
ประวัติศาสตร์ของจังหวัดสงขลา เมื่อข้าพเจ้าได้ไปค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่ามีเรื่องราวและเรื่องเล่ามากมาย "เมืองจะนะ" ดูผิวเผินแล้วเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย นอกจากอาหารมุสลิมอร่อยๆ ทะเลเทพาแสนงดงาม และกรงนกเขา ถ้าตัดเรื่องพวกนี้ไปก็แทบจะไม่มีเรื่องราวอะไร ให้เราได้ออกค้นหาเท่าไหร่นัก แต่เมื่อสืบลึกลงไปถึงแง่ทางประวัติศาสตร์แล้ว เมืองแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญเมื่อครั้งอดีต วันนี้หาดใหญ่โฟกัสจะมาเล่าถึงเมืองน่ารักแห่งนี้กัน ว่าทำไมเราถึงให้ชื่อว่าเป็น เมืองแห่งสงคราม

ย้อนหลังกลับไป... "เมืองจะนะ" มีหลักฐานปรากฏอยู่ในพงศาวดาร แต่เดิมเมืองจะนะเป็นเมืองขึ้นของเมืองพัทลุง เฉกเช่นเดียวกับสงขลา ปะเหลียน และเทพา ต่อมาเมื่อสงขลาแยกตัวออกมา เมืองจะนะจึงไปขึ้นตรงอยู่กับเมืองสงขลา โดยมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางตอนใต้ และเป็นเมืองที่มีการสู้รบสกัดกั้นหัวเมืองของมลายูอยู่ตลอด
เราจะขอเล่าไปเมื่อครั้งที่เมืองจะนะ ยังขึ้นตรงต่อเมืองพัทลุง เจ้าพระยาพัทลุง ได้แต่งตั้งนายอินทร์ (น้องชาย) ไปเป็นเจ้าเมืองจะนะ โดยมีพระราชทินนามว่า "พระมหานุภาพปราบสงคราม" จากชื่อแสดงให้เราเห็นว่า เมืองแห่งนี้น่าจะขึ้นชื่อเรื่องทำการรบสงคราม และพอสันนิษฐานได้ว่า "เมืองจะนะ" น่าจะเป็นเมืองแห่งสมรภูมิการรบเป็นแน่ โดยที่ตั้งของเมืองจะนะ ณ ขณะนั้นคือ "นาทวี"

ต่อมาเมื่อเมืองจะนะกลายเป็นเมืองขึ้นของสงขลา มีการแต่งตั้งนายฉิน บุตรของอดีตเจ้าเมืองสงขลาขึ้นเป็น ขุนรองราชมนตรี ซึ่งทำให้สองเมืองนี้มีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น ช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับช่วงที่พม่าส่งกองทัพใหญ่ไปตีหัวเมืองทางภาคใต้ แต่ทว่าทั้งเจ้าเมืองจะนะและขุนรองราชมนตรีกลับถูกสั่งประหารชีวิต เนื่องจาก "กรมพระราชวังบวรนทสุรสีหนาถ" พระอนุชาของรัชกาลที่ 1 ได้นำกองทัพจากกรุงเทพมหานครมาปราบพม่าทางภาคใต้ และได้ทราบว่า เจ้าเมืองจะนะลอบส่งหนังสือไปถึงพม่า ชักชวนให้มาตีเมืองพัทลุงและสงขลา

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทางผู้เขียนมองว่า "เมืองจะนะ" เป็นเมืองที่เป็นเมืองแห่งสมรภูมิการรบ เพราะว่าเมืองจะนะมีการผลัดเปลี่ยนเจ้าเมืองอยู่ตลอด ส่งผลให้เกิดสงครามภายใน เพื่อแย่งชิงกันขึ้นครองบ้านเมือง ประกอบกับสงครามจากภายนอก ซึ่งทางกองทัพจะนะเอง ได้มีการยกทัพไปรวมกับเมืองสงขลาอยู่หลายๆครั้ง เพื่อไปช่วยกรุงศรีอยุธยาทำสงครามกับพม่า อีกทั้งกองทัพจะนะยังต้องคอยสกัดกั้นกองทัพจากหัวเมืองไทรบุรีอีกด้วย

แต่ในท้ายที่สุดกองทัพจากรัฐปัตตานี ก็ได้เดินทัพบุกเข้าโจมตีเมืองจะนะจนได้รับความเสียหาย เมืองทั้งเมืองถูกเผาทำลายเป็นเถ้าถ่าน นับว่าเป็นสูญเสียครั้งใหญ่ของเมืองจะนะก็ว่าได้ เมืองจะนะจึงจำเป็นต้องทำการฟื้นฟูบูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกเมืองสงขลามิตรสหายหักหลัง โดยสงขลาแสวงหาผลประโยชน์จากจะนะที่กำลังอ่อนแอ ซึ่งเมืองสงขลาได้เรียกเก็บส่วยจากเมืองจะนะเป็นจำนวนมาก จนเจ้าเมืองจะนะไม่มีเงินที่จะส่ง จากเหตุผลทั้งหมดเราจะเห็นได้ว่า เมืองจะนะเป็นเมืองที่ไม่ค่อยจะมีความสงบสุขเท่าไหร่นัก มีการย้ายเมืองจะนะอยู่บ่อยครั้ง เจ้าเมืองผลัดเปลี่ยนไม่ซ้ำหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่เมืองจะนะยังคงยืนหยัดเป็นเมืองได้อยู่ คือการรู้จักอ่อนข้อ และรู้จักการปรับตัวตามสถานการณ์นั่นเอง

เกร็ดความรู้เมืองจะนะ
มีการสันนิษฐานกันว่า เมืองจะนะ ในช่วงแรกตั้งอยู่บริเวณ "วังคาโต๊ะ" หรือ "วังโต้" ณ อำเภอนาทวีในปัจจุบัน ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ปลักจะนะ และย้ายต่อไปอยู่ในเมือง ตรงบริเวณตำบลป่าชิง จากนั้นย้ายไปตั้งที่ตำบลจะโหนง เมื่อเปลี่ยนการปกครองแบบเทศาภิบาล อำเภอจะนะก็ไปตั้งที่ที่ว่าการอำเภอนาทวี แต่การคมนาคมไม่สะดวกจึงย้ายมาตั้งที่ตำบลบ้านนา พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบ้านนา แต่ไปพ้องกับอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครนายก จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอจะนะตามเดิม
เครดิตภาพ: เอกราช สรประสิทธิ์ (พี่เอก Hatyai Drone)
ควนตาสำหรุษ…ตำนานผ้าขาวยามเย็น กับภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งตำบลพิจิตร
21 ธันวาคม 2568 | 190บารมีหลวงพ่อแก้ว (วัดบ่อทอง) กับตำนานบ่อน้ำศักดสิทธิ์ รากฐานความศรัทธาของชุมชนสิงหนคร
21 ธันวาคม 2568 | 215“คลอง ร.1” บทบาทสำคัญท่ามกลางวิกฤติ ผ่อนหนักเป็นเบา บรรเทาอุทกภัยเมืองหาดใหญ่
21 ธันวาคม 2568 | 275แปะพิกัดสายมู ขอพรชีวิตปังรับปีใหม่ 2026 ครบจบในที่เดียว ณ วัดสันติวรคุณ (สะเดา)
14 ธันวาคม 2568 | 277ร่องรอยหลังน้ำลด : ภาพความเสียหาย รพ.หาดใหญ่ วันที่หัวใจบุคลากรทางการแพทย์แข็งแกร่งที่สุด
14 ธันวาคม 2568 | 704หาดใหญ่ใต้สายน้ำ : บันทึกมหาอุทกภัยปี 2568 กับเมืองที่ไม่เคยยอมแพ้
14 ธันวาคม 2568 | 1,386พาชมวิวทะเลหมอก 360 องศา ณ ยอดเขาเล่ อันซีนเมืองสะเดา ต้อนรับหน้าฝนปี2025
16 พฤศจิกายน 2568 | 946ตำนานจระเข้ผู้พิทักษ์ : วิถีคนทะเลสาบสงขลาแห่งบ้านอ่าวทึง อ.ควนเนียง
16 พฤศจิกายน 2568 | 4,002