"สงขลา" เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบสงขลา หากย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นอาจย้อนกลับไปได้ถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ความเก่าแก่ของเมืองสงขลา ทำให้เมืองมีประวัติความเป็นมา ชนหลายชาติแวะเวียนเข้ามาทำมาหากิน จนกลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งไทย จีน มุสลิม
แต่วันนี้ สงขลา โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าสงขลา กลายเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค ทั้งสถาปัตยกรรมอายุเกิน 200 ปี พิพิธภัณฑ์เอกชน หอศิลป์ Street Art ที่บอกเรื่องเล่าวิถีชีวิตของผู้คน ร้านหนังสืออิสระ คือสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกว่าเมืองนี้ มีความชิค ไม่น้อยกว่าเมืองใด วันนี้ HatyaiFocus พาผู้อ่านสุดฮิป มาตะลุย10ที่เที่ยวสุดชิค ที่นี่...เมืองเก่า(สงขลา)
1. Art Mill. Songkhla Art Center หอศิลป์สงขลา
สถานที่สุดฮิปสำหรับคอศิลป์ แม้จะเพิ่งเปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หอศิลป์เอกชนแห่งแรกของเมืองสงขลา กำลังจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอต เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวเล่นเสพศิลปะ ในเมืองเก่าสงขลาช่วงวันหยุด
ด้วยความตั้งใจของคุณอู๋ ธีรพจน์ จรูญศรี นักธุรกิจผู้หลงใหลในศิลปะ ก่อตั้งพื้นที่แห่งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปิน นักเรียนมีพื้นที่แสดงงานศิลปะ ความฮิปของที่นี่คือการนำโกดังโรงไม้ริมทางรถไฟ มาเนรมิตให้เป็นหอศิลป์ แม้จะไม่มีแอร์แต่หากมาช่วงเย็นที่นี่จะมีลมเย็นๆโชยตลอด โดยจะมีนิทรรศการศิลปะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนจัดแสดงกันไป ถือเป็นการจุดกระแสเมืองเก่าสงขลาผ่านมุมมองด้านศิลปะ
พิกัด : Art Mill. Songkhla Art Center ถ.กำแพงเพชร ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
เวลาเปิดบริการวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวลา 13.00-19.00น.
2.บ้านนครใน
หากใครหลงใหลในสถาปัตยกรรมแบบโบราณ อยากเสพความเก่าต้องมาที่นี้ เพราะบ้านนครใน เป็นบ้านไม้สไตล์จีนโบราณ 2 ชั้น และบ้านตึกสีขาวเป็นแบบชิโนยูโรเปี้ยน 4 ชั้น มีพื้นที่รวมกัน 20 ตารางวา รวมกันอยู่ในรั้วเดียวกัน ความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจะช่วยทำให้ทริปเมืองเก่าสงขลาของคุณประทับใจมากยิ่งขึ้น
หากเข้าไปข้างในจะพบกับห้องโถงที่เปิดโล่ง มีบ่อน้ำชักรอกอยู่ ชวนให้นึกถึงวันวาน ภายในบ้านมีต้นไผ่สีเขียวขจี ให้ความเป็นจีนที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนแห่งแรกของสงขลา โดยคุณกระจ่าง จารุพฤกษ์พันธ์ ผู้หลงใหลของเก่า นักธุรกิจผู้ต้องการปลุกกระแสเมืองเก่าสงขลาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่นี่เก็บรักษาของเก่าที่มีคุณค่าไว้มากมาย เช่น เตียงนอนของคหบดีสงขลาสมัยก่อน และตู้โบราณเก็บสะสมมาประมาณ 30-40 ปี ถ้วยชามจากจีนอายุ 100 กว่าปี ประมาณ 100 ชิ้น
พิกัด : บ้านนครใน ถ.นครนอก อ.เมือง จ.สงขลา.
เวลาเปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-18.00น. วันเสาร์-อาทิตย์ 09.00-19.00น.
3.บ้านสงครามโลก
หากใครชอบมองหาตึกโบราณและชอบถ่ายภาพเก๋ๆ ต้องถูกใจ เพราะตึกแห่งนี้มีความเก๋ตรงที่เป็นตึก 3 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนนครนอกตัดกับถนนยะลา หากใครไม่ใส่ใจจะเห็นว่าเป็นแค่ตึกจีนบ้าน ๆ แต่อาคารจีนรูปทรงสูงเก่า ๆ 3 ชั้น อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อผนังอาคารด้วยอิฐเผาโบราณของเมืองสงขลา มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างมาก
คาดกันว่าบ้านหลังนี้คือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สำคัญจนถูกถ่ายภาพโดยเครื่องบินกองทัพอากาศอังกฤษ ก่อนบินมาทิ้งระเบิดอาคารใหญ่ 3 ชั้น เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2488 โดยคิดว่าอาจเป็นกองบัญชาการทหารญี่ปุ่น ปัจจุบันบ้านสงครามโลกยังไม่เปิดให้เข้าชม แต่มีแผนการจะเปิดให้เข้าชมในช่วงปลายปี 2560 หากเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่างแน่นอน
พิกัด ถ.นครนอก อ.เมือง จ.สงขลา
4.ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ประตูทางเข้าสีแดงสด แต่งแต้มด้วยสถาปัตยกรรมลายมังกร สะท้อนให้เห็นความความผูกพันระหว่างเมืองสงขลากับเมืองจีน ใครหลายคนมักชอบถ่ายรูปหน้าประตูศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสีแดงสด แต่งแต้มความฮิปเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี ศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นความงดงามทางวัฒนธรรมที่หาได้จากเมืองเก่าสงขลา ไม่ต้องไปถึงแดนมังกร
กว่าหลายศตวรรษที่ชาวจีนเข้ามาในดินแดนสิงกอร่า จุดประกายให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีความคึกคักทางการค้า เล่ากันว่า พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) ผู้เป็นคนจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ย้ายเมืองมาจากฝั่งแหลมสนเนื่องจากความอึดอัดของเมือง เมื่อย้ายมาต้องสร้างศาลหลักเมือง เพื่อให้เป็นที่รวมใจของคนในเมือง ซึ่งขณะนั้นยังเป็นชาวจีนเสียเป็นส่วนใหญ่ ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าที่นี่คือจุดเริ่มต้นของเมืองสงขลา บ่อยาง
ภายในศาลหลักเมืองจะมีทั้งโรงงิ้ว ซึ่งใต้โรงงิ้วจะเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ ขายมานานกว่า 50 ปี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสักการะองค์เทพต่าง ๆ และหลักเมืองสงขลา เพื่อขอพรให้ตัวเองและครอบครัว
พิกัด บริเวณถนนนางงาม อ.เมือง จ.สงขลา
5.ท่าเรือศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์
เป็นอีกมุมถ่ายรูปสุดชิค นักท่องเที่ยวมักจะเข้ามาแชะภาพ ด้วยความฮิปของตึกเก่า ความคลาสสิคของถนนซึ่งปูด้วยอิฐ มีต้นไม้ร่มรื่น ถือเป็นจุดถ่ายภาพฝาผนังสุดแนว เพราะมีรูปภาพของน้องเหมียวสองตัวสุดน่ารัก แต่ใครจะรู้ว่าหละว่าหลังการทำทางรถไฟไปหาดใหญ่ ทำให้สงขลาเปลี่ยนจากย่านธุรกิจการค้ามาเป็นย่านประมง มีเรือประมงมาจอดกว่า 500 ลำ ที่นี่เคยเป็นถนนหลักในเมืองสงขลาจากท่าเรือสู่ถนนใหญ่ นับเป็นท่าเรือเก่าแก่ของทะเลสาบสงขลา
พิกัด ถนนนครนอก ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
6. ร้านหนังสือเล็ก ๆ
ร้านหนังสือเล็ก ๆ ความฮิปของเมืองสงขลาจะสมบูรณ์แบบ เมื่อคุณมีโอกาสแวะเวียนมาลิ้มรสนิยมการอ่านของผู้คนที่นี่ บ้านไม้สองชั้น ทาสีเขียวอ่อน บรรยากาศชวนอบอุ่น แอบซ่อนอยู่ในซอกของถนนเล็ก ๆ ที่มีชื่อน่ารัก ๆ ว่าถนน ยะหริ่ง คือที่ตั้งของร้านหนังสือเล็ก ๆ และเป็นร้านหนังสืออิสระ ร้านแรกของเมืองสงขลา
ภายในร้านมีชั้นหนังสือใหญ่ สองชั้น และชั้นวางหนังสือตรงกลางหนึ่งชั้น คุณจะพบเจอวรรณกรรมเยาวชนที่คุ้นเคย หนังสือจากสำนักพิมพ์อิสระที่หาซื้อได้ยากจากร้านหนังสือใหญ่ ๆ อีกจุดขายหนึ่งคือความใจดีของเจ้าของร้าน เพราะพี่เอ๋ อริยา ไพฑูรย์ บรรณาธิการ นักแปลผลงานงานวรรณกรรมเยาวชนเล่มดัง "เจ้าชายน้อย" ผู้เป็นเจ้าของร้านยังใจดีจัดงานเสวนาหนังสือ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชาวสงขลามีพื้นที่เสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง
พิกัด ถนนยะหริ่ง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
วันเวลาเปิด วันพุธ-อาทิตย์ 14.00-19.00น.
7. ชุมชนมัสยิดบ้านบน
หลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่ที่นี่ถือเป็นย่านที่ชาวมุสลิมที่เก่าแก่อีกแห่ง เป็นที่ตั้งของร้านค้า บ้านเรือนของชาวมุสลิม แล้วยังเป็นที่ตั้งของมัสยิดอุศาสนอิสลาม (มัสยิดบ้านบน) ซึ่งมีความเก่าแก่มาก เพราะสร้างขึ้นเมื่อ 5 ปีหลังการพระราชทานเสาหลักเมืองของ ร.3 (พ.ศ. 2385) มัสยิดที่นี่มีสถาปัตยกรรมคล้ายโบสถ์วิหารของวัดหลายแห่งในตัวเมืองสงขลา จนมีการกล่าวขานว่า ที่นี่คือมัสยิดทรงไทย สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของศิลปะไทย จีน และ มุสลิม
ถนนแห่งนี้ยามค่ำคืนจะเต็มไปด้วยของกินหลากหลายทั้ง น้ำชา โรตี ข้าวแกง สไตล์มุสลิม หากช่วงค่ำมีเวลาว่างคุณอาจมานั่งทานของอร่อย ๆ ที่นี่ สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวสงขลา แอบกระซิบว่าของอร่อยที่นี่หลากหลายจริง ๆ ชุมชนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โรงหนังบ้านบน ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 2473 เป็นโรงหนังเก่าที่มีความผูกพันกับชาวสงขลา ถือเป็นตำนานโรงหนังแห่งหนึ่งของเมืองแห่งนี้
พิกัด ถ.พัทลุง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
8. โรงสีแดง หรือ ที่เรียกกันอีกชื่อว่า หับโห้หิ้น
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดหากคุณมาเยือน เพราะที่นี่ไม่ใช่มีดีแค่ความสวยสดของอาคารหลังใหญ่สีแดงสดเลื่องชื่อ แต่ที่นี่คือโรงสีข้าวเก่าที่มีอายุเก่ากว่า 100 ปี อีกบทบันทึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกหน้าของชาวสงขลา
หากเดินเข้าไปภายในโกดัง จะพบกับจุดถ่ายรูปยอดฮิตของชาวสงขลา ทั้งป้ายหับโห้หิน หรือท่าเทียบเรือสุดชิค ที่ใครหลายคนต้องมาแชะภาพความประทับใจไว้ หมุนเวลาย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2457 รองอำมาตย์ตรีขุนราชกิจการ ได้เปิดกิจการโรงสีข้าวขึ้น ณ ที่แห่งนี้ กิจการเติบโตเป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น รับสีข้าวจากพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา อีกทั้งเหลือส่งไปจำหน่ายยังมาเลเซีย แต่เมื่อกิจการล้มเลิกไป โกดังแห่งนี้ปัจจุบันจึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม กลุ่มคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง การปลุกกระแสการท่องเที่ยวสงขลาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และยังเป็นที่ตั้งของอุุทยานการเรียนรู้ TK Park สงขลา สถานที่หาความรู้ของคนในเมืองเก่าสงขลา
พิกัด ถ.นครนอก ต.บ่อยาง อ.เมืองจ.สงขลา
9. Street Art รูปภาพบนกำแพง ย่านเมืองเก่าสงขลา
เป็นอีกเมืองที่มีการเนรมิตฝาผนังของบ้านเรือนบนถนน 3 สาย คือถนนนครนอก ถนนนครในและถนนนางงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาถ่ายรูป เพราะนอกจากมาเยือนสถานที่เที่ยวข้างต้น การมาสงขลาจะทำให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมเมืองเก่าสงขลา ผ่านรูปภาพบนกำแพงสุดฮิป
Street Art เป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนวิถีชีวิตคนสงขลาผ่านภาพวาด ที่นี่จะมีการรวมอยู่กันของวัฒนธรรมไทย จีน มุสลิม อย่างสงบสุข โดยมีรูปภาพชิค ๆ เช่น ภาพเหมียวน้อยสองตัววิ่งเล่นบนขอบหน้าต่าง บริเวณท่าเรือศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ ภาพร้านขายน้ำชาสะท้อนวัฒนธรรมการดื่มน้ำชายามเช้าของชาวสงขลา ร่วมตามหา Street Art เก๋ ๆ พร้อมกับค้นหาความชิค ของสงขลาไปด้วยกัน
พิกัด ถ.นครนอก ถ.นครใน และถ.นางงาม ย่านเมืองเก่าสงขลา
10.ทักษิณคดี
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ต้องเดินทางออกมาจากย่านเมืองเก่า เพราะตั้งอยู่บนเกาะยอ ห่างจากเมืองเก่าสงขลาประมาณ 10 กิโลเมตร ที่นี่อยู่บนเขาพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ อาจต้องใช้เวลาเดินสองสามชั่วโมง มีทั้งส่วนของเรือนไทยและ ส่วนของพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของภาคใต้เกือบทั้งหมด เช่น ห้องแรก ห้องประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ภาคใต้ มีโบราณวัตถุที่แสดงให้เห็นว่าชาวใต้มีการติดต่อกับชาวยุโรป ชาวจีน เรียกได้ว่า ใครชอบประวัติศาสตร์มาที่นี่อาจต้องใช้เวลาสักครึ่งวัน หรือ ห้องแสดงลูกปัดทั้งหมดของภาคใต้ , ห้องแสดงประวัติศาสตร์ผ้าของภาคใต้ ส่วนของพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างกว้าง แต่ที่สำคัญอย่าลืมมองหารูปปั้นมโนราห์นะ มีมุมชมวิวเล็ก ๆ สามารถชมทิวทัศน์ของเกาะยอ และสะพานติณสูลานนท์ ได้สุดลูกหูลูกตา
พิกัด ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา
เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) เวลา 8.30-17.00 น
สงขลาเป็นอีกเมืองที่มีความโดดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรม วิถีชีวิต อาหารการกิน การผสมผสนของกลุ่มชนสามเชื้อชาติทั้งไทย จีน มลายู ทำให้สงขลาเมืองเก่า กลายเป็นแหล่งรวมตัวของสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค แต่สถานที่ท่องเที่ยวของสงขลาไม่ได้มีแค่นี้ หากใครมีเวลาสามารถมาค้นหาความสนุกของสงขลาไปด้วยกัน เพราะที่นี่...สงขลามหาสนุก สุขทั้งปีที่สงขลา
บัวของคนภาคใต้...ที่ไม่ได้หมายถึงดอกบัว
11 พฤษภาคม 2568 | 353ร่องรอยเจดีย์บนเกาะหนู โบราณสถานสำคัญสมัยอาณาจักรอยุธยา
11 พฤษภาคม 2568 | 328ศาลาตาเล่อเท่อ ที่พึ่งของชาวบ้านเมื่อของสำคัญสูญหาย
27 เมษายน 2568 | 665จากอดีตบ้านทุ่งเหม็นขี้ สู่บ้านทุ่งขมิ้น(นาหม่อม)
27 เมษายน 2568 | 345บุกป่าหาน้ำตกลับ...น้ำตกโตนหน้าผี ณ เขาพระ อ.รัตภูมิ
27 เมษายน 2568 | 633ศาลเจ้าแม่กวนอิมสวนหมาก ศาลเจ้าแห่งแรกที่ริเริ่มทำโรงทานเจในสงขลา
20 เมษายน 2568 | 548พาชม...บ้านขุนตระการตะเครียะเขต บ้านเก่าโบราณนับร้อยปี "บ้าน 108 เสา"
30 มีนาคม 2568 | 1,289รู้หม้ายว่า? สงขลาเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีวันประจำจังหวัด
30 มีนาคม 2568 | 1,100