
ร้านสุ่ยเฮง ตั้งอยู่บนถนนประชาธิปัตย์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรงข้ามโรงแรมลีการ์เด้น เป็นร้านขนมมงคลจีนในตำนาน อยู่คู่เมืองหาดใหญ่มายาวนานกว่า 90 ปี ซึ่งร้านสุ่ยเฮงเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับเมืองหาดใหญ่ ในช่วงที่ชาวจีนเริ่มอพยพเข้ามาราวทศวรรษ 2450 เพื่อเป็นแรงงานในการสร้างทางรถไฟสายใต้

ขนมของร้านสุ่ยเฮง จะมีหลากหลายอย่างด้วยกัน ทั้งขนมเปียะ ขนมโก๋ ขนมเหล็กเต่ากอ (ขนมถั่วเหลืองแผ่น) ขนมจันอับ ขนมแต่งงานและขนมมงคลตามประเพณีจีนอีกหลากหลายอย่าง แต่ที่โด่งดังและได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นจำนวนมากคือ ขนมไหว้พระจันทร์ ที่ 1 ปี ทางร้านจะทำแค่ครั้งเดียว คือช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ลูกค้าท่านใดที่ต้องการสั่งขนมไหว้พระจันทร์ก็จะต้องออเดอร์ล่วงหน้า บางคนออเดอร์ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ

วันนี้หาดใหญ่โฟกัส จะพาทุกคนไปเปิดตำนานเกี่ยวกับขนมไหว้พระจันทร์ และความเชื่อเรื่องเทศกาลไหว้พระจันทร์ตามประเพณีจีน ขนมไหว้พระจันทร์ เป็นของไหว้พระจันทร์ เครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าดวงจันทร์ของชาวจีน มีชื่อจีนเรียกว่า ขนมเอี้ยปิ่ง หรือ เย่ว์ปิ่ง หมายถึงความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง เทศกาลไหว้พระจันทร์สำหรับชาวจีนนั้น เป็นเทศกาลสำคัญที่คนในครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน สมาชิกในครอบครัว จึงมักซื้อขนมไหว้พระจันทร์ไปมอบให้กับผู้ใหญ่ในบ้าน เพื่อรับประทานพร้อมหน้าพร้อมตา

ความเชื่อเกี่ยวกับประวัติวันไหว้พระจันทร์ที่โด่งดังมากที่สุดคือ "เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์" (嫦娥奔月) ตำนานเทพปกรณัมของจีนที่เล่าว่า เมื่อนานมาแล้ว โลกมีดวงอาทิตย์ถึง 10 ดวง ทำให้แผ่นดินร้อนระอุ ไร้ความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ "โฮ่วอี้" บุรุษผู้มีฝีมือแม่นยำในการยิงธนู อาสาขจัดทุกข์ให้ชาวโลกด้วยการยิงธนูพุ่งเข้าใส่ดวงอาทิตย์ จนเหลือดวงอาทิตย์เพียง 1 ดวง นับจากนั้นเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษที่ผู้คนเคารพนับถือ ต่อมาโฮ่วอี้ได้แต่งงานกับหญิงงามนาม "ฉางเอ๋อ" วันหนึ่งระหว่างที่ทั้งคู่เดินทางขึ้นยอดเขาคุนหลุน ได้รับยาอายุวัฒนะมาจากฮองเฮาแห่งสวรรค์ หากใครกินแล้วจะกลายเป็นเซียน หรือเทพที่เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ทั้งคู่ตัดสินใจเก็บยาไว้กับตัว และใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เช่นเดิม

ข่าวถึงหู "เผิงเหมิง" ลูกศิษย์ของโฮ่วอี้ที่คิดทรยศอาจารย์ ด้วยการบังคับขู่ให้ฉางเอ๋อมอบยาอายุวัฒนะให้ในวันที่โฮ่วอี้พาลูกศิษย์คนอื่นๆ ไปล่าสัตว์ ฉางเอ๋อจึงตัดสินใจกินยาอายุวัฒนะเองจนหมด ทำให้ร่างลอยขึ้นเหนือพื้นดิน เหาะเหินสู่สวรรค์ แต่ฉางเอ๋อยังอาลัยสามี จึงเลือกไปเป็นเทพที่พระจันทร์แทน เนื่องจากอยู่ใกล้โลก เมื่อมองลงมาจะได้เห็นสามี

เมื่อโฮ่วอี้กลับมาทราบเรื่องก็ร้องไห้เสียใจอย่างมาก จึงแหงนหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ ตะโกนเรียกชื่อภรรยา และเห็นเงาคล้ายรูปร่างของฉางเอ๋อในดวงจันทร์สว่างไสวออกมา ต่อมาชาวบ้านก็ได้จัดพิธีไหว้ดวงจันทร์ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพธิดาฉางเอ๋อ ให้ช่วยคุ้มครองและปกปักรักษาให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข กลายเป็นที่มาของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 นั่นเอง
ข้อมูลอ้างอิง : มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ , sanook.com
ต้นแบบโบสถ์พอเพียง : "อุโบสถดิน" แห่งแรกและแห่งเดียวในภาคใต้ ณ วัดสันติวรคุณ (สะเดา)
9 พฤศจิกายน 2568 | 158“สำนักสงฆ์เกาะโอน” อ.สะเดา สถานที่สงบกลางป่า กับตำนานทวดเขาวังชิง ผู้ศักดิ์สิทธิ์
9 พฤศจิกายน 2568 | 146พาชมฟาร์มของแม่ : จากพระเมตตาสู่ความยั่งยืนของชุมชน ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อ.คลองหอยโข่ง
4 พฤศจิกายน 2568 | 214ในรอยจะนะ : "วังเก่า ช้างเจ้าเมือง และเหมืองสามคด”
26 ตุลาคม 2568 | 480เรื่องเล่าขนหัวลุก...คืนมืดบนทางหลวงสายเอเชีย เมื่อเงาไม่ใช่เพียงภาพลวงตา
26 ตุลาคม 2568 | 420ย้อนชมภาพ “คู่พระบารมีแห่งแผ่นดิน” เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จเยือนสงขลาครั้งแรก
26 ตุลาคม 2568 | 674เทศกาลกินเจหาดใหญ่ : มรดกแห่งศรัทธาชาวไทยเชื้อสายจีน
19 ตุลาคม 2568 | 755