
นับแต่โบราณเล่าขานกันมาว่า ดินแดนที่เป็นพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เคยเป็นเมืองโบราณที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ “เขาวังชิง” มีการขุดพบลูกปัด ซึ่งเป็นเครื่องประดับของคนโบราณ รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ประเภท หม้อ ไห ถ้วยชาม นอกจากนั้นยังพบฟอสซิล ที่เป็นเปลือกหอย บริเวณเขาวังชิง ด้วยสันนิฐานว่า มีน้ าล้อมรอบเขาวังชิง ชาวบ้านเชื่อถือศรัทธานำเปลือกหอยมาแช่น้ำกินแก้โรค หรือ เมื่อมีก้างปลาติดคอ

มีเรื่องเล่าถึงนิทานพื้นบ้าน เรื่อง “พระรถ เมรี” ซึ่งหนังตะลุงนำมาแสดงสืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย ประกอบกับลักษณะพื้นที่ในอำเภอคลองหอยโข่ง โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งค่ายรัตนพล และบริเวณใกล้เคียง มีต้นยูงขึ้นเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่า “ทุ่งยูง” ลักษณะของต้นยูง เมื่อต้นแก่อายุมาก จะมีกิ่งคดเคี้ยวคล้ายรากไม้คล้ายๆ กับเรื่องพระรถ เมรี ตอนที่พระรถ หนีนางเมรี ได้ปลูกต้นไม้เอาปลายลง และพระรถได้ทิ้งผงวิเศษทำให้เป็นทะเล ซึ่งสอดคล้องกับการพบฟอสซิลที่เป็นเปลือกหอย ดังกล่าวข้างต้น นอกจากนั้นในบริเวณพื้นที่ทุ่งยูง ยังมีปลวกเล็กๆ สีดำชาวบ้านเรียกกันว่า “ขวากดักนางเมรี” ซึ่งหมายถึงขวากที่พระรถใช้ดักนางเมรีตอนไล่ตามพระรถ

นางภู่ หยดย้อย (ป้าภู่) อายุ 84 ปี บ้านโคกเหรียง และผู้สูงอายุอีกหลายท่าน เล่าให้ฟังว่าบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าแม่เมรีในปัจจุบัน มีจอมปลวกอยู่ลูกหนึ่ง (อยู่หลังศาล) บริเวณจอมปลวกนี้ แต่เดิมเป็นลานเตียน เหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่ตลอดเวลา มีต้นไม้เถาชนิดหนึ่ง มีผลลักษณะคล้ายลูกกระถินณรงค์ คือ โค้งกลม ชาวบ้านเรียกว่า “ตุ้มหูนางเมรี” เป็นที่เชื่อว่า พระนางเมรี ได้มาเสียชีวิตที่บริเวณที่เป็นจอมปลวกนี้นอกจาก ชื่อ “ทุ่งยูง” แล้ว ชาวบ้านบางคนยังเรียกว่า “ทุ่งรัต” ซึ่งน่าจะมาจากนางพันธุรัต ซึ่งเป็นยักษ์ในเรื่องพระรถเมรีต่อมาจึงมีการตั้งศาลทวดรัดไว้ให้กราบไหว้ด้วย บริเวณจอมปลวกที่ตั้งศาลเจ้าแม่เมรีนั้น แต่เดิมมีต้นเล็บเหยี่ยว (แสงขัน) ต้นมะกรูดผีอยู่บนจอมปลวก ชาวบ้านจะมาปักธงสีแดง สีขาวไว้เป็นสัญลักษณ์ คนที่ผ่านไปผ่านมาจะทำความเคารพกราบไหว้ พวกหนังตะลุงมโนราห์ เวลาเดินทางผ่านไป – มาจะตีฆ้อง โหม่ง ฉิ่ง เพื่อแสดงความเคารพในฤดูแล้งประมาณเดินห้า (เมษายน) มีการนำอาหารมาบูชา แต่ไม่นิยมบูชาด้วยอาหารที่มีเนื้อหมู

ต่อมาเมื่อได้ตั้งค่ายรัตนพลแล้ว ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วย ทำให้เกิดความไม่สะดวก ในการเข้ามากราบไหว้ศาล แต่ก็ได้มีการบูรณะสร้างศาลมาโดยต่อเนื่อง และมีการสักการะศาลเจ้าแม่เมรี ตามโอกาสอันสมควรอยู่เสมอมา
อาจารย์นครินทร์ ชาทอง ประธานชมรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอำเภอคลองหอยโข่ง ซึ่งเป็นนายหนังตะลุงชื่อดัง และเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนวัดเลียบ อำเภอคลองหอยโข่ง มีความเชื่อว่า บริเวณทุ่งยูง และเขาวังชิงน่าจะเป็นเรื่องเก่าจริง “พระนางเมรี” น่าจะเป็นลูกเจ้าเมืองแห่งนี้ “ทวดรัด” น่าจะมีอยู่เดิม เป็นที่เคารพของคนพื้นบ้าน ดวงจิตวิญญาณของพระนางเมรี น่าจะมีอยู่จริง และเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนมาช้านาน ส่วนเรื่อง พระรถ เมรี เป็นเพียงเรื่องเล่าที่มีมานาน ที่ว่าพระนางเมรี มาสิ้นพระชนม์ บริเวณนี้ ก็เป็นความเชื่อจากภูมิประเทศ ต้นยูง ฟอสซิลเปลือกหอย ขวากนางเมรี ตุ้มหูนางเมรี ลานที่โล่งเตียนบริเวณจอมปลวก เหมือนกับสถานที่ที่มีคนนอนตายนั้น เป็นความเชื่อไปตามนิทาน เรื่องพระรถ เมรี ดังกล่าว

สำหรับกำลังพลและครอบครัวในค่ายรัตนพล มีความเชื่อว่าทุกๆ ปี จะมีกำลังพลเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ และเสียชีวิตในลักษณะอื่น เช่น ผูกคอตาย ถูกรถชน ถูกยิง เป็นต้นอย่างน้อยปีละ 2 คน อาจเกิดจากการไม่บูชาศาลเจ้าแม่เมรี และทวดรัด นางพันธุรัต ซึ่งเป็นยักษ์ก็มาเอาชีวิตไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลามีการจัดงานรื่นเริงขึ้นภายในค่ายรัตนพล ผู้บังคับบัญชาในบางสมัย ก็จัดให้มีการไหว้พระสวดมนต์ทุกสัปดาห์ นิมนต์พระมารับบิณฑบาตเพื่อความเป็นสิริมงคล และเมื่อมีการจัดงานก็จัดให้มีการสักการะศาลเจ้าแม่เมรีและศาลทวดรัดทุกครั้งการเสียชีวิตก็ค่อยๆ ลดลงตามลำดับ จนถึงปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2543 ผู้บังคับบัญชาภายใต้การนำของ พ.อ.นิวัติ บูรณกุล รอง ผบ.พล.พัฒนา 4 พ.อ.โฆษิต สมุทรผ่อง ผบ.กรม พัฒนา 4 และ พ.อ.จำลอง คุณสงค์ เสธ.พล.พัฒนา 4 (ในขณะนั้น) ได้ริเริ่มพัฒนาศาลเจ้าแม่เมรีขึ้นมาใหม่ในรูปแบบปัจจุบัน และได้เชิญชวนประชาชนในพื้นที่อำเภอคลองหอยโข่ง จัดพิธีทำบุญสักการะศาลขึ้นครั้งแรก ในวันที่ 19 กันยายน 2543 มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก และได้มีการปรึกษาหารือการจัดงานพิธีสักการะศาลประจeปีขึ้น ที่ประชุมได้มีมติให้จัดในวันที่ 9 เดือน 9 ของทุกปี เพื่อถือเป็นนิมิตรหมายแห่งความเป็น สิริมงคล และความเจริญก้าวหน้าของผู้ที่เคารพนับถือศรัทธาต่อไป แต่เนื่องจากสถานที่ไม่อำนวย

ผู้บังคับบัญชาในสมัยต่อมาไม่จัดงานใหญ่ในลักษณะดังกล่าว แต่มีการบวงสรวงสักการะเป็นงานภายในของหน่วยอย่างต่อเนื่องทุกปี ในปี พ.ศ. 2546 พล.ต.สินชัย นุตสถิต ผบ.พล.พัฒนา 4 (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้มีการพัฒนาปรับปรุงศาลเจ้าแม่เมรีและศาลทวดรัดเพิ่มขึ้น และได้ตัดถนนด้านหน้าค่ายตรงบริเวณทางเข้าศาลให้สะดวกยิ่งขึ้นและได้กำหนดให้จัดงานทำบุญวันลอยกระทงและสักการะศาลเจ้าแม่เมรีขึ้นพร้อมกัน ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2546 และได้เชิญชวนประชาชนมาร่วมพิธี โดยจัดขึ้น ณ ห้องประชุม บก.พล.พัฒนา 4 มีประชาชนมาร่วมพิธีจำนวนมาก และได้ร่วมบริจาคเงิน ผู้บังคับบัญชามีมติอนุมัติให้เปิดบัญชีกับสหกรณ์ พล.พัฒนา 4 จ ากัด ชื่อบัญชี “กองทุนสักการะศาลเจ้าแม่เมรี” ในปี พ.ศ. 2554 พล.ต.ชาญวุฒิ อินทุลักษณ์ได้ดำเนินการปรับปรุง ศาลเจ้าแม่เมรี และทวดรัด โดยจัดตั้งศาลใหม่ทั้ง 2 ศาล จากจังหวัดเชียงใหม่ คงรูปแบบศาลจนถึงปัจจุบัน
ที่มาบทความ : แผนยุทธศาสตร์พัฒนา อำเภอคลองหอยโข่ง
ภาพ : กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล
ต้นแบบโบสถ์พอเพียง : "อุโบสถดิน" แห่งแรกและแห่งเดียวในภาคใต้ ณ วัดสันติวรคุณ (สะเดา)
9 พฤศจิกายน 2568 | 157“สำนักสงฆ์เกาะโอน” อ.สะเดา สถานที่สงบกลางป่า กับตำนานทวดเขาวังชิง ผู้ศักดิ์สิทธิ์
9 พฤศจิกายน 2568 | 145พาชมฟาร์มของแม่ : จากพระเมตตาสู่ความยั่งยืนของชุมชน ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อ.คลองหอยโข่ง
4 พฤศจิกายน 2568 | 212ในรอยจะนะ : "วังเก่า ช้างเจ้าเมือง และเหมืองสามคด”
26 ตุลาคม 2568 | 480เรื่องเล่าขนหัวลุก...คืนมืดบนทางหลวงสายเอเชีย เมื่อเงาไม่ใช่เพียงภาพลวงตา
26 ตุลาคม 2568 | 420ย้อนชมภาพ “คู่พระบารมีแห่งแผ่นดิน” เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จเยือนสงขลาครั้งแรก
26 ตุลาคม 2568 | 674เทศกาลกินเจหาดใหญ่ : มรดกแห่งศรัทธาชาวไทยเชื้อสายจีน
19 ตุลาคม 2568 | 753