เปิดตำนานเจ้านางสีดอกไม้กับเจ้าเมือง(หลาโต๊ะเมือง) ที่ฝังศพของเจ้าเมืองและเจ้าหญิงสมัยโบราณ อายุเก่าแก่ ประมาณ 300 กว่าปี
ตำบลนาทับ จ.สงขลา เมื่อก่อนเคยเป็นสรภูมิรบเป็นที่ตั้งของหัวเมืองปาตานี มีหัวเมืองเล็กๆตั้งอยู่ที่บ้านท่ายาง และมีป้อมปราการอยู่ที่ทะเลสวนกง ส่วนจะโหนงนั้นก็มีหัวเมืองด้วยเช่นกัน เรียกว่าเมืองหนะ
ตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่ในยุคปัจจุบันคือหลุมฝังศพของบรรดานักรบ แม่ทัพ และเจ้าเมือง ที่เรียงรายกันอยู่ทั่ว ต.นาทับและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ตำนานนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า เจ้าเมืองและเจ้าหญิงที่ได้มาเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้คือเจ้าหญิงแห่งเมืองใดกันแน่ บ้างก็ว่าเป็นเจ้าหญิงเมืองหนะ(จะโหนง) บ้างก็ว่าเป็นเจ้าหญิงกับเจ้าเมืองหนองจิก หรืออาจจะเป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองที่บ้านท่ายางในปัจจุบัน
ในสมัยรัชกาลที่ 1-3 ฝ่ายสยามได้ทำสงครามกับฝ่ายมาลายูเมืองไทรบุรี สงครามครั้งนี้ได้กินเวลานานมาก โดยมีเจ้าเมืองหนองจิก เจ้าเมืองปัตตานีและเจ้าเมืองมาลายูต่างๆได้เข้าร่วมทัพกับรัฐเคดะห์(ไทรบุรี) แต่สยามเป็นฝ่ายชนะสงครามเจ้าเมือง และทหารทั้งหมดจึงถูกจับเป็นเชลยโดนประหารชีวิต ศพของเจ้าเมืองก็ได้ถูกฝังไว้ที่กุโบร์หลาโตะเมือง บ้างก็ว่าเป็นเจ้าเมืองหนะที่หนีสงครามมากับลูกสาวโดยขี่เรือมาตามลำคลองนาทับ และได้หนีลงจากเรือมาขี่กะทะใบบัวแล้วลอยมาขึ้นฝั่งที่ ม.5 บ้านม้างอน โดยมีทหารและเหล่าขุนนางต่างได้หนีตามมาด้วย โดยมีฝ่ายสยามตามมาติดๆ เจ้าหญิงและเจ้าเมืองได้หนีขึ้นมาอยู่บนเขาและได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ฝ่ายกองทัพสยามก็ได้ขี่ม้ามาตามหา และได้ตั้งค่ายพักแรมอยู่ที่ริมคลองบ้านม้างอน เพราะตรงจุดนั้นจะสิ้นสุดแหลมไม่สามารถไปต่อได้เพราะจะเป็นลำคลองล้อมรอบ เมื่อก่อนเรียกกันว่าม้านอน แต่เพี้ยนมาเป็นม้างอนในปัจจุบัน
ผู้เฒ่าในสมัยก่อนบอกว่าท่านเจ้าเมืองได้ฆ่าลูกสาวเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องตกไปเป็นเชลยของฝ่ายสยาม เพราะเจ้าหญิงมีลักษณะที่สง่างาม ผิวขาว ตัวสูง และมีผมที่ดกดำและยาวสลวย ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่านางสีดอกไม้ เมื่อผู้เป็นเจ้าเมืองได้ฆ่าเจ้านางสีดอกไม้เสร็จก็ได้ฝังนางไว้บนเขา ชาวบ้านเรียกเขาลูกนั้นว่า "ควนสีดอกไม้" ส่วนเจ้าเมืองก็ไปทำสงครามต่อสู้กับฝ่ายสยามและถูกฝ่ายสยามจับได้และโดนประหารชีวิต ชาวบ้านจึงฝังศพท่านเจ้าเมืองไว้ที่กุโบร์หลาโตะเมือง เป็นที่มาของกุโบร์หลาโตะเมืองในปัจจุบัน
แต่ประวัติที่กล่าวมาอาจจะไม่ตรงตามคำบอกเล่าก็ได้ เพราะเมื่อก่อนจะโหนงก็มีหัวเมืองเก่าแก่ที่ชื่อว่าเมืองหนะอยู่ด้วย และที่บ้านท่ายางก็มีหัวเมืองอยู่ด้วยเช่นกัน อีกทั้งบ้านท่ายางยังเป็นสถานที่ตั้งกองทัพของเชคดาวุด อัลฟาตอนีอีกด้วย ชาวบ้านจึงสันนิฐานว่าอาจจะเป็นสุสานของเจ้าพระยาเมืองหนะหรือสุสานของเจ้าเมืองฝั่งมาลายู
ภาพ/ข้อมูลบทความ : นาทับ โมเดล , เทศบาลตำบลนาทับ
เหตุอัศจรรย์ระหว่างการก่อสร้าง ธรรมสถานพระโพธิสัตว์กวนอิม (เขาเทียมดา)
12 มกราคม 2568 | 91เปิดตำนาน...ปู่เจ้าเขาเขียวแห่งสิงหนคร
12 มกราคม 2568 | 105ในหลวงรัชกาลที่9 กับการพัฒนาจังหวัดสงขลา
12 มกราคม 2568 | 101ย้อนประวัติจวนเจ้าเมืองสงขลา สมัยธนบุรี - รัตนโกสินทร์
5 มกราคม 2568 | 156พาชมพระสยามเทวาธิราชจำลอง 1 ใน 5 หัวเมือง ประดิษฐานอยู่ที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
5 มกราคม 2568 | 139คนสงขลากับความเชื่อเรื่องทวด ที่ปรากฎในโองการทวดอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์จังหวัดสงขลา
5 มกราคม 2568 | 171ศาลาทวดสะบ้าย้อย ความศรัทธาสู่สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสะบ้าย้อย
15 ธันวาคม 2567 | 279ที่มา...ชื่อบ้านสำนักขาม (สะเดา)
15 ธันวาคม 2567 | 248