หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

ข่าวสังคมและการเมือง

หาดใหญ่ l ไกด์เถื่อน! หลอกนักท่องเที่ยวมาเลย์ จองห้องพัก สูญเงิน 539,000 บาท
13 เมษายน 2567 | 6,970
หาดใหญ่ l ไกด์เถื่อน! หลอกนักท่องเที่ยวมาเลย์ จองห้องพัก สูญเงิน 539,000 บาท

วานนี้ (วันที่ 12 เมษายน 2567) พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้รับรายงาน พ.ต.ท.อดินันท์ วงศ์หมัดทอง รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ ว่ามีนักท่องเที่ยวชางมาเลเซีย 4 คันรถบัส (จำนวน 120 คน) โดนไกค์เถื่อนหลอกจองพักช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยโอนจองห้องพักตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 หลังรับรายงานจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ ก่อนประสาน พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ทท3 พ.ต.อ.กฤษณัฐ มนัส ผกก.3.บก.ทท3 พ.ต.ท.ศักดิ์อนันต์ คำไสย สวญ.ส.ทท1.กก.3 บก.ทท3 พ.ต.ท.ธิติภัทร คำชามา สว.ส.ทท1.กก.3.ทท.3 พ.ต.ต.รตเวช ทองมุณี สว.กก.3 บก.ทท.3 และ ร.ต.ท.พัฒนวุฒิ รุณปักษ์ รอง สว.(ป) ส.ทท1 กก.3 บก.ทท.3 รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโรงแรมชื่อดังใจกลางเทศบาลนครหาดใหญ่ พบรถบัสนักท่องเที่ยวจำนวน 4 คัน จอดอยู่หน้าโรงแรมญันนะตีย์โฮเต็ล ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ใจกลางเทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็กจำนวนมากกำลังยืนรอหน้าโรงแรมและในโรงแรม ทราบว่าได้ยืนรอเข้าห้องพักตั้งแต่เวลา 16.00 จนถึง 19.30 น. โดยไม่สามารถเข้าห้องพักภายในโรงแรมได้ ซึ่งทางพนักงานโรงแรมแจ้งว่า ไกด์คนไทยที่รับเงินค่าจองพักกับทางบริษัททัวร์นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนั้น ไม่มีการจองห้องพักกับทางโรงแรมแต่อย่างใดจึงไม่สามารถเข้าพักได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดต่อและตามตัวไกค์หญิงคนไทยให้มาที่โรงแรมเพื่อแก้ปัญหากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบชื่อ นางสาววณิชชา อาชารัตนะ หรือ เน อายุ 39 ปี ไกค์หญิงคนไทย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามตัว นางสาววณิชชาก็ได้เดินทางมาถึงที่โรงแรมพร้อมกับเพื่อนสาวที่ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวด้วยกันถึงกับหน้าซีด เมื่อเห็นไกด์ชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างเดินกรูเข้าไปถามเรื่องห้องพักของโรงแรม ก่อนที่นางสาววณิชชาอ้างกับนักท่องเที่ยวว่า ตนเองเป็นพนักงานและทำงานอยู่ที่โรงแรมนี้ ให้ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวจะจัดการเรื่องห้องพักที่จองไว้ให้ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทางไกด์หญิงชาวมาเลเซียที่เดินทางมาพร้อมกับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางมาเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งได้เล่าว่า ตนและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมากับรถบัสทั้งหมด 4 คัน ได้มีการจ่ายเงินจองห้องพักกับทางบริษัททัวร์ที่ประเทศมาเลเซีย โดยจองห้องพักล่วงหน้า 2 คืน  3 วัน ทั้งหมด 64 ห้อง รวมเป็นเงินริงกิตจำนวน 69,840 ริงกิต หรือประมาณ  539,000 บาทไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 กับทางบริษัททัวร์ของประเทศมาเลเซียและทางบริษัททัวร์ได้มีการติดต่อและโอนเงินจองค่าห้องพักมาทางนางสาววณิชชา อาชารัตนะ หลังมีการรับงานกับทางบริษัททัวร์ เมื่อวันกำหนดเที่ยวตนและนักท่องเที่ยวนั่งรถบัสตั้งช่วงเวลา 03.00 น. มาถึงหน้าด่านเข้าประเทศไทยช่วงเวลา 06.00 น. ก่อนเดินทางแวะเที่ยวตามจุดต่างๆในจังหวัดสงขลา พอถึงเวลา 12.00 น. ตามกำหนดตนและนักท่องเที่ยวทั้งหมดต้องเข้าห้องพักของโรงแรม แต่ทางนางสาววณิชชาได้แจ้งมาว่า กำลังหาห้องพักและให้พานักท่องเที่ยวแวะไหนก่อนก็ได้ ตนจึงได้ให้คนขับรถบัสขับวนพานักท่องเที่ยวแวะซื้อของฝากเพื่อยื้อเวลาออกไป ต่อมาเวลา 16.00 น. ตนก็ให้คนขับรถบัสทั้ง 4 คัน ขับมาจอดหน้าโรงแรมที่ทางบริษัททัวร์มีการตกลงกับทางนางสาววณิชชาเอาไว้ เมื่อนางสาววณิชชาเดินทางมาถึงโรงแรมครั้งแรกได้แจ้งตนว่า ได้ห้องพักแค่ 10 ห้องเท่านั้น ตนจึงต่อว่ากลับไปว่าที่จองหัองพักไว้คือ 60 ห้อง จากนั้นนางสาววณิชชาได้หายออกจากโรงแรมไป แล้วก็กลับมาอีกรอบเวลา 18.00 น. แล้วก็แจ้งตนว่าไม่มีห้องพักห้องพักเต็มหมดแล้วและขอตัวไปหาห้องพักก่อน ทำให้ตนและกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดเริ่มไม่พอใจ เกิดอาการกระวนกระวาย มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มอยากจะกลับประเทศมาเลเซียทันที บางกลุ่มอยากจะเที่ยวช่วงสงกรานต์ที่อำเภอหาดใหญ่เพราะจองทริปเที่ยวตั้งแต่ปีที่แล้วและคืนนี้ก็ไม่รู้จะนอนพักที่ไหนเพราะโรงแรมเต็มหมดแล้ว

ต่อมา พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้เดินทางมาที่โรงแรมพร้อมกับนายราเชนท์ อาตมาตร อายุ 52 ปี เจ้าของโรงเเรมญันนะตีย์โฮเต็ล เพื่อแก้ปัญหาหาห้องพักให้กับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียทั้งหมด จากนั้น พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้เดินมาที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังสอบปากคำนางสาววณิชชาและเมื่อเห็นหน้านางสาววณิชชาและเพื่อน ก็ได้มีการต่อว่าทั้งคู่ทันที ว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้เสียชื่อเสียงและเสียหายต่อประเทศไทยเป็นอย่างมากเข้าไปอยู่ในคุกทั้งคู่เลย 

ก่อนจะหันมาทางผู้สื่อข่าวพร้อมกับแจ้งว่า ตอนนี้ตนได้มีการพูดคุยกับทางนายราเชนท์ เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ซึ่งทางนายราเชนท์ก็ได้เปิดห้องนวดของโรงแรมเป็นที่พักก่อนชั่วคราว พร้อมกับติดต่อโรงแรมรอบนอกเพื่อช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวเบื้องต้นก่อนในเรื่องของที่พักซึ่งตอนนี้มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 150 คน เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นแล้วเราต้องช่วยกันทุกฝ่าย ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปให้ถึงที่สุดเพราะประเทศไทยเสียหายและเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก 

ทางด้าน นายราเชนท์ อาตมาตร  เจ้าของโรงเเรมญันนะตีย์โฮเต็ล เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่ทราบล่วงหน้าเลยว่า ซึ่งที่ทราบคือนักท่องเที่ยวของตนที่จองห้องพักไว้และก็ชำระเงินล่วงหน้าไว้เรียบร้อย แต่เคสนี้ตนไม่ทราบจริงๆและตนก็พึ่งทราบจากทางพนักงานประสานเข้ามาตอนประมาณ 17.00 น. ทางพนักงานแจ้งว่า มีลูกค้ามาและจองห้องพักเอาไว้แต่ไม่มีทางโรงแรมไม่มีห้องพักให้ลูกค้าและทางลูกค้าได้โอนเงินมากับเอเยนต์มาเรียบร้อยแล้ว ตนจึงได้มาสอบสวนพนักงานทั้งหมด สรุปปรากฎว่าไม่มีการจองห้องพักและเกี่ยวข้องกับทางโรงแรมเลย อาทิ โรงแรมได้รับการติดต่อจองห้องพัก รับเงินมัดจำ หรือ ใบจอง หรืออะไรทั้งสินเกี่ยวกับโรงแรมเลย ถ้ามีการจองห้องพักทางโรงแรมก็จะออกใบจองให้และใบเสร็จรับเงิน ในกรณีลูกค้าจ่ายเงินค่ามัดจำทางโรงแรมจะประสานไปทางผู้จองหรือเอเยนต์เพื่อยืนยันว่า คุณได้จองพักกับทางโรงแรมนะ ซึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าลูกค้าเข้าพักแน่นอนทางเราจะได้เก็บห้องเอาไว้และยืนยันว่าไกด์หญิงคนดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือทำงานเป็นพนักงานของโรงแรมนี้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมานั้นตอนนี้ก็กลางคืนแล้วทางตนจะคุยกับนักท่องเที่ยวถ้ายังไม่ได้ที่พักทางตนจะเปิดห้องประชุมของโรงแรมให้แล้วก็จะมีห้องนวดของโรงแรมสามารถเข้าพักฟรีได้คืนนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวก่อน ส่วนเรื่องคดีนั้นมีการแอบอ้างถึงโรงแรมทางตนก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเช่นกัน เนื่องจากทำชื่อเสียงทางโรงแรมเสียหาย อยากฝากถึงกลุ่มเพื่อนๆผู้ประกอบการโรงแรมว่า ตอนนี้มีมิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบก็ให้ระมัดระวัง ส่วนของนักท่องเที่ยวนั้นถ้าเป็นไปได้ให้จองห้องพักกับเอเยนต์ที่น่าเชื่อถือสามารถออกใบเสร็จรับเงินได้และสามารถตรวจสอบเอกสารการจองห้องพักของโรงแรมเพื่อยืนยันการจองห้องพักให้แล้วก่อนการเดินทางเพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาไม่มีห้องพักในช่วงเทศกาล

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และงานสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวได้ควบคุมตัว นางสาววณิชชา อาชารัตนะ หรือ เน อายุ 39 ปี ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ พร้อมเชิญไกด์ของบริษัททัวร์ประเทศมาเลเซีย ที่มีการโอนเงินจองค่าห้องพักให้กับนางสาววณิชชา ซึ่งใช้เวลาในการสอบปากคำถึง 2 ชม. จึงจะรับสารภาพว่า ได้นำเงินจองค่าห้องพักของนักท่องเที่ยวทั้งหมดไปใช้ส่วนตัวเกือบหมดแล้ว โดยเหลือเงินจองห้องพักแค่ 10 ห้องเท่านั้น 

จากการตรวจสอบประวัติของนางสาววณิชชา พบว่า ได้ก่อเหตุแบบเดียวกันมาแล้วครั้งนึงในพื้นที่ สภ.คอหงส์ โดยทางบริษัททัวร์อีกบริษัทของประเทศมาเลเซียได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อต้นปี 2566 และยังมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลมาแล้วถึง 6 ครั้ง ซึ่งชื่อก่อนหน้านี้ชื่อ นางสาวจิราพัชร์ อัศวเจริญชัย ก่อนจะเปลี่ยนชื่อล่าสุด นางสาววณิชชา อาชารัตนะ หลังสอบปากคำแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 1 ข้อหา ข้อหาฉ้อโกง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เรื่องที่เกี่ยวข้อง