หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

อดีตและปัจจุบัน...ชาวสยามในมาเลเซีย
31 สิงหาคม 2560 | 20,626

วันที่ 31 สิงหาคม 2500 ถือเป็นวันที่ชาวมาเลเซีย เรียกกันว่า Merdeka Day หรือ วันชาติมาเลเซีย นั่นเอง ดินแดนแห่งนี้เคยตกเป็นประเทศในปกครองของอังกฤษ หลังได้รับเอกราชคืนมาจึงประกาศให้วันที่ 31 สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันชาติ ช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ HatyaiFocus อยากพาทุกคนมาพบกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของไทยกับมาเลเซียกัน

ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ไทยกับมาเลเซีย ย่อมต้องใกล้ชิดและมีประวัติศาสตร์ร่วมกันเป็นธรรมดา หลายคนมักได้ยินว่า ก่อนกำเนิดรัฐชาติ (ในที่นี้คือประเทศไทย) บางส่วนของมาเลเซียคือพื้นที่ของประเทศไทย คำกล่าวนี้จริงหรือไม่ จำเป็นต้องศึกษาจากงานหลายชิ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องจริงคือบางส่วนของมาเลเซีย อย่าง เกดาห์ เปอร์ลิส กลันตัน และตรังกานู เป็นพื้นที่ที่มีความเกี่ยวพันทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคโบราณ งานเขียนบางชิ้นระบุว่า ดินแดนเหล่านี้เดิมอยู่ในอาณาจักรศรีวิชัย และอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) รัฐตอนเหนือของมาเลเซียบางส่วน บางเวลาอยู่ภายใต้อำนาจและอิทธิพลของไทยตั้งแต่สุโขทัย แต่สถานะความสัมพันธ์ระหว่างรัฐในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากับหัวเมืองมลายู บางครั้งก็ไม่แน่ชัดว่าเป็นอย่างไร

งานวิจัยของอาจารย์พรชัย นาคสีทอง ชี้ให้เห็นภาพภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างหัวเมืองมลายูกับรัฐไทย หลักฐานชิ้นสำคัญคือ ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง (บุหงามาส) ซึ่่งเจ้าเมืองมลายูต้องมอบให้กษัตริย์ไทย สิ่งนี้มีกลายนัยยะซึ่งยังไม่มีใครตีความได้แน่ชัดว่าการมอบต้นไม้เงินต้นไม้ทอง เป็นการแสดงถึงอะไร บางส่วนบอกว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดี เป็นสถานะความสัมพันธ์ในลักษณะของเมืองประเทศราช หรือ แสดงความหมายแห่งมิตรภาพ

ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง

ข้อมูลอีกชิ้นชี้ให้เห็นว่า ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย อพยพเข้ามาเลเซียตั้งแต่ 300 - 500 ปีที่แล้ว ด้วยหลักฐานจากการที่กองทัพสยามยกทัพไปตีเมืองปาหังของมลายู ผู้ที่ติดตามกองทัพสยามตั้งรกรากอยู่ในปาหังอย่างกระจัดกระจาย รวมไปถึงสมัยพระบรมไตรโลกนาถ เคยมีการยกทัพมาตีมะละกา กองบริวารบางส่วนอาจตั้งถิ่นฐานบริเวณภาคเหนือของมาเลเซียในปัจจุบัน

หากวาร์ปมาที่ช่วงเวลาใกล้ตั้งรัฐชาติ เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว (พ.ศ. 2452) หลังสยามทำสนธิสัญญายก ไทรบุรี ปะลิส กลันตัน และตรังกานูให้อยู่ในความดูแลของอังกฤษ ทำให้เกิดเส้นแบ่งพรมแดนที่ชัดเจน หากแต่ไม่สามารถแยกเอาผู้คนและวัฒนธรรมที่เคยอยู่ติดที่ในดินแดนเหล่านั้นออกจากกันอย่างชัดเจนได้ จึงทำให้มีคนมาเลเซียเชื้อสายไทยที่นับถือทั้งพุทธและมุสลิมหลงเหลือ

ช่วงเวลานั้นแม้จะมีการประกาศให้คนไทยที่อยู่ในมาเลเซีย มารายงานตัวว่าต้องการฝั่งไหนที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย แม้จะเลยกำหนดเส้นตายไปแล้ว คนไทยส่วนมากไม่ทราบข่าวสารและไม่สนใจ เพราะบางคนมีหลักแหล่งที่ดินทำมาหากินหรือครอบครัวอยู่ที่นั่นแล้ว ดังนั้น ในบางหมู่บ้านมาเลย์จะมีชื่อแบบไทย ๆ ว่าบ้านควนขนุน บ้านต้นพยอม บ้านสัก เป็นต้น และตามข้างทางจะเห็นวัดไทยปะปนอยู่ตามหมู่บ้าน

เด็กมาเลเซียเชื้อสายไทยต้องสวดมนต์ เพื่อรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทย  

วัดไทยในกลันตัน

สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณรัฐตอนเหนือ แม้จะมีสัดส่วนน้อย เช่น รัฐเกดาห์แบ่งการปกครองออกเป็น 11 เขต 27 หมู่บ้าน 50 วัด มีจำนวนชาวไทยไม่ต่ำกว่า 50,000 คน บางส่วนของชาวไทยได้รับสถานะการเป็นภูมิบุตราแล้ว แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทย มีโรงเรียนสอนภาษาไทย วัด สำหรับการพบปะกันในหมู่คนไทย การจัดงานประเพณีวัฒนธรรม เช่น งานสงกรานต์ งานลอยกระทง ทุกวันนี้ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยยังคงมีญาติอยู่ในผืนแผ่นดินไทย และยังไปมาหาสู่กันตลอด เป็นสายสัมพันธ์ที่ยังดำเนินอยู่ภายใต้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย - มาเลเซีย

 เกาะหมาก หรือ ปีนัง เมืองที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับสยามมายาวนาน

 

*เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการตีความโดยใช้หลักฐาน บางครั้งเราจึงพบว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทันทีที่มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นใหม่

 

ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : “ประวัติศาสตร์” “ความทรงจำ” และ “อัตลักษณ์ไทย (พุทธ) สยาม” ในมาเลเซีย : กรณีชุมชนบางแซะ (Teresek) รัฐกลันตัน - พรชัย นาคสีทอง , AEC Movement : เชื้อสายไทยในมาเลเซีย , thestar , ravio , malaysiahistory , kosmo , ณัฐภาวี สุศิวะ , วารสารปัญญาภิวัฒน์

เขียนและเรียบเรียง : HatyaiFocus 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง