จากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 มีการยิงสลุตเพื่อถวายพระเกียรติ ดังกึกก้องและสะเทือนไปทั่วท้องสนามหลวง นาทีละ 1 นัด ทำให้หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าการยิงปืนใหญ่สลุตเป็นอันตรายหรือไม่ และยิงปืนใหญ่สลุตเพื่ออะไร
บอกเล่าเรื่องราวหาดใหญ่โฟกัสจึงอยากเขียนเรื่องนี้ เพื่อคลายความสงสัยให้แก่ประชาชนคนไทย ซึ่งคนอาจไม่เคยรู้ว่าการยิงปืนใหญ่สลุตนี้เป็นการยิงในโอกาสพิเศษเท่านั้น ปืนใหญ่ที่ใช้จึงไม่ได้บรรจุกระสุนจริง เป็นเพียงลูกแบลงก์ (blank) ที่ทำให้เกิดเสียงและควัน ดังนั้นการยิงแต่ละครั้งจึงเป็นเพียงการกระทำเชิงสัญลักษณ์เพื่อสื่อถึงการถวายพระเกียรติสูงสุดแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9
คำว่า “สลุต” นั้นมาจากรากศัพท์ของคำว่า “Salutio” ในภาษาลาติน และจากเท่าที่ปรากฏตามหลักฐาน ประเทศไทยมีการยิงสลุตครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีบันทึกของจดหมายเหตุฝรั่งเศสกล่าวถึงเรือรบฝรั่งเศสชื่อ เลอโวตูร์ ที่ได้เดินทางเข้ามาถึงป้อมวิชเยนทร์ (ป้อมวิชัยประสิทธิ์ในปัจจุบัน) ที่เมืองบางกอก กัปตันเรือรบฝรั่งเศสได้มีใบบอกเข้าไปถามทางราชสำนักอยุธยาว่าจะขอยิงสลุตให้เป็นเกียรติแก่ชาติสยาม ทางราชสำนักจะขัดข้องไหม สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงรับสั่งให้ออกพระศักดิ์สงคราม ผู้รักษาป้อมในขณะนั้น อนุญาตให้ฝรั่งเศสยิงสลุตได้ นั้นจึงเป็นครั้งแรกของการรยิงสลุตที่ปรากฏประเทศไทย
ภาพเป็นเพียงการประกอบบทความเท่านั้น
ต่อมาเมื่อสิ้นแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์แล้ว พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ สมเด็จพระเพทราชา ทรงไม่โปรดปรานฝรั่งเศส จึงยกเลิกธรรมเนียมการยิงสลุตไป แต่ในที่สุดแล้ว ธรรมเนียมการยิงสลุตนี้ เริ่มกลับมารื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ขณะที่ต้อนรับ เซอร์ จอห์น เบาว์ริง ราชทูตอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2398
ปลายสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2448 “ข้อบังคับว่าด้วยการยิงสลุต ร.ศ.125” แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การยิงสลุตหลวง และการยิงสลุตเป็นเกียรติแก่ข้าราชการ และเมื่อรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตราพระราชกำหนดการยิงสลุตขึ้นใหม่ คือ การยิงสลุต ร.ศ.131 (พ.ศ. 2455) กำหนดให้มีจำนวนปืนไม่ต่ำกว่า 4 กระบอก ซึ่งมีขนาดลำกล้องไม่เกิน 120 มิลลิเมตร ห้ามยิงตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกไปแล้วจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น แบ่งประเภทการยิงสลุตไว้ 3 ประเภท คือ
1. สลุตหลวง แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ สลุตหลวงธรรมดา มีจำนวน 21 นัด และสลุตหลวงพิเศษ มีจำนวน 101 นัด (ต่อมาในรัชกาลที่ 7 เพื่อเป็นการประหยัดดินปืน จึงไม่ทรงให้ยิงสลุตหลวงพิเศษ)
2. สลุตข้าราชการ
3. สลุตนานาชาติ
ภาพเป็นเพียงการประกอบบทความเท่านั้น
ก่อนธรรมเนียมนี้ได้ถูกยกเลิกไปหลายครั้ง กระทั่งนำกลับมาใช้อีกครั้งในวันที่ 5 ธันวาคม 2491 เนื่องในพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ดังนั้นประเพณีการยิงสลุตจึงสืบทอดจากนั้นมาจนทุกวันนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก arty16.com / sanook
ภาพจาก ธนารักษ์ คุนทน / NationPhoto
ย้อนชมภูมิปัญญาการทำขวัญข้าว สู่การสร้างวงเวียนพระแม่โพสพ ศูนย์รวมจิตใจชาวระโนด
8 มิถุนายน 2568 | 337เปิดที่มาชุมชนประวัติศาสตร์ บ้านควนจง (นาหม่อม)
8 มิถุนายน 2568 | 388วิถีมุสลิมบ้านดอนขี้เหล็ก "ประเพณีการทูนพานอาหาร" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
8 มิถุนายน 2568 | 429เปิดตำนาน...ที่มาชื่อบ้านบ่อแดง อ.สทิงพระ
25 พฤษภาคม 2568 | 882ของดีของหรอยท่าเลออก ตลาดริมทางของผู้สัญจรผ่าน ณ สามแยกบ่อทราย (ปากรอ)
25 พฤษภาคม 2568 | 3,205ตำนานทวดเข้...ทวดขุนดำ-ทวดแขนลาย แห่งสายน้ำคลองท่าม่วง อ.ควนเนียง
25 พฤษภาคม 2568 | 1,877ร่องรอยจากอดีต พิพิธภัณฑ์วัดท่าช้าง(บางกล่ำ)
18 พฤษภาคม 2568 | 766เจ้าบ่าวน้อยแห่งควนเขาสูง : วีรบุรุษชุมชนท้องถิ่น บ้านพรุเตาะ ต.ทุ่งใหญ่
18 พฤษภาคม 2568 | 1,817