ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา มีเนื้อที่ครอบคลุมจังหวัดพัทลุงทั้งจังหวัด รวมทั้งพื้นที่ส่วนมากของสงขลา นครศรีธรรมราช มีพื้นที่มากกว่า 1,046 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบและแผ่นดิน บริเวณนี้เหมาะที่จะตั้งถิ่นฐาน และทำมาหากินทำ สมัยก่อนชาวบ้านจึงนิยมไปหักร้างถางพงหาที่ราบเพื่อเพาะปลูกข้าว นี่คือภาพรวมเล็ก ๆ ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา อู่ข้าวอู่น้ำของชาวสงขลา ความกว้างขวางของทะเลสาบสงขลาทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าค้นหา
วันนี้ HatyaiFocus ขอนำเสนอเรื่องราวของ 'นักเลงเลสาบสงขลา' แต่ก่อนอื่นขอเท้าความให้ฟังว่า สภาพภูมิศาสตร์ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทำให้บริเวณนี้มีลักษณะพิเศษ และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากชุมชนอื่น ทำให้เกิดชุมชนเมืองพัทลุง และ สงขลา มีความสัมพันธ์กับอำนาจรัฐฯ จากภาคกลาง สังเกตได้ว่ากษัตริย์จะเสด็จมาเยือนเมืองทั้งสองนี้มากกว่าเมืองใด และการเป็นเมืองท่าการค้ามาตั้งแต่สมัยอยุธยา ยิ่งทำให้สงขลาเจริญกว่าเมืองใด (มีเสียงเล่าเบา ๆ บรรดาเมืองอื่นในปักษ์ใต้ มีฉายาเรียกคนพัทลุงและคนสงขลาว่า พวกข้าหลวง หรือ พวกหลวง)
ย้อนกลับไปเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2437) สังคมยังเต็มไปด้วยอันตรายและห่างไกลศูนย์กลางการปกครอง คำว่า 'นักเลงแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา' จึงแตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนคิด กำเนิดขึ้นจากรากฐานวัฒนธรรมที่สอนให้ผู้คนป้องกันตนเอง เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสังคมสมัยนั้น
ข้อมูลจากงานเขียนของ อาจารย์สุธิวงศ์ พงษ์ไพบูลย์ ระบุว่า “เมื่อใด ท้องถิ่นใด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบ้านเมืองไม่อาจปกครองดูแลได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง นักเลงจะทำหน้าที่ดูแลจัดการเพื่อให้ท้องถิ่นเกิดความสงบ” ข้อความนี้น่าจะยืนยันใดว่าทำไมต้องมีวัฒนธรรมนักเลง
นอกจากนั้นอาจารย์สุธิวงศ์ ยังระบุว่า การเป็นนักเลงที่สมบูรณ์จำเป็นต้องพฤติกรรม อาทิ 1.นักเลงต้องรอบรู้เรื่องการเป็น ต้องลักขโมยเป็นแต่จะไม่ลักเล็กขโมยน้อย นักเลงจะทำเพียงพิสูจน์ หรือ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนให้เป็นที่น่าเกรงขามต่อนักเลงคนอื่นเท่านั้น 2.ในโอกาสที่นักเลงจัดให้มีงานเลี้ยง ถือเป็นการวัดฐานะ หากมีแขกเหรื่อมาร่วมมาเท่าไหร่ นับว่าเป็นการแสดงถึงศักดิ์ศรีเท่านั้น 3.นักเลงในพื้นที่่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลานิยมนัดฟันหรือนัดแทง อย่างเปิดเผย เพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญซึ่งกันและกัน
*รูปที่ใช้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : ชุมโจรแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ.2437-2465 , เอนก นาวิกมูล , teakdoor
พาชมกำแพงเมืองพัทลุงเขาชัยบุรี กำแพงเมืองก่ออิฐหนึ่งเดียวใน จ.พัทลุง
10 สิงหาคม 2568 | 282ศาลเจ้าแป๊ะกงสะเดา ที่พึ่งพายามยากของชาวจีนอพยพ
10 สิงหาคม 2568 | 283ขอพรพ่อเฒ่านอน พระพุทธไสยาสน์คู่เมืองสทิงพระแต่โบราณ
10 สิงหาคม 2568 | 285รอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง ณ หาดมหาราช (สทิงพระ)
3 สิงหาคม 2568 | 287ตำนาน 5 ภูผาแห่งอำเภอรัตภูมิ สู่การผูกคำกลอนมุขปาฐะ อายุนับ 100 ปี
3 สิงหาคม 2568 | 343ย้อนประวัติ การจัดสร้างโรงพยาบาลประสาทแห่งแรกของภาคใต้
3 สิงหาคม 2568 | 337ทวดหลักเขตเขาพับผ้า ตำนานอภินิหารบนเส้นทางตรัง - พัทลุง
27 กรกฎาคม 2568 | 1,059"วัดเกษมรัตน์" วัดโบราณกว่า 409 ปี มรดกทางวัฒนธรรมของชาวอ.จะนะ
27 กรกฎาคม 2568 | 720