลอันตรายไปแล้ว 

จากการตรวจสอบประวัตินางสาวนวพรพบว่าป่วยเป็นโรคหลายบุคคลิก ซึ่งโรคนี้อาจเกิดจากสภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยที่ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักตั้งแต่สมัยวัยเด็ก โดยผ่านการกระทำอันรุนแรงทั้งทางกาย และทางจิตใจ เช่น อาจเคยโดนทารุณกรรม กระทำชำเราจากผู้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการทางจิตที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความกลัว หวาดระแวง ความหดหู่ทางจิตใจ การปรับเปลี่ยนทางอารมณ์ต่างๆ จนทำให้จิตใต้สำนึกสร้างบุคลิกอื่นๆ ขึ้นมาเพื่อแสดงออกในสิ่งที่บุคลิกหลัก หรือบุคลิกเดิมไม่สามารถทำได้ โดยบุคลิกต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ป่วย

ล่าสุดผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่าง ศาลพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ ที่ศาลจังหวัดสงขลา


เรื่องที่เกี่ยวข้อง