ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นวันที่หลาย ๆ คน ไม่อยากให้ถึง รวมถึงตัวฉันด้วย ฉันพยายามทำทุกอย่างที่ประชาชนคนไทยคนหนึ่งจะทำได้ และฉันคิดว่าทุกคนก็คงทำแบบฉัน หลังจากหมดเวลางานฉันนั่งเลื่อนเฟซบุ๊กไปมา เพื่อดูความเป็นไปในโลกโซเชียล เย็นของวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ฉันเจอรูปภาพพร้อมข้อความ จากเพื่อนในเฟซบุ๊กคนหนึ่ง กำลังตั้งใจทำขนมเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธีที่หลาย ๆ คน ไม่อยากให้เกิดขึ้น
รูปภาพขนมรูปนั้นมีข้อความกำกับว่า "เค้กราชปะแตน ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรด" ฉันไม่เคยรู้จักขนมชนิดมาก่อนจึงเข้ากดค้นหาในอากู๋ จนเจอบทความน่าสนใจจากเว็บ mascoops.com ความว่า
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระปรีชาสามารถในหลายๆ ด้าน และศึกษาสิ่งที่พระองค์ทรงสนพระทัยอย่างไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์ดิน น้ำ หรือป่าไม้ อันเชื่อมโยงไปสู่การส่งเสริมอาชีพให้กับราษฎร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฉันได้ยินและเห็นการทรงงานของพระองค์มาตั้งแต่เกิด แต่พระอัจฉริยภาพด้านกีฬากลับเป็นสิ่งที่ฉันรู้เพียงผิวเผิน"
…๗๕ วันแล้วที่องค์เหนือเกล้าเสด็จสู่สวรรคาลัย ฉันคิดถึงพระองค์ท่านจับใจ จึงหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านมาศึกษา ซึมซับไปทีละตัวอักษร จนกระทั่งถึงเรื่องการกีฬา…
“ตอนที่ต่อเรือใบราชปะแตนเสร็จ ท่านก็จะเอาลงน้ำ ท่านก็ทรงแบกไปด้วย มีมหาดเล็กช่วยกัน แบกไปวางแล้วก็เล่นเป็นครั้งแรก โดยพระองค์ท่านทรงถือท้าย สักพักหนึ่งท่านก็รับสั่งว่า ท่านจะเข้าฝั่งเพื่อจะทอดพระเนตรเรือที่ท่านต่อในเวลาที่แล่นในน้ำ
“แล้วท่านก็ขึ้นไปให้ผมแล่นไปคนเดียว แล่นไปสักแป๊บเดียว เรือล่ม เสาล้มลงไปเลย ท่านก็บอกว่าเรือไม่น่าจะล่ม คนในวังที่อายุมากๆ ก็จะบอกว่าคงเป็นเพราะธงประจำพระองค์ไม่ได้เอาขึ้น คือผมแล่นไปโดยมีธงของพระเจ้าอยู่หัว เสาล้มเลย
“แต่อย่างไรก็ตาม พอขึ้นมา มีการเลี้ยงน้ำชาที่ริมบ่อนั้นเลย และภรรยาผมก็ทำเค้กมาอันนึง ท่านเสวยก็โปรดมาก และทรงเรียกเค้กนั้นว่า เค้กราชปะแตน ก็เลยเป็นที่มาของชื่อเค้กอันนี้”
นั่นเป็นบทสัมภาษณ์ของหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ซึ่งให้สัมภาษณ์กับทีมงานผู้จัดการออนไลน์ ทำให้ฉันเกิดความสนใจในเค้กชนิดนี้อย่างยิ่ง
“เค้าไม่รู้จักเลยเจ้…” เพื่อนสาวเจ้าของร้านกาแฟและเบเกอรี่ ๒-๓ รายต่างตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกัน
ดูท่าทางคงเป็นเค้กที่น้อยคนจะเคยได้ยินชื่อ ด้วยความค้างคาใจทำให้การค้นหายังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งได้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและโครงการหลวง’ มีข้อความตอนหนึ่งที่เล่าว่า ‘ท่านผู้หญิง หม่อมราชวงศ์ดัชรี รัชนี ได้นำ เค้กคอฟฟี่ เรซิน ที่ทำไปทูลเกล้าฯ ถวาย วันที่พระองค์ท่านต่อเรือใบราชปะแตน ซึ่งเป็นเรือใบลำแรกของโลก ที่พระราชาทรงต่อด้วยพระหัตถ์ได้สำเร็จ’
ฉันจึงได้ถึงบางอ้อว่าที่แท้ก็เป็นเจ้าเค้กรสเข้มชนิดนี้เอง… ‘นี้เอง’…แหม! ช่างเรียกราวกับเป็นคนคุ้นเคยการทำขนม ทั้งที่จริงเพียงถนัดชิมและเก็บล้างเท่านั้น หากคราวนี้คำว่า ‘พระองค์ท่านโปรดเสวยมาก…’ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ผลักดันให้ฉันมีมานะขึ้น
ฉันใช้กูเกิ้ลเสิร์ชหาวิธีทำเค้กคอฟฟี่ เรซิน ทั้งสูตรของฝรั่งและของไทย แต่ก็พบว่าสูตรของชาวตะวันตกต้นตำรับดูจะหวานไป สูตรของคนไทยบางสูตรก็มีนมข้นหวานผสมอยู่ด้วย ดูจะเป็นการประยุกต์มากเกินไป ในที่สุดจึงไปลงตัวที่ห้องสนทนาก้นครัวไม่หัวของพันทิป ซึ่งสมาชิกท่านหนึ่งได้โพสต์สูตรของอาจารย์ จริยา เดชกุญชร เอาไว้ เมื่ออ่านดูแล้วเป็นสูตรที่ทำตามได้ไม่ยาก
โดยวิธีทำแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนของตัวเค้ก และส่วนที่ใช้ราดหน้า
ส่วนของตัวเค้ก ประกอบด้วย
๑. ตีเนยสด เนยขาว น้ำตาลทรายแดงและเกลือ ด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู
๒. ค่อยๆ เติมไข่ตีให้เข้ากัน
๓. เทส่วนผสมของแป้งสลับกับนมสด
๔. ละลายกาแฟลงในส่วนผสมของเนย
๕. คนให้เข้ากัน
๖. เติมลูกเกด เทใส่พิมพ์ แล้วพักไว้ก่อน
ส่วนผสมที่ใช้ราดหน้า ประกอบด้วย
๑. ตีเนยสด มาการีน และน้ำตาลทรายแดงจนขึ้นฟู
๒. ใส่แป้งเอนกประสงค์ผสมให้เข้ากัน
๓. นำส่วนผสมไปราด เกลี่ยให้ทั่วหน้าเค้ก
๔. โรยอัลมอนด์สไลด์
สุดท้าย คือ อบด้วยไฟ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ ๔๕ นาที
จากการลองทำครั้งที่ ๑ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเหลวไม่เป็นท่า… เพราะเนื้อเค้กมันเหลวจริงๆ ส่วนครั้งที่ ๒ เสียงโคล้งเคล้งโป๊งเป๊งจากครัวเป็นนิมิตรหมายว่าจะสำเร็จ… ซึ่งก็ดูเหมือนจะดีขึ้นนิดหน่อยน่ะนะ ส่วนเจ้าลูกเกดที่จมดิ่งลงไปอยู่ก้นพิมพ์ ก็ได้เคล็ดลับมาว่า ให้แช่น้ำเสียคืนหนึ่ง แล้วนำมาหั่นให้เล็กลงหน่อย ค่อยผสม ครั้งที่ ๓ จึงได้เค้กทีหน้าตาละม้ายจะเป็นคอฟฟี่ เรซิน ที่พอกลืนได้ลงคอ ฝึกฝนอีกหน่อยคงได้เค้กราชปะแตนไว้ต้อนรับแขกปีใหม่กันล่ะ
“…ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ สวัสดีวันปีใหม่เทอญ” บทเพลงพระราชนิพนธ์ ‘พรปีใหม่’ ที่ลอยมากับสายลม ทำให้ฉันตระหนักว่า พระองค์ผู้ผ่านฟ้าไม่ได้จากไปไหนไกลเลย หากแต่ทรงสถิตอยู่ในใจของฉันและพสกนิกรไทยเสมอ…ตราบนิรันดร์
ฉันในนามพนักงานหาดใหญ่โฟกัสขอขอบคุณเพื่อนในเฟซบุ๊กคนนั้นที่ตั้งใจทำขนมที่ในหลวงทรงโปรดเพื่อแจกจ่ายประชาชนในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 และขอบคุณบทความดี ๆ จาก mascoop ที่ทำให้ฉันรู้จักขนมชนิดนี้ ถ้ามีโอกาสฉันจะลองทำตามสูตรที่ทางผู้เขียนให้ไว้...
ขอขอบคุณบทความดี ๆ และภาพประกอบ จาก http://www.mascoops.com
ขอบคุณภาพขนม : khwan Suwanwattana
“โรงเรียนช่างตัดเย็บเสื้อผ้าสงขลา” สู่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา
24 สิงหาคม 2568 | 184ชุมชนท่องเที่ยว "บ้านหัวนอนวัด" ชุมชนคุณธรรม จิตรกรรมล้ำค่า ศาลาร้อยปี
24 สิงหาคม 2568 | 181ตำนานสิทธิเรือรี สู่ชื่อตำบลคลองรี อ.สทิงพระ
24 สิงหาคม 2568 | 161ข้าวดอกราย อาหารพื้นบ้านของคนสะกอมสมัยเริ่มก่อตั้งชุมชน
17 สิงหาคม 2568 | 476ย้อนภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต...วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา
17 สิงหาคม 2568 | 2,527"สะพานประวัติศาสตร์ ๓ พ.ศ." สะพานโค้งแห่งแรกของเส้นทางสายพัทลุง-ตรัง
17 สิงหาคม 2568 | 605พาชมกำแพงเมืองพัทลุงเขาชัยบุรี กำแพงเมืองก่ออิฐหนึ่งเดียวใน จ.พัทลุง
10 สิงหาคม 2568 | 459ศาลเจ้าแป๊ะกงสะเดา ที่พึ่งพายามยากของชาวจีนอพยพ
10 สิงหาคม 2568 | 979