หากพูดถึง พิชัย เจนจำรัสศรี คนหาดใหญ่คงไม่มีใครรู้จักเขา แต่หากกล่าวชื่อโกชัย กาแฟอินดี้แล้ว หลายๆคนคงจะร้อง อ๋อ...กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะประชาชนชาว ม.อ. และขาประจำตลาดยรรยง เนื่องจากโกชัย คือเจ้าของกิจการร้านกาแฟสด 25 บาทอันเลื่องชื่อ บริเวณ ทั้งด้านราคาและรสชาติ บอกได้เลยว่าเทียบชั้นและสูสีกับร้านกาแฟชั้นนำในหาดใหญ่อย่างสบายๆ จากความสนใจและใส่ใจด้านกาแฟของโกชัยมาเป็นเวลากว่า 20 ปี จึงไม่แปลกที่ชายผู้นี้จะสามารถรังสรรกาแฟรสเลิศผ่านหม้อกาแฟ Mocha Pot (หม้อต้มกาแฟโบราณจากประเทศอิตาลี) อันเป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน กาแฟสดราคา 25 บาทก็คือจุดขายอีกอย่างที่คนผ่านไปผ่านมาร้านโกชัย กาแฟอินดี้ เห็นแล้วต้องสะดุดตาและอยากลองว่ารสชาติจะสมราคาหรือไม่ วันนี้เรามาเจาะลึกถึง โกชัย ชายวัย 50 ปีผู้นี้ ผู้ที่ลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือสุดยอดแห่งความอินดี้จริงๆ ตอนนี้โกชัยไม่มีร้านเป็นของตัวเองแล้ว สามร้านสามสาขาที่ขายดิบขายดีของโกชัยยกให้คนอื่นหมด ทำไม?? เราไปรับรู้เรื่องราวความอินดี้ของโกชัยพร้อมกันได้เลย
ตัวตนของโกชัย ที่มาแห่งความอินดี้
เมื่อก่อนผมทำงานก่อสร้าง โดยเป็น Project Manager ในไซด์งานเราใหญ่สุด เดินไปไหนลูกน้องก็หนี ชีวิตงานก่อสร้างมันต้องเดินทางและย้ายที่อยู่ตลอดเวลา เพราะสร้างเสร็จที่นี่ ก็ต้องไปสร้างที่อื่นต่อ ชีวิตก็ตลกดีทำงานแบบนี้ ซื้อบ้านได้แต่ไม่ได้อยู ชีวิตเดินทางไปเรื่อยๆ ตอนนั้นสงสารแฟนตัวเองมากๆ ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ทำอะไรตัวคนเดียว เราเลยคิดว่ายังไงก็ต้องหางานที่อยู่บ้าน เราจึงรีบสร้างฐานชีวิตมีปัจจัย4ให้ครบก่อน มีบ้านมีรถมีหลักประกันชีวิตของเราได้ พอถึงตรงนั้นเราถึงจะมาทำอะไรชิวส์ๆได้ ทำสิ่งที่เราฝันและสิ่งที่เราชอบได้ หลังจากออกจากงานก่อสร้าง ก็มาขายของตามตลาดนัด ขายรองเท้าบ้าง ขายเฟอร์นิเจอร์ ทำไม้แขวนเสื้อขายไปเรื่อยๆ ต่อจากนั้นก็ไปทำธุรกิจขนส่งด้วยรถเทรลเลอร์ในยุคแรกๆเลย โดยบรรทุกสินค้าจากหาดใหญ่ไปกลับภาคอีสาน
ธุรกิจสู่ความชอบส่วนตัว
ธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยรถเทรลเลอร์ในยุคแรกๆ ตอนทำได้6-7ปีแรก มีรายได้ที่ดีมาก แต่เมื่อนายทุนเจ้าของกิจการรถ10ล้อเกิดการปรับตัว กระโดดเข้ามาเล่นรถเทรลเลอร์ด้วยก็มีการตัดราคา จากกำไรเที่ยวละ 15,000 ลดเหลือไม่ถึง 10,000 บาท ธุรกิจนี้เลียนแบบง่าย แค่คุณมีตังค์ซื้อรถเทรลเลอร์และจ้างคนขับคุณก็ทำมันได้แล้ว ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมายให้ปวดหัว เมื่อเกิดการแข่งขัน การห่ำหั่น และการตัดราคา ก็เลยรู้สึกเริ่มไม่สนุกและตื่นเต้นกับธุรกิจนี้แล้ว ประกอบกับเทรลเลอร์เราก็เริ่มเก่า ราคาน้ำมันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ความเสี่ยง และค่าจ้างคนขับที่สูงขึ้น ปัญหาเหล่านี้มันทำให้เราต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว แต่อยากทำอะไรที่เป็นตัวเรา ผมเป็นคนชื่นชอบกาแฟ เพราะทำงานก่อสร้างกินอยู่แต่กับกาแฟ ดึกๆดื่นๆนั่งทำงานนั่งเคลียร์งานก็มีแค่ปากกากับแก้วกาแฟเท่านั้น กว่า 20 ปีแล้วที่อยู่กับมันมา จึงคิดว่ากาแฟนี่แหล่ะคือตัวเรา เราชอบเรารู้ เราต้องทำมันออกมาได้ดี
"ร้านกาแฟ" ทั่วบ้านทั่วเมือง
ผมกินกาแฟสดมากว่า 20 ปี ตั้งแต่คนยังไม่เริ่มฮิต ผมซื้อมาต้มกินเองที่บ้าน ทุกๆวันกินกาแฟมากกว่าน้ำเปล่าเสียอีก ตื่นเช้าหรือหลังมื้ออาหารก็ต้องมีกาแฟเสมอ เหมือนคนติดบุหรี่ คือประมาณว่ากินข้าวเสร็จกลิ่นคาวมันยังติดจึงต้องเอากาแฟไปล้าง มันเลยเป็นที่มาและเหตุผลที่เราลงหลักปักฐานกับอาชีพนี้ ทุกคนสามารถเปิดร้านกาแฟได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสำเร็จ เห็นผมขายดี ทั้งที่ยรรยง ตลาดวันอาทิตย์สงขลา และมาถึง ม.อ. มันไม่ได้ง่ายเลย แต่ก่อนผมจะเปิดร้านชงกาแฟขาย ผมต้นเริ่มมาจากการคั่วเมล็ดกาแฟขายก่อน ไปขายร้านทั่วๆไป คิดว่าขายได้เพราะของเราถูกกว่าและมีคุณภาพไม่ต่างกันเลย แต่ลืมนึกถึงตัวแบรนด์บางคนบางร้านติดเมล็ดกาแฟแบรนด์ ยากที่เขาจะมาซื้อมาใช้ของเรา พอคั่วเยอะไม่มีใครซื้อไม่รู้ไปขายใครก็เริ่มขายเพื่อนฝูงรอบๆตัว พอเพื่อนๆซื้อก็เกิดคำถามว่าแล้วจะไปทำกินยังไงให้อร่อยก็จึงขายอุปกรณ์ทำกาแฟสด(Mocha Pot) แล้วก็เกิดคำถามต่อว่าหม้อนี้ใช้ยังไง เมื่อมีคำถามมากมายก็เลยตัดสินใจเปิดร้านกาแฟไปเลย โดยขายทั้งเครื่องดื่ม อุปกรณ์ และเมล็ดกาแฟ หลายคนบอกเห็นผมขายดีอยากขายบ้าง ผมบอก "เอาเลย" เดี๋ยวหาอุปกรณ์ให้ หาเมล็ดกาแฟให้ บอกสูตรให้เรียบร้อย แต่ว่าไม่ค่อยมีใครอยู่ได้เกิน2เดือนเลย มันเหมือนง่ายนะขายน้ำ ธุรกิจไม่มีอะไรง่าย กว่ามันจะลงตัว ถ้าพูดถึงกาแฟแล้วเราต้องวิเคราะห์และปรับส่วนผสมมันทุกวัน
"จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากการที่กูเบื่อที่จะอยู่บ้าน กูคั่วกาแฟ แต่ไม่รู้เอาไปขายใคร กูเลยทำเอง เป็นการโปรโมทเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ แต่นั้นคือมันความชอบของกูด้วย"
คอกาแฟในยุคนี้
ใครบอกว่าเป็นบาริสต้าแล้วทำรสชาติออกมาได้เหมือนกันทุกวัน สำหรับคนที่กินแฟเป็นจริงๆจะพูดเป็นเสียงเดียวว่า "เป็นไปไม่ได้" ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องชงกาแฟสดหรือกาMocha Pot เพราะขนาดบาริสต้าระดับโลกยังทำไม่ได้เลย เพราะเมล็ดกาแฟมันเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกชั่วโมง จากการทำปฏิกิริยากับอากาศและความชื้นทั้งหลาย โดนลมนิดเดียวกลิ่นและรสชาติก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว คนกินกาแฟทุกวันนี้เป็นคอกาแฟทั่วไป จับรายละเอียดกาแฟจริงๆไม่ได้ ทุกวันนี้คนเน้นเพียง ไม่หอม ไม่ขม ไม่หวาน ไม่มัน เท่านั้นแหล่ะ ร้านกาแฟและบาริสต้าจึงต้องมีวิธีทำให้ความขมมันเด่นกลายเป็นอเมริกาโน่ ให้นมเด่นกลายเป็นลาเต้ โดยจะไม่ไปลงละเอียดกับตัวกาแฟเยอะ ทุกวันนี้คอกาแฟทั่วๆไปชื่นชมในกลิ่นสากล นั้นคือกลิ่นของเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วจนไหม้ ซึ่งเป็นกลิ่นที่มีอยู่ในร้านทั่วๆไป รสชาติที่ขมจนเป็นเอกลักษณ์ที่คนทั่วไปคุ้นชิน ไม่ได้ชื่นชมในกลิ่นเล็กกลิ่นน้อยที่มีมากกว่า 800 กลิ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟแต่ละที่ซึ่งมีความแตกต่างกัน
"กลิ่นกาแฟมี2ส่วน คือระเหยง่้ายและระเหยยาก ทุกวันนี้เราเสพกลิ่นกาแฟที่ระเหยยากอันเป็นกลิ่นกาแฟทั่วๆไป ลองซื้อกาแฟกิโลละพันมาชงให้นักศึกษากิน ถามจริงแยกออกมั๊ย"
แล้วจะปรับรสชาติยังไงให้ลูกค้าพอใจ
การทำกาแฟสดจาก Mocha pot มันกำหนดวัตถุดิบ ขั้นตอน มีการควบคุมที่ยากกว่าเครื่องชงกาแฟสดทั่วไปๆ การกำหนดรสชาติก็ยากเช่นกัน แต่อะไรก็ตามที่ให้คนตัดสินใจมันยากเย็น ลำบาก และเสียเวลา ลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกันความชอบก็ไม่เหมือนกัน บางวันหอม บางวันไม่หอม มันมีพวกบ้ากาแฟจริงๆ มาลองของร้านที่ผม พอมันกินเสร็จมัน Comment อย่างโน่นอย่างนี่ ผมเลยบอกว่า "น้องไม่ชอบ คิดว่าไม่อร่อย พี่ไม่ซีเรียสไม่โกรธ น้องเองก็ต้องไปกินร้านที่น้องชอบ" ทุกวันนี้ผมคั่วเมล็ดกาแฟโรบัสต้าและอาราบิก้า ใครจ้างให้ผมคั่วแบบอื่นผมไม่คั่ว จะซื้อก็ซื้อไม่ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ รสชาติของเราแบบของเรา ไม่เคยนิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเหมือนตอนชงนั้นแหล่ะ แรกๆตอนขายใหม่ๆเครียดนะ ตอนหาสูตรมาขาย ไม่รู้ว่าใครโอเคแบบไหนสูตรไหน บางคนว่าหอม บางคนว่าไม่หอม หลายเรื่องหลายปัญหา จึงตัดสินใจเอาสูตรแบบเรา รสชาติแบบเรา อย่างน้อยๆชงในแบบที่เราคิดว่าอร่อย คือเราต้องหาข้อสรุปให้ได้ ไม่ใช่ไปตามคนโน่นทีคนนี้ที ความชอบของคนสิบคนก็สิบอย่างสิบแบบ ตัดสินใจง่ายๆคือเอาที่ผมอร่อยสุดเป็นตัวตั้งก่อนเลย อย่าไปแคร์ลูกค้ามาก แต่ถ้าเขาติบ่อยๆ ติหลายๆคน เราก็ค่อยๆปรับ แต่ไม่ใช่ปรับทีเดียว เมื่อก่อนเป็นคนชอบกาแฟรสเปรี้ยว เพราะรสชาตินนี้คือเอกลักษณ์อย่างนึงของกาแฟ เวลาชงขายก็เป็นรสเปรี้ยว จนมีคนทักมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องปรับและรู้ว่าคนไทยไม่ชอบกินกาแฟเปรี้ยว มันเหมือนงานวิจัย กว่าจะได้สูตรที่ถูกใจคนทั่วๆไป มันต้องค่อยๆศึกษาและค่อยๆปรับ บางทีปรับชิมเยอะเกินหลายๆแก้วจนนอนไม่หลับก็มี
"การชงกาแฟเหมือนงานวิจัย ถ้าสุดโต่งในความคิดตัวเองเกินก็พัง"
ทำไมคนถึงเลือกกินร้านนี้
"มีสองร้านของเหมือนกันแต่ทำไมเราเลือกซื้อร้านนึงและไม่ซื้ออีกร้านนึงล่ะ" ผมกำลังจะบอกว่าบางทีมันมากกว่ามูลค่า มากกว่ารสชาติ และมากกว่าราคา ผมไม่สามารถตอบได้หรอกว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร แต่สำหรับผมคืออองค์ประกอบทุกอย่าง ตั้งแต่ตัวสินค้า การบริการ ทำเล ที่สำคัญจุดดึงดูดที่แตกต่าง สำหรับผม ผมมีป้ายกาแฟสด 25 บาทเป็นจุดขาย เพราะเมื่อใครมองเห็นป้ายมันก็สะดุดตา เกิดคำถามสงสัยว่ามีด้วยหรอกาแฟสด 20 บาท เกิดอาการอยากลองและอยากท้าทายว่ากาแฟสด 25 บาทจะต่างกับ StarBuck ยังไงมั้งวะ หลังจากที่เขามากินแล้วรสชาติจะตัดสินเองว่าถูกปากเขามั๊ย เอาง่ายๆคือทำอย่างไรก็ได้ให้คนประหลาดใจแล้วอยากมาลอง พอลองชิมแล้วถูกใจ ผมมีจุดขายอีกอย่างนั้นคือจักรยานสามล้อคู่บุญบารมี เมื่อตอนเปิดแรกๆที่ไหนผมจะนำเจ้าสามล้อไปจอดชงบันสามล้อก็มี อีกทั้งการบริการและสไตล์ของผู้ขายก็มีส่วนเป็นแรงดึงดูดลูกค้าเช่นเดียวกัน
"องค์ประกอบทุกอย่างทั้ง ตัวเรา ของตกแต่งร้าน ป้ายร้าน มันคือนางกวักชั้นดีของเรา"
ทำไมขายแค่20-25บาท
รู้หรือป่าวว่าธุรกิจขายเครื่องดื่ม เป็นธุรกิจที่มีกำไรสูงมาก พอๆกับก๋วยเตี๋ยวเลยนะ ที่ผมขาย 20-25 รู้หรือไม่ว่ากำไรมัน ตกแก้วละ 5 บาทเลยนะ ถามว่า5บาทโอเคมั๊ย???สำหรับผมโอเค มันคือจุดขายเพราะมันถูกคนก็มากินร้านผมเยอะ 100 แก้วก็ได้แล้วกำไร 500 บาท แต่คุณต้องขายให้ได้ด้วยนะ ร้านใหญ่ที่เขาขายแพงเพราะต้นทุนเขาสูง ค่าเครื่อง ค่าร้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าลูกจ้าง ค่าวัตถุดิบ คิดดูว่ากว่าจะหลุดทุน นานขนาดไหน สำหรับร้านแบบผมลงทุนหมื่นสองหมื่นก็ขายได้แล้ว แต่กำไรจะพอสำหรับคุณมั๊ยอันนั้นอยู่ที่คุณ
"คนคิดเปิดร้านกาแฟคือคนหน้ามืด คนที่เปิดได้ต้องพร้อม ไม่ลำบากมากแล้ว คือไม่มีเจ้าหนี้ ไม่มีภาระ ไม่มีบิลส่งมาทุกเดือน ถึงจะขายแบบกูได้ กว่ากูจะได้กำไรก็เดือนที่2ที่3แล้ว ถ้าคุณจะขายกาแฟคุุณต้องรับให้ได้ เพราะบางเดือนขายได้เยอะ บางเดือนขายได้น้อย มึงไม่รู้หรอก"
ขยะสิงคโปร์...สู่ของตกแต่งร้าน
เวลาลูกค้ามาที่ร้านส่วนใหญ่จะสะดุดตากับของตกแต่งร้านนานาชนิดที่ผมนำมาวาง ผมว่ามันคือจุดขายอย่างนึงเลยนะ เมื่อพูดถึง Concept การแต่งร้านของผม มันไม่มีอะไรตายตัว แต่ทุกอย่างคือของเก่า ของที่คนไม่ใช้แล้ว ไม่ค่อยเห็นคุณค่า เมื่อก่อนชีวิตผมอยู่กับตลาดนัด ตลาดเปิดท้าย ของที่เห็นผมนำมาแต่งร้านมันคือ ขยะของประเทศสิงค์โปร์ ของพวกนี้เป็นของที่คนสิงคโปร์ไม่ได้ใช้แล้ว อีกไม่นานคนกรุงเทพก็น่าจะเป็น เพราะทุกวันนี้คนอยู่คอนโดกันเยอะ ยกตัวอย่างได้เครื่องชงกาแฟมาใหม่ แล้วเครื่องเก่าล่ะ?? คอนโดห้องมันแคบ พื้นที่มีจำกัด ฉะนั้นของเก่าก็ต้องนำไปขายของมือ2 หรือให้เพื่อนในกรณีประเทศไทย ถ้าเป็นประเทศสิงคโปร์การให้ของมือ2 ซึ่งกันและกันถือเป็นการดูถูก ของที่ตกแต่งร้านก็มาจากถึังขยะประเทศสิงคโปร์ทั้งนั้น แม่บ้านที่นั้นเก็บรวมๆแล้วส่งมาขายที่ไทย มาใหม่ๆ Mocha Pot จากประเทศอิตาลีแท้ๆใบละ 100 บาทตอนนั้นไม่มีใครซื้อไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ใบละ 2000 ยังหาไม่ได้เลย ทุกๆเย็นเมื่อก่อนจะซื้อพวกของเก่ามาเก็บไว้ที่บ้าน พวกเทคโนโลยีเก่าๆ จักรยาน ตะเกียง กาน้ำ หนังสือ เต็มบ้านไปหมด พอเปิดร้านก็เอาพวกนี้ที่รกๆบ้าน มาจัดตกแต่งร้านซะเลย คือเมื่อก่อนทำงานก่อสร้างแล้วมันเครียด วิธีแก้เครียดของผมคือเดินตลาด ดูของเก่าโบราณๆที่เราชอบ ซื้ออย่างเดียว
ทำไมมีแต่คนรู้จัก ถึงยกร้านให้คนอื่น คิดว่าตัวเอง Indy มั๊ย ???
ทุกอย่างมันลงตัวหมดแล้ว มีแต่คนรู้จักร้่านผม คือผมเบื่อมากแล้ว คนอื่นมองผมอินดี้ ผมไม่ได้อินดี้เลย ผมก็เพียงแค่เบื่อ ผมเป็นคนรักอิสระ ชอบเดินทางไม่อยากอยู่กับที่ หาที่เปิดร้านกาแฟไปเรื่อยๆ Creativeสิ่งใหม่ๆทำเลใหม่ๆไปเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามชีวิตต้องมีรายได้ ชีวิตถึงจะอยู่รอด สำหรับผมแค่นี้พอแล้ว เราทุกคนผมว่าต้องหาอาชีพที่Matchกับตัวของเราเองและเราชอบที่จะทำ สำหรับผมผมชอบกาแฟ ผมเลือกคั่วเมล็ดกาแฟขายเป็นหลัก และอย่างที่ผมบอกไปว่าตัวผมรักอิสระ เมล็ดกาแฟไม่ได้คั่วตลอดเวลา ไม่ใช่เหมือนโรงงานที่ต้องคั่วตลอดเวลา แต่ก่อนที่จะอินดี้หรือจะอิสระ เราเองต้องมีปัจจัยสี่พร้อมก่อนและไม่เป็นภาระหรือทำให้คนอื่นเดือดร้อน ที่ผมอินดี้ได้เพราะผมไม่มีแรงกดดัน ไม่มีอะไรมาบังคับมาตีกรอบชีวิตผมแล้ว ปัจจัยสี่ผมพร้อม ภรรยาเข้าใจ มีบ้าน มีรถ ไม่มีลูก และไม่ต้องส่งเสียพอแม่
ทำไมไม่ขายเฟรนไชส์
"อยากปวดหัวหรอ" ขายเฟรนไชส์ มันเป็นธุรกิจอีกอย่างนึงเลยนะ มันคนละ Part กับขายปกติ มันคือการสร้างภาระ มันต้องไป Built ลูกค้าให้เขา ไปทำการตลาดให้เขา ทั้งวางแผน ดูแลวัตถุดิบและการผลิต ต้องStockของ อิสระไม่ได้อีก นั้นแหล่ะคือเหตุผลที่ไม่ทำเฟรนไชส์
โกชัยใช้ชีวิตที่แฝงไปด้วยความ Creative และ Attitude ที่เป็นตัวของตัวเอง อันเป็นเสมือนแรงบรรดาลใจไม่เพียงแต่ผู้รักในการทำธุรกิจกาแฟหรือบรรดาเหล่าบาริสต้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักธุรกิจดาวรุ่งผู้วาดฝันต่างๆได้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มกิจการใดๆก็ตาม นี่แหล่ะ...ชีวิตของเจ้าของธุรกิจนักพเนจรผู้ที่มีใจรักในกาแฟและการเดินทาง อายุ50กว่าปี แต่ยังคงใช้ชีวิตโลดโผนและสุดโต่ง สองเท้าของแกยังคงถีบเจ้ารถจักรยานคู่ใจที่อยู่ด้วยกันมามากกว่า20กว่าปีด้วยท่าทีที่แข็งแรงเหมือนหนุ่มๆวัย20 ปากยังคงคาบมวนบุหรี่ ขับฉวัดเฉวียนภายในเขตพระนครหาดใหญ่อยู่เช่นเดิม ใครที่พบเห็นก็สามารถทักทายแกได้ ข่าวล่าสุดแกว่าจะเปิดร้านกาแฟสดสามล้อ เป็นสาขาที่4 บริเวณหน้าไปรษณีย์คอหงส์ข้างๆ ม.อ. ส่วน3สาขาที่โกชัยแกยกให้คนอื่นดูแลกิจการต่อ ได้แก่ บริเวณหลังศูนย์อาหารศรีตรัง ม.อ. ตลาดนัดยรรยง และตลาดวันอาทิตย์สงขลา ซึ่งทั้งสามร้านโกชัยการันตีเองว่ามีสูตรOriginalเหมือนของโกชัยทั้งหมด ทั้งอุปกรณ์และเมล็ดกาแฟ เปลี่ยนแค่ตัวคนชง
"ผมทำงานก่อสร้างมาตลอดตั้งแต่เรียนจบมา งานมันหล่อหลอมให้เรากลายเป็นคนแบบนี้ เหมือนคำพูดที่ว่านิสัยของคนเราจะเปลี่ยนไปตามงานที่เราทำ สไตล์วิถีชีวิตเราจะเป็นไปตามงาน ผมทำงานก่อสร้าง ย้ายที่ตลอด งานไม่เหมือนกันสักงาน มีอะไรให้เราคิดทบทวนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ผมกลายเป็นคนไม่ชอบความจำเจ ไม่ชอบอยู่นิ่งอยู่กับที่ ขี้เบื่อกับอะไรเดิมๆ ที่เดิมๆ ตอนนี้ไม่ขายก็ได้ เพราะเมื่อไม่ขายผมก็อิสระ กาแฟหมดก็แค่คั่ว อยากทำอะไรก็ได้ทำ จะเดินตลาดซื้อของ จะปั่นจัรยานไปเรื่อยๆก็ทำได้ ไม่ต้องแหกขี้ตามาเปิดร้านกาแฟ"...พิชัย เจนจำรัสศรี (โกชัย กาแฟอินดี้)
"งี่เที่ยนถ่อง" ร้านยาสมุนไพรไทย-จีน ที่ก้าวผ่านยุคสมัยกว่า 4 เจนเนอเรชั่น บนถนนสายประวัติศาสตร์ย่านเมืองเก่าสงขลา
20 มิถุนายน 2568 | 18เปิดประวัติชีวิต" ปลัดแป้น" จากนักปกครองสู่ว่าที่นายกหาดใหญ่ ชีวิตที่ไม่ง่ายหลังลงสมัครนายกกว่า 2 สมัย
15 พฤษภาคม 2568 | 1,752"พี่ปุ้ย" สาวสองสู้ชีวิตผู้มีลีลาสาธิตการขายร่ม จนเป็นกระแสดังในโซเชียลทั้งไทยและมาเลย์
6 พฤษภาคม 2568 | 2,359"ครูทอง" ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้สืบทอดภูมิปัญญาการปั้นหม้อยาวนานกว่า 100 ปี ของบ้านสทิงหม้อ อ.สทิงพระ
24 มีนาคม 2568 | 2,403“เชือกกล้วยตานี” จากของเหลือทิ้ง สู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้ชุมชนคูเต่า ภายใต้ชื่อ “กอร์ตานี”
19 มีนาคม 2568 | 2,328ชีวิตหลังเกษียณของอดีตฯ ผู้ว่าฯ สงขลา ผันตัวเองป็นเกษตรกรสวนทุเรียนกว่า 400 ต้น
3 มีนาคม 2568 | 23,306ตาผิน ผู้ประดิษฐิ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติ สู่สินค้าโอท็อปประจำอำเภอรัตภูมิ
2 มีนาคม 2568 | 819"ธนกร"กุ้ยช่าย สูตรลับจากคุณแม่ที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน เลี้ยงครอบครัวกว่า 45 ปี ออเดอร์ไกลถึงสหรัฐฯ
6 กุมภาพันธ์ 2568 | 893