เคยสังเกตกันไหม ? ศาลาไม้ที่พักริมทาง ต.ทุ่งหวัง เมืองสงขลา ตั้งอยู่คู่กับบ่อน้ำโบราณ ศาลาเป็นไม้ทั้งหลังเปิดโล่งหลังคากระเบื้องดินเผา จากตลาดทุ่งหวัง ไป วัดทุ่งหวังใน ศาลาตั้งอยู่สามแยกไปวัดเขาราม ก่อนอื่นต้องขอเท้าความของประวัติแห่งนี้กันอีกสักรอบ ตำบลทุ่งหวังหรือบ้านทุ่งหวัง เชื่อว่าเป็นการเรียกคนชื่อ นายหวัง เป็นมุสลิมที่อพยพหนีทัพมาจากการยกทัพของเจ้าเมืองปัตตานีมาตีเมืองสงขลา พอเสร็จศึก มุสลิมกลุ่มหนึ่งอพยพหนีทัพมาทำกินในบริเวณบ้านสวนใต้ (หมู่ที่ 2 ในปัจจุบัน) และอพยพต่อไปบริเวณเขาวัง
(หมู่ที่ 7 บ้านทรายขาว) ซึ่งเป็นที่ทำ มาหากินของมุสลิมบ้านทรายขาวในปัจจุบัน เดิมนายหวังเป็นชื่อของแม่ทัพแขก ตอนยกทัพมาตีเมืองสงขลาแต่ตีไม่สำเร็จ และถูกปราบปรามจึงหนีการจับกุมและ นำพรรคพวกมาตั้งรกรากขึ้น ที่ตั้งและอาณาเขต องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหวัง จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2538 เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 บ้านชายควน ถนนทุ่งหวัง - ทรายขาว
จากภาพหากเราสังเกตศาลาแห่งนี้มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก ตั้งอยู่เด่นมีขนาดใหญ่ ทำจากกระเบื้องดินเผาอย่างดี โดยชาวสงขลาจะเรียกว่า อิฐ ทั้งสิ้น แต่คำว่ากระเบื้องดินเผาเมืองสงขลาในที่นี้ หมายเอาตามชื่อที่ปรากฎในเอกสารของทางการ สมัยตันกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งคลุมถึงกระเบื้องสำหรับมุงหลังคาและกระเบื้องสำหรับปูพื้น ซึ่งภาษากลางเรียกว่า กระเบื้องหน้าวัว (ชาวสงขลาเรียก อิฐหน้าวัว)
ซึ่งกระเบื้องดินเผาเมืองสงขลา เป็นหัตถกรรมพื้นเมืองสงขลามาตั้งแต่สร้างเมือง มีความหลากหลายในรูปแบบ ตามลักษณะการใช้งาน มีการทำเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องกันเป็นชุมชนในอดีต เบื้องสงขลา เป็นกระเบื้องทีมืชื่อเสียง คุณภาพดีอิฐลายมีเอกลักษณ์ในเนื้อ มาเป็นเวลานาน มีรูปแบบและคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศของภาคใต้ มีความทนทานใช้งานได้หลายสิบปี (จนถึงทุกวันนี้ หลายร้อยปี ทีเดียว) เช่เดียวกับอายุของศาลาแห่งนี้
ส่วนบ่อน้ำโบราณ ชาวสงขลาจะพบเห็นอย่างมากอย่างคำที่ว่า "สงขลาเมืองมีบ่อ" ทั้งนี้เพราะสงขลาอยู่ติดทั้งทะเลสาบและทะเลใหญ่ (อ่าวไทย) จึงต้องขุดบ่อเพื่อหาน้ำจืดมาดื่มหรือทำการเกษตรและไว้ใช้ในครัวเรือน ทีนี้เราเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าบ่อน้ำมีประโยชน์กับชาวสงขลามาตั้งแต่ไหนแต่ไร แล้วสงขลามีความอุดมสมบูรณ์มากและเด่นทางด้านประวัติศาสตร์ ลักษณะของบ่อน้ำจึงเป็นบ่อน้ำที่มีความโบราณและมีความสวยงามของลักษณะบ่อที่ไม่เหมือนภาคใด เป็นไปได้ชาวสงขลาเองจึงต้องรักษาให้คงสภาพเช่นเดิม
ขอบคุณภาพ : พันธ์ศักดิ์ บุญช่วย
วัดโพธิ์ วัดเก่าแก่สมัยกรุงธนบุรี จุดศูนย์กลางของผู้คนในอดีต
12 ตุลาคม 2568 | 205เปิดตำนาน “หลวงพ่อตุด” สำนักสงฆ์บ้านคอกช้าง อ.รัตภูมิ เล่าขานประสบการณ์ปาฏิหาริย์ผ่านวัตถุมงคล
12 ตุลาคม 2568 | 237“ศาลเจ้าแม่เมรีและทวดรัด” ที่เคารพศรัทธาของกองกำลังค่ายรัตนพล และชาวบ้านคลองหอยโข่ง
12 ตุลาคม 2568 | 225สำนักสงฆ์เวียงป่าโป (ควนลุม) กับเหตุอัศจรรย์องค์พระผุดขึ้นมาจากหิน
28 กันยายน 2568 | 572เรื่องเล่าอาถรรพ์ผืนป่าชายแดนใต้ "ตำนานบาเตาะ" ชนเผ่ากินคนแห่งป่าฮาลา-บาลา
28 กันยายน 2568 | 5691 ปีมีหน ขนมไหว้พระจันทร์ ร้านในตำนานหาดใหญ่ กับความเชื่อเรื่องเทศกาลไหว้พระจันทร์
28 กันยายน 2568 | 594กว่า 3 ศตวรรษ...มัสยิดยาบัลโรดเหร๊าะหม๊ะ บ้านหัวเขา (สิงหนคร)
21 กันยายน 2568 | 497คนใต้กับปืน : จากวิถีสู่วลีฮิต "ประตูมีกลอน คนคอนมีปืน"
21 กันยายน 2568 | 715