หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

คดีดังสะเทือนสงขลา!! อุทิศ สั่งฆ่านายกเล็ก
18 กันยายน 2560 | 11,182

HatyaiFocus นำทุกคนย้อนรอยตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด คดีดังสะเทือนสงขลา เมื่อค่ำคืนแห่งความสูญเสียและน่าสะเทือนใจมาถึง ช่วงค่ำวันที่ 7 พ.ย. ปี 55 คนสงขลาต่างพากันตื่นตกใจหลังได้ยินข่าวว่า นายพีระ ตันติเศรณี (นายกเล็ก) อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ถนนนครใน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที โดยคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงกลางเมืองสงขลา

หลังจากนั้นสำนักข่าวต่าง ๆ ให้ความสนใจลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เจาะประเด็นสาเหตุและความน่าจะเป็นของคดีสะเทือนขวัญในครั้งนี้ และหนึ่งในเป้าหมายที่หลายคนจับตามองนั่นคือ นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ที่ในยุคนั้นมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็นกับนายกพีระ

ไม่ทันข้ามวัน เจ้าหน้าที่สามารถตามตรวจยึดรถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการลอบสังหาร ซึ่งนำไปจอดทิ้งไว้ในสถานีวิทยุของนายกิตติ ชูช่วย น้องชายนายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. สงขลา นั่นถือเป็นหลักฐานและจุดเริ่มต้นสำคัญในการคลี่คลายคดีนี้ของตำรวจ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายพีระได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มเอ็นจีโอเรื่องปัญหาสารกัมมันตรังสี หลังการประชุมเสร็จสิ้น นายพีระได้เดินออกมาเพื่อขึ้นรถตู้ประจำตำแหน่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน นข 3336 สงขลา ที่จอดเยื้องออกไปหน้าร้าน

ทันใดนั้น ได้มีกลุ่มคนร้าย 4 คน ใช้หมวกไหมพรมคลุมหน้า ขับรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดด้านหน้าร้านดังกล่าว ก่อนใช้อาวุธสงครามกราดยิงนายพีระจนเสียชีวิตคาที่ ทั้งยังกราดยิงรถตู้ของนายพีระ จนพรุนทั้งคัน ก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน แบ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่า 3 คน คือ นายอุทิศ ชูช่วย นายกิตติ ชูช่วย และนายปราโมทย์ แสงอรุณ ทั้งหมดมีความเกี่ยวพันเป็นญาติใกล้ชิดกัน ส่วนกลุ่มมือปืนมีทั้งหมด 7 คน นำโดยนายไพศาล หนูพันธุ์ นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว และนายอธิป ด้วงมาก ทั้งหมดเป็นผู้ใกล้ชิดนายอุทิศ

สาเหตุความขัดแย้งมาจากโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบสงขลา เป็นปมสำคัญที่พนักงานสอบสวนให้น้ำหนัก เพราะมีมูลเหตุชัดเจนจากกรณีที่ นายพีระไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่บริเวณแหลมสนอ่อนเพื่อก่อสร้างฐานกระเช้าลอยฟ้า เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และต้องการอนุรักษ์ป่าสนผืนสุดท้ายกลางเมืองสงขลาไว้ให้ชนรุ่นหลัง

นายอุทิศ ได้ให้การปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายพีระ แต่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นฝีมือของนายอุทิศ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องนายอุทิศ ชูช่วย พร้อมพวกรวม 5 คน และโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้น

ต่อมาวันที่ 29 ตุลาคม 2558 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้ให้ประหารชีวิตจำเลย 3 คน คือ นายอุทิศ ชูช่วย (จำเลยที่ 5) พร้อมด้วยนายไพศาล หนูพันธ์ (จำเลยที่ 1) และนายฉ้วน หมวดมี (จำเลยที่ 3) และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายกิตติ ชูช่วย (จำเลยที่ 4) ซึ่งเป็นน้องชายของนายอุทิศ และนายสุดขีด จันทร์เขียว (จำเลยที่ 7) และจำเลยยื่นฎีกาคำตัดสิน

และในวันที่ 7 กันยายน 2559 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คือ ให้ประหารชีวิตจำเลย 3 คน คือ นายอุทิศ ชูช่วย (จำเลยที่ 5) พร้อมด้วยนายไพศาล หนูพันธ์ (จำเลยที่ 1) และนายฉ้วน หมวดมี (จำเลยที่ 3) และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายกิตติ ชูช่วย (จำเลยที่ 4)  และนายสุดขีด จันทร์เขียว (จำเลยที่ 7)

และแล้วเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็ได้ปิดตำนานลง พร้อมกับการยุติโครงการกระเช้าลอยฟ้า คนหนึ่งเสียชีวิต อีกคนตัดสินประหารชีวิต แต่ผลงานของนายกอุทิศ ชูช่วย และนายกพีระ ตันติเศรณี ยังอยู่ในใจของชาวสงขลาเสมอ แม้ว่าทั้ง 2 คนจะไม่ได้เดินบนถนนการเมืองแล้วก็ตาม


ขอบคุณภาพ : Kapook ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,คมชัดลึก

เรียบเรียง : HatyaiFocus

 
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง