หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

เผลอลองดีที่เขาตังกวน เกือบเอาตัวไม่รอด
3 พฤษภาคม 2563 | 7,569

ดิฉัน  เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาแต่เป็นชาวพัทลุง ดิฉันคงจะไม่เล่าถึงประวัติตัวเองให้มากเพราะได้เล่าเอาไว้แล้วในกระทู้แรก   นี่เป็นกระทู้ที่ 2 ที่จะมาเล่าสู่กันฟัง  เพราะดิฉันเป็นคนที่เชื่อในเรื่องลี้ลับผีสาง อะไรแบบนี้และจะขอยืนยันในฐานะคนที่สัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ว่า  เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องงมงายแต่อย่างใดและดิฉันก็ไม่สามารถจะไปบังคับให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาเชื่อในสิ่งที่ดิฉันเล่า เพียงแต่นำมาเล่าสู่กันฟัง ใครที่มองว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ ก็ขอเพียงแต่ท่านจงอ่านให้เป็นเพียงนิทานเรื่องหนึ่งเถิด

เพราะความที่ดิฉันมาใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาอยู่ที่สงขลา   แรกๆก็กลับบ้านทุก วันศุกร์-เสาร์  พออาทิตย์ก็กลับมาเพื่อจะเรียนในวันจันทร์-ศุกร์  ดิฉันเช่าหอพักอยู่แถวๆถนนราษฏร์อุทิศ1  ก็เป็นหอใหญ่สะดวกสบายพอสมควร แต่พอดิฉันเริ่มรู้จักคนมากขึ้น มีเพื่อนมากขึ้น ก็ไม่ค่อยกลับบ้าน จะที่ยวเล่นกับเพื่อนอยู่แถวละแวกนี้ ด้วยความที่  โสด ใส ซิง ไม่มีแฟน  ทั้งที่รูปร่างหน้าตาก็ดี (คนรอบตัวบอกงั้น) ก็เลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาทักท้วงเรื่องเที่ยวเล่นกับเพื่อนใหม่ๆ

มอเตอร์ไซค์นี่เลย  3 คัน ไปที 6 คนบ้าง  7คนบ้าง ไปได้เรื่อย ๆ หลัก ๆ ก็จะชอบไปนั่งเล่นที่แหลมสมิหลา หรือไปนั่งดูเพื่อนตกปลาถ้าไกลหน่อย ก็จะขึ้นแพข้ามฟาก ไปฝั่งหัวเขาแดง  อ.สิงหนคร  เพราะดิฉันมีเพื่อนเป็นมุสลิมบ้านอยู่ทางฝั่งนั้นด้วย อันว่าเรื่องการเที่ยวนี้  ดิฉันไม่ใคร่จะชอบเดินเข้าห้างสักเท่าไหร่  ออกแนวสาวลุย ชอบลุยธรรมชาติว่างั้น และการไปเที่ยวอะไรพวกนี้  ดิฉันก็หนีไม่พ้นเรื่องราวสัมผัสกับผีตามประสาคนมีดีทางด้านนี้  ดิฉันไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามีดีได้หรือเปล่า แต่มันก็ดีตรงที่ดิฉันเห็นจนชิน  ชินจนเลิกกลัวไปแล้ว เคยพยายามไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

ทางพระท่านว่า  เรื่องการสัมผัสผีได้เนี่ย  มันได้มาจากการฝึกฝนจิต  ที่อาจจะฝึกได้ในชาตินี้ หรือติดตัวมาแต่ชาติก่อนจริงหรือเท็จอย่างไรดิฉันก็มิทราบได้  เพราะมิสามารถระลึกชาติได้แต่อย่างใด  อันว่าเรื่องราวของผีในเมืองสงขลานี้  หากจะมีเครื่องมือให้ไล่จับผีได้  เหมือนเกมส์ โปเกม่อนGO ดิฉันก็ขอแนะนำให้ไปจับที่เขาตังกวน  เขาตังกวน เป็นเขาสูงโดดเด่น เป็นจุดที่สามารถขึ้นไปมองวิวของเมืองสงขลาได้รอบทิศ  บนยอดเขาจะมีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่มองเห็นแต่ไกล  หากใครมาเมืองสงขลาแล้วไม่ได้ไปขึ้นเขาตังกวน  ก็เหมือนมาไม่ถึงเลยแหละ
 

นักท่องเที่ยวคงคุ้นเคยกับการขึ้นเขาตังกวนด้วยลิฟต์ที่ตีนเขา   แต่เขาตังกวนจะมีทางขึ้นถึง3ทางทางหนึ่งคือลิฟต์  ที่คุ้นเคยกันดี   ทาง2 จะเป็นถนนเล็กๆ เป็นอิฐเรียงต่อๆกัน สามารถขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปถึงยอดเขาได้เลย  ทางขึ้นด้านนี้ จะอยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเขา และอีกทางคือบันไดอยู่ทางตะวันตกหากขับรถวนตามถนนรอบเขา หากสังเกตดี ๆ จะมองเห็นทางขึ้นที่ว่านี้ได้เอง

ช่วงนั้นดิฉันกับเพื่อนสาวอีก 2 คน  โดนชวนโดยเพื่อนชาย 2 คน  ว่าจะไปขี่รถเล่นแก้ร้อนตอนกลางคืนกัน เราขี่รถตามกันไปเรื่อย ๆ  หญิงซ้อน3  ชายซ้อน2 ขับรถเคียงเมียงมองสอดส่องล่องตามทางตระเวนไปทั่วเมืองยามราตรี จนไปถึงเขาตังกวน  เราขี่ตามถนนเลียบเขาตังกวน จนไปเจอทางขึ้นเขาที่เป็นด้านบันไดหัวพญานาคเพื่อนชายก็จอดรถ  เราเลยจอดตาม  เพื่อนชายก็เอ่ยขึ้นมาว่า ผ่านบทสนทนาว่า  “เห้ย  เรายังไม่เคยขึ้นเขาตังกวนทางบันไดนี้เลย ไปกันมะ จะดีหรอ มันมืดมากเลยนะพวกเราก็ผู้หญิงด้วย อันตราย ไม่เป็นไรหรอกมีพวกเราเป็นผู้ชายตั้ง 2 คน  ใครจะกล้าทำอะไร พวกเราที่เป็นหญิง 3 คนก็มองหน้ากัน  เหมือนจะหยั่งความเห็นเอาไงแกขึ้นป่าว หึ้ยมันมืดนะ เอาจริงดิ ลองดูมีผู้ชายมาด้วย ไม่เป็นไรหรอก”

ดิฉันไม่ค่อยอยากจะขึ้นเท่าไหร่นัก  เพราะแค่ยืนตีนเขาดิฉันก็รู้สึกได้แล้วว่า มีความเยือกในแบบที่ไม่ใช่ความเย็นธรรมดา  แถมกลิ่นที่โชยมาแตะจมูกนั้นมันก็ฟ้องอยู่ในจิตดิฉันแล้วว่า  “กลิ่นขี้หมาแถวนี้มันแรงจริงๆ” แต่ก็อ่ะ ในเมื่อเพื่อนๆอยากลองขึ้นกัน  เราก็ต้องเอาด้วยเลยเกาะกลุ่มกันเดินตามเพื่อนชายตามบันไดขึ้นเขาไปมืด ๆ เราเดินตามกันมาจนถึงตะพักไหล่เขาตะพักแรก  เหมือนจะเป็นที่โล่งๆ  มีลักษณะเหมือนเป็นส่วนฐานของสิ่งปลูกสร้างอะไรบางอย่าง เราหันมองกลับไปมองเห็นไฟจากบ้านเรือน  และมองเห็นไฟจากเรือในทะเลสาบอยู่แวววาว ท่ามกลางความมืดและเย็นบนไหล่เขาตังกวน  มันชวนให้เราฟินเราพากันนั่งมองวิวอยู่มืด ๆ แบบนั้นเพื่อนๆต่างก็บอกว่าเย็นจัง  สบายตาด้วย   มันเป็นธรรมชาติกลางเมืองที่เราสัมผัสได้จริงๆ

ขณะที่เพื่อนๆกำลังนั่งฟินกับบรรยากาศอยู่นั้น  ดิฉันผู้มีสัมผัสพิเศษ และมีวิญญาณของพี่สาวฝาแฝดคอยตามติดอยู่ ก็ได้ยินเสียงแว่วในหู ดังขึ้นเหมือนเราได้ยินเสียงพูดจากหูฟังว่า   “ระวัง” เป็นคำพูดที่รู้สึกว่าชัดมาก เหมือนวิญญาณพี่สาวฝาแฝดดิฉันจะพยายามบอกอะไร แต่ก็ได้ยินชัดแค่นั้น  แล้วหลังจากนั้น เสียงก็กลายเป็นเหมือนเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ไป  จนไม่รู้ว่าจะเตือนให้ดิฉันระวังอะไร

ดิฉันหันหลังไปมอง  เห็นเจดีย์ที่อยู่สูงและไกลขึ้นไปเป็นเงาทะมึน  ได้ยินเสียงเหมือนเสียงใครเคาะระฆังมาเบาๆ เง่ง....เง่ง....เง่ง.... ดิฉันหันไปดู  เพื่อนหญิงอีก 2 คนก็จับแขน และกระซิบกระซาบ “แก แกเป็นไร มองอะไร” เพราะเพื่อนสาวทั้ง2คนของดิฉัน  จะรู้เรื่องที่ฉันสามารถสัมผัสวิญญาณได้  พอเห็นอาการของดิฉัน  ที่เริ่มนั่งนิ่งและพยายามเบิ่งตาเพื่อจับสัมผัสสิ่งเล้นลับ  พวกเธอก็จับแขนดิฉันไว้แน่น “หึยยยยยย  แก  มีไรอ่ะ”  “แก ไม่เอานะ กลัว อย่ามาสัมผัสอะไรตอนนี้ดิ กลับเหอะ”

เพื่อนสาวของดิฉัน 2 คนก็เริ่มโวยวาย  เมื่อเห็นอาการของดิฉัน หันไปดึงไม้ดึงมือเพื่อนชายอีก 2 คนชวนกันลงเขา แต่เหมือนเพื่อนชายจะอยากรู้มากกว่ากลัว  เลยหันไปบอกเพื่อนหญิงทั้ง2ว่า  “เธอนิ่งๆดิ “พวกเพื่อนสาวเลยหุบปากลงได้  แต่ก็ยังนั่งหมอบอยู่ด้านหลังของดิฉัน เสียงดังคล้ายระฆัง ยังดังมาอีก  เง่ง....เง่ง....เง่ง.... ทิ้งระยะห่างแต่ละเง่งพอสมควร แล้วดิฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนเป็นเสียงรอยเท้าคนเดินลงมา ดัง กุบ  กุบ  กุบ พวกเพื่อน ๆ ก็ได้ยิน  จนมันเผลอร้อง “เชี้ย” ออกมา  แล้วก็ปรากฏเงา  ลักษณะเหมือนเงาคนรูปร่างสูงใหญ่  กำลังเดินตามทางลงมา

พวกเพื่อนๆมันก็เห็นกันทุกคน ก็เริ่มใจคอไม่ดี  คนนึงข้างหลังของดิฉันมันกลัวจนตัวสั่น  เพราะเงาที่เห็นนั้นมันชัดเจนมาก  และกำลังเดินลงตรงมาทางที่กลุ่มของดิฉันที่นั่งกันอยู่เงียบๆ  เงานั้นเดินๆมา พอใกล้ถึง  ก็หยุดนิ่งกับที่ไม่ไหวจริง “กูจะไม่ไหวแล้วนะโว้ย  ฮือๆๆ กูกลัว” เสียงเพื่อนคนหนึ่งของดิฉันเริ่มงอแง  ดิฉันบอกให้มันนิ่ง ๆ  เงาที่ว่านั้นก็เริ่มโงนเงนโอนเอนไปมาเหมือนต้นไม้โดนลม แล้วก็มีเงาอีก 2 เงาตามหลังเงาแรกมาจนทันกัน  รวมเป็น 3 เงา  ดิฉันเลยยืนขึ้นพวกเพื่อน ๆ ก็ยืนตามพอเรายืน  เงาที่เราเห็นๆอยู่ก็หายแว้บไปกับตา

เพื่อนสาวดิฉันเธอสติหลุด  เลยกรี๊ดแล้วซอยเท้าวิ่งรัว ๆ ลงบันได  เพื่อนชายก็ไล่วิ่งไล่ตามเพราะกลัวเพื่อนสาวตกบันไดขึ้นเขาตาย  ดิฉันเดินตามเพื่อนลงมาอย่างปกติธรรมดา เป็นวิญญาณที่มีพลังแรงมากทีเดียว 3 ดวงนี้ เพราะออกมาให้คนเห็นได้ถึง 5 คน  แม้แต่เพื่อน ๆ ของดิฉันที่ไม่ได้มีสัมผัสอะไร  ก็ยังเห็นได้ด้วยกันกับดิฉันเราลงบันไดมาโดยมีดิฉันเดินรั้งท้าย  จังหวะก้าวเท้าลงมานั้น  เสียงแว่ว ๆ จากผีพี่สาวฝาแฝดของดิฉัน  ที่ตามติดตัวฉันอยู่  ก็ดังแว้บเข้ามาในหัวว่า  “ข้างหลัง”

ดิฉันเลยหันหลังไปเบิ่งตามอง  เห็นเงารูปร่างสูงใหญ่  ยืนอยู่บนบันไดชั้นสิ้นสุดขั้นบันได บนตะพักแรก ในลักษณะยืนแยกขานิด ๆ 2แขนห่างตัวเหมือนกำหมัด  เขายืนนิ่ง ๆ แต่ดิฉันเห็นได้ว่า เหมือนเขามายืนมองพวกเรา แล้วพอดิฉันหันไปมองไม่ยอมวางตา  เขานั้นก็กระโดดขึ้นต้นไม้ต้นหนึ่งบนนั้นหายไป  จนดิฉันไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้อีก พวกเพื่อนชายที่ลงไปถึงรถแล้วก็ตะโกนเรียกขึ้นมา  ดิฉันเลยเดินลงไปสมทบเพื่อน ๆ ก่อนจะพากันขับรถออกมาจากตรงนั้น เพื่อน ๆ ดิฉันถามว่า ผีใช่ไหมเมื่อตะกี๊  ดิฉันไม่สามารถตอบเป็นอื่นได้นอกจาก

“อืมมมม”..แต่จะเป็นใคร  อันนั้นไม่รู้  แต่คงอยู่เฝ้าเขาตังกวนมานานพอดู  ถึงมีบารมีมากขนาดโผล่มาให้คนเห็นได้แบบนี้  เพราะถ้าเป็นผีทั่วๆไป  จะไม่สามารถโผล่มาให้คนเห็นได้พร้อมๆกันแบบเต็มตาแบบนี้เลย ดิฉันก็ไม่รู้จะไปถามเอาจากใคร เหมือนกัน   จริง ๆ ก็อยากรู้เหมือนกันนะ  ว่านั่นคือวิญญาณอะไร  หรือเป็นใครกัน

ขอบคุณเรื่องราว : พันทิป

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง