หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

วันนี้(16/6/67) จากกรณีข่าวผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชายคนหนึ่งว่าหลานสาวของตนเองได้ถูกแฟนหนุ่มที่พึ่งคบได้แค่ 4 เดือน ใช้หลอดไฟ เก้าอี้ โทรศัพท์มือถือทั้งทุบทั้งตีเข้าที่ศรีษะ ใบหน้า แผ่นหลัง ก่อนลงมือซ้อมทำร้ายร่างกายจนเขียวช้ำและสะบักสะบอมไปทั่วทั้งร่างกาย  หลังถูกซ้อมแฟนหนุ่มได้จับหลานสาวขังไว้ในห้องนอนอีก 2 วัน พร้อมกับให้อดข้าวอดน้ำอีกด้วย

ก่อนหลานสาวอีกคนจะโทรศัพท์หาตนและขอความช่วยเหลือให้ตนเข้าไปรับตัวออกมาจากบ้านพักของแฟนหนุ่ม เมื่อตนและญาติๆเดินทางไปถึงได้พาหลานสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.ควนมีด แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นร้อยเวรได้บอกว่า อีก 1 เดือนค่อยมาแจ้งความใหม่ ทำให้ตนและญาติๆถึงกับเสียใจได้ยินอย่างนั้นจึงเดินทางกลับบ้านพักทันที 

พอตกกลางคืนมีญาติๆที่อยู่ใกล้บ้านของแฟนหนุ่มคนก่อเหตุ ได้ทักข้อความมาหาตน ว่า ตอนนี้นายสกายได้ออกมาจากบ้านพัก กำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของหลานสาวพร้อมกับน้ำมัน 1 แกลลอน จะเอาไปเผาบ้านหากหลานสาวไม่ออกมา จนกระทั่งล่าสุดตอนนี้ครอบครัวของตนโดยเฉพาะหลานสาวเกิดอาการหวาดกลัวอย่างหนัก จึงเป็นสาเหตุได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือและช่วยจัดการแฟนหนุ่มคนนี้ เบื้องต้นทราบชื่อคนก่อเหตุ นายกรรชัย ขวัญทองยิ้ม หรือ สกาย อายุ 26 ปี เหตุเกิดเมือวันที่ 13 มิถุนายน 2567

ส่วน นางสาวศิริลักษณ์ อายุ 22 ปี ได้เล่าว่า ตนรู้จักกับนายสกายที่บ้านเพื่อนช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและมาโดนทำร้ายร่างกายเอาเดือนนี้ ถึง 3 ครั้ง สาเหตุที่โดนนั้นนายสกายมาหาว่าตนไปนอนกับลูกค้า เนื่องจากตนได้ไปทำงานที่ร้านอาหารช่วงกลางวันและทำงานที่ร้านอาหารมาก่อนจะรู้จักนายสกายก่อน ซึ่งทั้งหมดจะโดนทำร้ายร่างกายเรื่องหึงหวงแล้วก็ครั้งนี้หนักสุดโดนหลอดไฟตีเข้าแผ่นหลังจนแตกแล้วก็เตะต่อย

ส่วนมากจะเน้นเข้าที่หลังศรีษะและที่หน้า ส่วนที่นายสกายสั่งให้ตนไปยืนจากแดดแล้วก็ทุบตีหน้าบ้านนั้น นายสกายบังคับให้ตนพูดความจริง ตนจึงตอบกลับว่า ไม่ได้ทำอย่างที่สกายคิด เค้าก็ไม่เชื่อแล้วเค้าก็ต่อยหน้าหลายครั้ง

ล่าสุดหลังจากเกิดเรื่อง  พ.ต.อ.อำไพ ชุมช่วย ผกก.สภ.ควนมีด พร้อมด้วยกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ลงพื้นที่บ้านของนางสาวศิริลักษณ์ จันดำ หรือ น้องฝน เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บล่าสุดของนางสาวศิริลักษณ์ พร้อมกับสั่งการให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบปากคำและดำเนินการรวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ ของคนก่อเกตุ เพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสงขลาเพื่อขอออกหมายจับ 

ต่อมาได้ออกติดตามตัว นายกรรชัย ขวัญทองยิ้ม หรือ สกาย อายุ 26 ปี เพื่อดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย โดยการลงพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนายกรรชัย ขวัญทองยิ้ม ที่อาศัยอยู่กับแม่ของตนเอง 2 คน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวปกตินายกรรชัยจะอยู่คนเดียว ส่วนแม่จะไปๆมาๆ แต่จะมีกลุ่มเพื่อนๆแวะเวียนมานั่งกันช่วงเวลากลางคืน ต่อมานายกรรชัยได้คบหากันกับน้องฝนและพาน้องฝนมาที่บ้านอยู่เป็นประจำ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายน้องฝนขึ้นซึ่งน้องฝนถูกนายกรรชัยซ้อม ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน จนถึง วันที่ 13 มิถุนายน 2567 จนร่างกายสะบักสะบอม เขียวช้ำทั้วตัวและตามเเขนขา

เบื้องต้นได้พบ นายกรรชัย ขวัญทองยิ้ม หรือ สกาย พร้อมกับแม่ของนายกรรชัยนั่งอยู่หน้าบ้าน ก่อน พ.ต.อ.อำไพ ชุมช่วย ผกก.สภ.ควนมีด และแจ้งขั้นตอนของกฎหมายให้รับทราบเพื่อให้นายกรรชัยเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำ พร้อมกับให้นายกรรชัยไปขนเสื้อผ้าของน้องฝนเอาออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากน้องฝนออกมาจากบ้านนายกรรชัยเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวและไม่กล้าเข้าไปเอาเสื้อผ้า เพราะกลัวเจอกับนายกรรชัยจึงขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเสื้อผ้าคืนแทนให้ ระหว่างนายกรรชัยนำเสื้อผ้าใส่ในกระเป๋าถุงผ้า นายกรรชัยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าจะเป็นคนนำไปคืนเอง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมเช่นกัน จนกระทั่งนายกรรชัยขอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำถุงผ้าไปไว้ที่ท้ายรถกระบะสายตรวจตำรวจเอง 

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามนายกรรชัยสาเหตุลงมือทำร้ายร่างกายน้องฝนนั้น ว่า สิ่งที่ทำลงตนเองได้ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายกรรชัยตอบกลับว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันไม่เกินเหตุ เพราะน้องฝนเป็นคนเริ่มก่อนไม่ยอมพูดความจริงว่า น้องฝนได้ไปนอนและมีอะไรกันกับคนอื่น หลังมีเพื่อนสนิทมาบอกนายกรรชัยโดยกล่าวหาว่า น้องฝนแอบขายบริการ 

ทางด้าน พ.ต.อ.อำไพ ชุมช่วย ผกก.สภ.ควนมีด เปิดเผยว่า หลังจากนี้ต้องรอผลสรุปจากใบรับรองแพทย์อีกครั้ง ว่านางสาวศิริลักษณ์ จันดำ หรือ น้องฝน ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด  ซึ่งตอนนี้ต้องออกหมายเรียกตามขั้นตอนไปก่อนหากได้ผลสรุปจากใบรับรองแพทย์จึงจะสามารถออกหมายจับได้เลย ส่วนเรื่องความปลอดภัยของที่ทางครอบครัวของผู้เสียหายกังวลนั้น

ตอนนี้ได้สั่งการให้รถสายตรวจเวียนออกตรวจตามเส้นทางเข้าออกของบ้านผผู้เสียหายให้ถี่ขึ้นเพื่อความสบายใจของครอบครัวผู้เสียหาย ส่วนอื่นๆก็ไม่มีอะไรน่ากังวล