ในอดีตเมื่อเหล่าบรรดาพระบรมศานุวงศ์สิ้นพระชนม์ พระบรมศพจะถูกบรรจุลงพระบรมโกศ แต่ธรรมเนียมมาเปลี่ยนแปลงครั้งแรก เมื่อคราวงานพิธีพระบรมศพของสมเด็จย่า โดยสมเด็จย่ามีพระกระแสรับสั่งว่า ทรงมีพระประสงค์มิลงประทับในพระบรมโกศ ซึ่งในคราวของงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) พระองค์ก็ทรงมีพระราชประสงค์ส่วนพระองค์ ที่จะทรงประทับยังพระหีบ มิได้ลงประทับลงพระบรมโกศ เฉกเช่นเดียวกับพระราชมารดาของพระองค์
ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงที่จะมาถึงในไม่กี่วันนี้ มีการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอย่างยิ่งใหญ่ และให้สมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา โดยมีการอัญเชิญพระบรมโกศจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ไปประดิษฐสถานยังพระมหาพิชัยราชรถ และเคลื่อนขบวนสู่พระเมรุมาศ จากนั้นอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นราชรถปืนใหญ่เวียนอุตราวัฏรอบพระเมรุมาศ 3 รอบ ก่อนเทียบที่เกรินพระเมรุมาศ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ประดิษฐานบนพระเมรุมาศ
แต่รู้หรือไม่ ? พระบรมศพของพระองค์มิได้ทรงประทับอยู่ในขบวนกล่าว
หลายคนคงจะสงสัยในเมื่อพระบรมศพของในหลวงไม่ได้ประทับลงในพระบรมโกศ แล้วพระบรมศพของพระองค์หายไปไหน? วันนี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโบราณราชประเพณีที่เรียกว่า "ลักพระศพ" ชื่อนี้เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของเจ้าพนักงานภูษามาลา* ซึ่งการลักพระศพจะใช้พูดถึง ขั้นตอนการอัญเชิญพระศพไปยังพระเมรุมาศก่อนงานพระราชพิธี พนักงานภูษามาลาจะรีบกระทำในเวลากลางคืน หรือ เช้ามืดก่อนงานพระราชพิธี จะมีการอัญเชิญพระโกศทรงพระศพออกจากตำหนัก หรือ วังประทับ ขึ้นยังพระราชยานรถม้า ไปยังสถานที่ใดที่หนึ่ง เพื่อตั้งรอริ้วขบวนงานพระราชพิธีที่จะเกิดขึ้นในตอนเช้า ในอดีตไม่สามารถบอกให้ใครรับรู้ได้ แต่สามารถจดบันทึกเหตุการณ์ในจดหมายเหตุได้
ปัจจุบันธรรมเนียมเกี่ยวกับพระบรมศพได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ที่เห็นได้ชัดคือ มีการนำหีบมาใช้ทรงพระศพ แทนการใช้พระโกศ ดังนั้น เมื่อถึงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิง ช่วงการแห่จึงทำให้บนพระมหาราชรถมีเพียงโกศเปล่า เนื่องจากพระมหาราชรถ ซึ่งมีการออกแบบมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้ออกแบบมาเพื่อใช้กับพระโกศเท่านั้น ไม่สามารถอัญเชิญพระหีบขึ้นไปได้ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกัน เจ้าพนักงานภูษามาลาจึงต้องทำการลักพระศพล่วงหน้า ในช่วงเวลากลางคืน มีการอัญเชิญหีบพระศพ เข้ายังรถตู้ยนต์พระที่นั่ง จากนั้นตั้งขบวนเคลื่อนไปยังท้องสนามหลวง พอถึงบริเวณพระเมรุมาศ ก็จะทำการชักพระศพขึ้นไปสู่พระเมรุมาศ เพื่อรอริ้วขบวนพระราชพิธี
พูดกันแบบภาษาชาวบ้าน พระบรมศพจะถูกอัญเชิญโดยธรรมเนียมที่เรียกว่า "ลักพระศพ" ไปยังพระเมรุมาศในคืนก่อนแล้ว ส่วนพระบรมโกศที่แห่ไปนั้นทางการใช้คำว่า "ขบวนพระราชอิสริยยศ" ประกอบขึ้นเพื่อเป็นเกียรติยศเต็มสูงสุดตามโบราณราชประเพณี
*ภูษามาลา หมายถึง ข้าราชการในราชสำนัก มีหน้าที่รักษาเครื่องราชอิสริยยศและเครื่องแต่งพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ตลอดจนถวายทรงพระเครื่องใหญ่ ถวายพระกลด ถวายสุกำ ทำสุกำ เปลื้องเครื่องสุกำศพพระบรมศพ พระศพ และเปลื้องเครื่องสุกำศพที่ได้รับพระราชทานโกศ เป็นต้น เรียกกันว่า เจ้าพนักงานภูษามาลา
ข้าวดอกราย อาหารพื้นบ้านของคนสะกอมสมัยเริ่มก่อตั้งชุมชน
17 สิงหาคม 2568 | 389ย้อนภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต...วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา
17 สิงหาคม 2568 | 2,313"สะพานประวัติศาสตร์ ๓ พ.ศ." สะพานโค้งแห่งแรกของเส้นทางสายพัทลุง-ตรัง
17 สิงหาคม 2568 | 478พาชมกำแพงเมืองพัทลุงเขาชัยบุรี กำแพงเมืองก่ออิฐหนึ่งเดียวใน จ.พัทลุง
10 สิงหาคม 2568 | 315ศาลเจ้าแป๊ะกงสะเดา ที่พึ่งพายามยากของชาวจีนอพยพ
10 สิงหาคม 2568 | 583ขอพรพ่อเฒ่านอน พระพุทธไสยาสน์คู่เมืองสทิงพระแต่โบราณ
10 สิงหาคม 2568 | 705รอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง ณ หาดมหาราช (สทิงพระ)
3 สิงหาคม 2568 | 891ตำนาน 5 ภูผาแห่งอำเภอรัตภูมิ สู่การผูกคำกลอนมุขปาฐะ อายุนับ 100 ปี
3 สิงหาคม 2568 | 632