หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เคยได้ยินมานานมากแล้วว่าการไปน้ำตกโตนแค่ไปชั้น 3 ก็เหนื่อยมากแล้ว แต่มีวันหนึ่งเห็นใน Facebook พี่ของเพื่อนลงรูปว่าถึงชั้น 7 เลยรู้สึกว่าโคตรเจ๋ง อยากลองสักครั้งจัง และเชื่อว่าหลายคนก็ยังคงไปไม่ถึงชั้น 7 เราเลยต้องไปลองเพื่อมาบอกเล่าต่อว่า ชั้น 7 (ความสูง 1,550 เมตร) มันเด็ดจริงไหม

จากการชักชวน จึงรวมกลุ่มกันทั้งหมด 12 ชีวิต ปล.ถ้าใครไม่เคยไปควรมีเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่เชี่ยวชาญที่เคยนำทาง (ขนาดในทริปมีผู้เชียวชาญแล้วยังหลงเลยอะ แต่ยังดีที่ยังพอดม ๆ มั่วเอาได้)

ก่อนไปสภาพจิตใจเนี้ยพร้อมจะยกเลิกตลอดเวลา เพราะมีแต่คนกรอกหูว่าไม่ไหวหรอก เหนื่อยจะตายแค่ชั้น 3 ก็จะตายแล้วนะ นี่คือคำบอกเล่าจากผู้ชาย แล้วฉันละ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ พนักงานออฟฟิตไม่ออกกำลังกายเลย ทำงาน กลับบ้าน กินข้าว นอน วนเหมือนเดิมทุกวัน แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่าให้คำพูดคนอื่น มาทำให้เราไม่กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ

สิ่งที่ต้องเตรียม คือ รองเท้าผ้าใบ น้ำใส่ขวดพลาสติกแบบหนา(ไม่ใช่ขวดที่ขายตามร้านสะดวกซื้อนะ เพราะถ้าแบบนั้นทางเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาติให้นำขึ้นไป) และที่สำคัญคือกำลังใจ แล้วก็ไปกัน

การเดินทางนั่งรถจากหาดใหญ่ไปตามถนนเพชรเกษม เส้นทางหาดใหญ่-รัตภูมิ ถึงหลักกม.ที่ 15 เลี้ยวซ้ายที่ตำบลหูแร่ ไปตามถนน รพช.อีก 13 กม. ก็จะเจอป้ายเขียนว่าน้ำตกโตนงานช้าง จากนั้นก็ขึ้นเดินยาวไปเลย ชั้น 1 โตนบ้า เมื่อจอดรถเดินไปเพียงแค่นิดเดียว ก็จะพบกับสายน้ำตกและโขดหิน ชั้นนี้จะได้รับความนิยมกับการเที่ยวแบบครอบครัว สามารถนำอาหารมานั่งปิกนิกได้ ดูระยะทางซะก่อน

ชั้น 2 โตนปลิว ชั้นนี้เดินเท้าจากชั้นแรกประมาณ 200 เมตร แต่สำหรับเราแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วนะ ปกติเล่นแต่ชั้น 1

ระหว่างทางก็ต้องแวะถ่ายรูป

ชั้น 2 มีคนขึ้นมาเล่นน้ำกันเยอะเหมือนกันนะ

ต่อไปชั้น 3 โตนงาช้าง จะได้สัมผัสกับจุดที่เรียกว่า โตนงาช้าง ทางขึ้นค่อนข้างชัน ไม่ใช่ค่อนข้างชัน แต่ชันเลยแหละ ชันแค่ไหนลองถามใจดู

หลังจากที่ชั้น 2 เริ่มบ่นนิด ๆ เพราะไม่เคยขึ้นเลย พอกำลังจะไปชั้น 3 เหนื่อย ขอนั่งพัก หมดแรง เหงื่อเริ่มซึมทั้ง ๆ ที่ไม่มีแดด

 ยังดีนะวันที่ไปฝนไม่ตก เพราะถ้าตกแนะนำให้ยกเลิกการเดินทางนะ เพราะลื่นมาก

 ความสวยของชั้นนี้ คือ ทางน้ำตกที่ตกลงมาเป็นสองฝั่ง คล้ายกับงาช้าง จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกโตนงาช้าง

 ระหว่างทางเดินเป็นอะไรที่โคตรลำบากเลย

ของจริงอยู่ที่ ชั้น 3 ไปชั้น 4 โอ้โห เหนื่อย เหนื่อยมาก ๆ จนถามเพื่อนว่าไม่ไปแล้วได้ไหม ฝากถ่ายรูปด้วย พี่ที่มาด้วยก็บอกว่าไม่ไกล อีกนิดเดียวเอง แต่พูดงี้ตั้งแต่ตอนอยู่ชั้น 2 ว่าชั้น 7 ไม่ไกล ไม่ไกลอะไรละ ขอเถียงขาดใจ!!!!

เข่ากระแทกหิน ลื่นล้ม เหมือนไต่เขาตลอดเวลา ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วยยยย

พอถึงจุดแวะชั้น 4 โตนดำ น้ำตาจะไหล ความรู้สึกแบบ มาทำอะไรที่นี่วะเนี้ย พาตัวเองมาเหนื่อยทำไม ทำไมไม่ฟังคนอื่น แต่อายเพราะทั้ง 11 คนที่เหลือไม่มีใครบ่นเลย ไม่มีใครน้ำตาคลอเหมือนเรา เราต้องเก็บน้ำตาไว้ร้องไห้ได้แค่ในใจ

แต่หลังจากชั้น 4 แล้ว ชั้น 5 6 7 ก็ไม่ยากแล้วนะ เหมือนผ่านจุดที่เหนื่อยมาก ๆ แล้ว (แต่ก็ยังต้องแวะพักเหนื่อยตลอดเวลา) รวม ๆ รูปเลยแล้วกันเนอะ จำไม่ได้แล้วว่ารูปไหนอยู่ชั้นไหน รู้แค่เหนื่อย ไม่อยากถ่ายไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว

อ่อ ชั้น 5 มีทากสัตว์กินเลือดที่สุดแสนจะน่ารักด้วยนะ

 เสียงกรี๊ดดังลั่นป่าเพราะทาก เลือด เลือด ข้าต้องการเลือดดด

ถึงซ้าาาากที ชั้น 7 โตนเหม็ดชุน พอแล้วจะไม่มีวันขึ้นอีกแล้ว ครั้งเดียวพอชีวิตนี้ ไม่คิดเลยว่าจะขึ้นมาถึงจริง ๆ ถ้าใครมาชวน บอกเลยนะว่าไม่ไป เอาเลยจ้า เชิญเลย ชีวิตที่เหลือกับอยู่น้ำที่เหลืออยู่

สายลมที่พัดมาเป็นระยะ ๆ เหมือนความรักของพระเจ้าที่คอยปลอบเราว่าไม่เป็นไรนะ นี่ไง ชั้น 7 ที่รอคอย

 ลองแตะน้ำหน่อย แอบชิมแล้วด้วย ไหน ๆ ก็ขึ้นมาชั้น 7 ทั้งที เอาให้คุ้ม จริง ๆ ที่แตะอยู่ไม่ใช่น้ำตกนะ มันคือน้ำตาและเหงื่อของฉัน 

ลองถามพี่ที่เคยขี้นมาแล้ว ว่าทำไมถึงชอบ เพราะว่าจริง ๆ มันไม่ค่อยสวยมาก แต่เหนื่อยมากเลย พี่เค้าบอกว่าถ้าคิดว่าขึ้นมาดูความสวยอาจจะไม่ถูกใจมาก แต่ถ้าคิดว่าขึ้นไปเพราะได้ออกกำลังกายด้วยก็ถือว่าคุ้มมากนะ ได้ดูธรรมชาติระหว่างทางขึ้นด้วย

รูปหมู่กันหน่อย คลานรวมตัวกันอย่างเชื่องช้า

แต่...ชาตินี้จะไม่ไปอีกแล้ว ถ้าให้สรุปนะก็จะบอกว่า สวย สูง เสี่ยว สวยจริง ๆ ค่ะ ระหว่างทางได้สัมผัสธรรมชาติที่หายากแล้วในชุมชนเมือง ใครที่ยังไม่เคยไปต้องลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ เพราะการถ่ายรูปจะไม่มีวันสวยเท่าของจริงเลย ตราบใดที่คุณยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

แนะนำคือหลังจากวันที่เดินขึ้นชั้น 7 เสร็จ วันต่อไปไม่ควรเป็นวันทำงาน

สามารถติดตามความสนุกใน VDO ของเราได้ที่ข้างล่างนี้เลยค่ะ