วัดเจดีย์งามหรือวัดพระเจดีย์งาม ตั้งอยู่ในคาบสมุทรสทิงพระ สร้างมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 ร่วมสมัยกับอาณาจักรศรีวิชัย ตามปรากฏในแผนที่ภาพกัลปนาวัดหัวเมืองพัทลุงในสมัยอยุธยาเรียกชื่อวัดแห่งนี้ว่า "วัดพระไจดีงาม" เป็นวัดที่ขึ้นกับวัดเขียนบางแก้วเมืองพัทลุง แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานทางโบราณคดีที่ปรากฎภายในวัดแล้ว พบว่ามีการพัฒนาต่อเนื่องกันมาเรื่อยมาจนถึงสมัยอยุธยา และรัตนโกสินทร์
วัดเจดีย์งามหรือวัดพระเจดีย์งาม น่าจะสร้างขึ้นในสมัยใดยังไม่ปรากฎแน่ชัดแต่จากหลักฐานที่ปรากฎทางโบราณคดีสันนิษฐานได้ว่าสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรื่อง อันเนื่องจากลักษณะของสถาปัตยกรรมคือองค์เจดีย์ น่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ต่อมาได้บูรณะและปฏิสังขรณ์เปลี่ยนแปลงให้เป็นแบบทรงลังกา ซึ่งเป็นไปตามแบบแผนรูปแบบการสร้างเจดีย์ที่พระอโนมทัสสีนำมาจากลังกาทวีป และจากหลักฐานที่ปรากฎในตำนานกล่าวว่าเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 ภายใต้การปกครองของ "ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช" หรือ "ราชวงศ์ปทุมวงศ์" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช หรือราชวงศ์ปทุมวงศ์มีที่มาจากกษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรศรีธรรมราชเป็นราชวงศ์หนึ่งของสยาม ที่เคยมีอำนาจปกครองอาณาจักรศรีธรรมาราช ซึ่งปกครองเมืองใหญ่ในคาบสมุทรมลายูจำนวน 12 เมือง เรียกว่าเมือง 12นักษัตร
เมื่ออาณาจักรสุโขทัยเรืองอำนาจและสถาปนาอาณาจักรไทยขึ้นด้านทางภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนอาณาจักรศรีธรรมาราช มีอำนาจรุ่งเรืองทางภาคใต้โดยทั้งสองอาณาจักรได้เจริญสัมพันธไมตรีต่อกัน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโดยเฉพาะด้านศาสนามีการส่งพระสงฆ์ไปยังอาณาจักรสุโขทัย เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา และจากหลักฐานที่ปรากฎว่าอาณาจักรศรีธรรมาโศกราช ยอมที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยในรัชสมัยของราชวงศ์พระร่วง (พ.ศ.1792-1981) อาณาจักรศรีธรรมาราชราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เริ่มสถาปนาประมาณปี พ.ศ. 1830) พระมหากษัตริย์แห่งปัทมวงศ์ ได้มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นใหม่หลังจากที่เสื่อมถอยด้วยอิทธิพล และในเวลาต่อมาก็ได้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์จึงได้เกิดวัดวาอาราม พระสถูป เจดีย์ ขึ้นทั่วไปตามบ้านเมืองที่ตั้งอยู่สันทราย ศิลปกรรมที่เกิดขึ้นในยุคนี้เป็นการปรับปรุงลักษณะศิลปกรรมของท้องถิ่นภาคใต้ แต่เดิมให้เข้ากับลัทธิและคติทางหินยานที่รับมาจากลังกา
จากหลักฐานและนักโบราณคดีได้กล่าวถึงเมืองสทิงพระหรือสทิงปุระไว้ว่าเป็นชุมชนโบราณของภาคใต้รองจากเมืองตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) เป็นเมืองระดับรองเดียวกับเมืองไชยา อาณาเขตของเมืองสทิงพระประกอบด้วยบริเวณโดยรอบทะเลสาบสงขลา โดยที่ทิศตะวันออกกับตะวันตกของทะเลสาบ (ปัจจุบันนี้คืออำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กับท้องที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุงคือวัดเขียนบางแก้ว) บริเวณที่เป็นชุมชนโบราณเก่าแก่ที่สุดได้แก่ที่เรียกว่าแผ่นดินบก
คือบริเวณตั้งแต่หัวเขาแดงบนฝั่งตรงข้าม กับตัวเมืองจังหวัดสงขลาเรื่อยไปทางเหนือ ผ่านเขตอำเภอสทิงพระ ไปจนสุดเขตอำเภอระโนดเป็นบริเวณที่เป็นเกาะอันเกิดจากการทับถมของซากปะการัง มีลักษณะเป็นสันยาวทอดขึ้นไปทางเหนือ ขนาบด้วยทะเลในปะการัง มีลักษณะเป็นสันยาวทอดขึ้นไปทางเหนือ ขนาบด้วยทะเลในอ่าวไทยทางด้านตะวันออก และทะเลสาบสงขลาทางด้านตะวันตก ผิวดินของเกาะนี้ประกอบด้วยที่สูงและต่ำสลับกันไปที่สูง คือสันทรายหลายสายทอดยาวขนาบไปตามความยาวของเกาะบริเวณสันทรายเหล่านี้เป็นที่ตั้งของแหล่งชุมชนที่เป็นบ้านเป็นเมือง เหตุที่ชาวบ้านเรียกแผ่นดินบกก็เพราะขนาบด้วยน้ำทั้งสองข้างและเคยเป็นบ้านเมืองมาช้านาน
ซึ่งวัดเจดีย์งามเป็นวัดที่มีสำคัญกับชุมชนบ้านเจดีย์และชุมชนใกล้เคียง กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดเจดีย์งาม ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478 หน้า3715 เรื่องประกาศขอบเขตโบราณสถานวัดเจดีย์งาม (เพิ่มเติม) ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 102 ตอนที่ 31 วันที่ 12 มีนาคม 2528 หน้า 1208 พื้นที่โบราณสถานประมาณ ๓ งาน ๒๒ ตารางวา มีข้อความไว้ดังนี้คือปี พ.ศ. 2478 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน (วัดเจดีย์งาม) ปี พ.ศ. 2528กรมศิลปากรประกาศขอบเขตโบราณสถานเพิ่มเติม พ.ศ. 2553กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะเจดีย์ตามโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์ และโบราณคดีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
ขอบคุณภาพข้อมูล : สำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
“โรงเรียนช่างตัดเย็บเสื้อผ้าสงขลา” สู่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา
24 สิงหาคม 2568 | 78ชุมชนท่องเที่ยว "บ้านหัวนอนวัด" ชุมชนคุณธรรม จิตรกรรมล้ำค่า ศาลาร้อยปี
24 สิงหาคม 2568 | 89ตำนานสิทธิเรือรี สู่ชื่อตำบลคลองรี อ.สทิงพระ
24 สิงหาคม 2568 | 82ข้าวดอกราย อาหารพื้นบ้านของคนสะกอมสมัยเริ่มก่อตั้งชุมชน
17 สิงหาคม 2568 | 467ย้อนภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต...วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา
17 สิงหาคม 2568 | 2,455"สะพานประวัติศาสตร์ ๓ พ.ศ." สะพานโค้งแห่งแรกของเส้นทางสายพัทลุง-ตรัง
17 สิงหาคม 2568 | 556พาชมกำแพงเมืองพัทลุงเขาชัยบุรี กำแพงเมืองก่ออิฐหนึ่งเดียวใน จ.พัทลุง
10 สิงหาคม 2568 | 383ศาลเจ้าแป๊ะกงสะเดา ที่พึ่งพายามยากของชาวจีนอพยพ
10 สิงหาคม 2568 | 805