"เทศกาลอาหารสองทะเล" หนึ่งในเทศกาลประจำปีของอำเภอเมืองจังหวัดสงขลา จัดขึ้นบริเวณสระบัว แหลมสมิหลา ในปีนี้เข้าสู่ครั้งที่ 18 แล้ว (ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน) มีผู้สนใจเดินทางมาร่วมเทศกาลนี้อย่างคับคั่ง ในงานไม่ได้มีเพียงโซนอาหารทะเลเพียงอย่างเดียว แต่มีทั้งโซนกิจกรรม โซนยานยนต์ โซนอาหารพื้นเมือง และสุดท้ายคือโซนที่วัยรุ่นและเด็ก ๆ ชอบมากที่สุด คือ "โซนงานวัด" วันนี้เราได้ฤกษ์ออกเดินทางจากหาดใหญ่ไปสงขลา โดยใช้เวลาในการเดินทางกว่าครึ่งชั่วโมง จากหาดใหญ่ถึงสงขลา ในระยะทาง 30 กิโลเมตร
รถค่อย ๆ ขยับตัวออกไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากเป็นวันหยุด รถจึงติดแน่นขนัด ผู้คนจากทุกสารทิศ ต่างมีปลายทางที่เป็นเป้าหมายเดียวกัน คือ เทศกาลอาหารสองทะเล เราจึงเลือกใช้เส้นทาง ท่าข้าม - สงขลา เพื่อลดสภาพปัญหาการจราจร เพราะช่วงถนนบริเวณ 5 แยกเกาะยอ ในตอนเย็นรถจะติดมาก ๆ (เลี่ยงได้ควรเลี่ยง)
เราโผล่มาตรงบริเวณแยกสำโรง ซึ่งมองเห็นป้าย "เมืองสงขลา" ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ป้ายหรือซุ้มเมืองสงขลาที่อยู่ตรงหน้า สร้างขึ้นช่วงปี พ.ศ.2558 โดยจำลองมาจากซุ้มประตูเมืองสงขลาในสมัยก่อน เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง
เดินทางมาถึงบริเวณถนนนครนอกและนครใน พบกับซุ้มประตูเมืองของแท้ มาเมืองสงขลาทั้งที ไม่ถ่ายกับป้ายประตูเมืองก็คงแปลก ๆ
เราผ่านมาตรงบริเวณ "ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์" จุดเช็คอินสำคัญของถนนสายนี้ แวะจอดถ่ายรูปเล่นสักหน่อยนึง เก็บภาพที่น่าประทับใจสักหิดนึง โดยจุดนี้ถูกสรรสร้างขึ้นใหม่ ด้วยภาพวาดฝาผนังและพร็อพต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ออกท่า Action เก๋ ๆ
ภาพที่ผมคิดว่า ได้ความเป็นธรรมชาติที่สุด คงจะเป็นรูปน้องหมากับพื้นถนนบริเวณนั้น ผมคิดแทนหมาแล้วกันว่า มันคงเป็นฟีลลิ่งที่มีความสุขของมันแหละนะ แอบอิจฉามันเบา ๆ
ตึกรามบ้านช่องบริเวณถนนแห่งนี้ ถูกอนุรักษ์เอาไว้มาอย่างยาวนาน บางหลังสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลก เรียกได้ว่าเก่าแต่เก๋าได้ใจมาก ๆ เป็นความยอดเยี่ยมของเทศบาลเมืองสงขลา ที่เนรมิตเมืองเก่าให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามและ ฮิป - สะ- เต้อ สุด ๆ
ถ่ายภาพสไตล์ฮิป ๆ กันเต็มอิ่ม เราก็เดินทางมาถึงงานเทศกาลอาหารสองทะเลในที่สุด แสงไฟจากหลอดนีออนหลากสีสัน ณ บริเวณซุ้มทางเข้า ได้บรรยากาศงานวัดในสมัยก่อนเป็นที่สุด ภาพเก่า ๆ ในวัยเด็ก ภาพที่เราออกไปวิ่งเล่นตามงานวัดแถวบ้านนอก ค่อย ๆ ลอยผุดเข้ามาในหัว แต่ป้ายนี้ดูจะอินเตอร์หน่อย เพราะมีภาษาปะกิด (อังกฤษ) ประกอบอยู่ด้วย
"สิงห์นักบิดตัวจิ๋ว" มันเป็นภาพแรกที่ได้เห็นภายในงานแห่งนี้ มันไม่ใช่ภาพกุ้งย่างในจานโต แต่กลับเป็นภาพของเด็กวัยอนุบาลและประถม โชว์ลวดลายการขับขี่รถจักรยานยนต์ย่อส่วน ฟีลลิ่ง อาการ และท่าทางมาเต็ม ไม่ต่างกับวัยรุ่นตัวโต ๆ (โตขึ้นอย่าไปเป็นเด็กแวนซ์นะไอ้หนู)
เกี้ยวพาราสี ฉบับวัยกระเต๊าะ
หลังจากที่ผมได้ยืนดูเด็ก ๆ ขับขี่รถกันอย่างสนุกสนานอยู่พักหนึ่ง ผมก็เริ่มออกเดินต่อไปยังซุ้มอื่น จนมาหยุดตรงเวทีของรุ่นใหญ่ นั่นคือเวที "ปืนอัดลมโบราณล่าตุ๊กตาตัวจิ๋ว" ซุ้มนี้เป็นซุ้มที่เราชอบมากที่สุด เมื่อมีโอกาสได้ไปเดินงานวัด เงิน 20 บาท กับกระสุน 8 นัด แลกมาด้วยความสะใจ เพียงแค่คุณ จับปืน - เล็ง - ยิง สามขั้นตอนง่าย ๆ ตุ๊กตาราคาประมาณตัวละ 2-3 บาท ก็จะค่อย ๆ ร่วงกราวลงมา ด้วยความรู้สึกในใจลึก ๆ ว่า "สะใจครับ สะใจ"
ถัดจากซุ้มปืนอัดลมโบราณ ก็จะเป็นปืนอัดลมอัตโนมัติ มีกล้องให้เล็งด้วย ไฮเทคจัด แต่เป้าโคตรไกลเลยว่ะ พอดีแก่แล้วสายตาสั้น เลือกไม่เล่นดีกว่า ขอผ่าน!!
ผู้คนมากมายหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ ต่างเพศ ต่างวัย หอบลูกเล็กเด็กแดงมาเดินเที่ยวงานอย่างมีความสุข ทุกคนต่างมีรอยยิ้ม มันคือวันแห่งครอบครัว อย่างแท้จริง
เดินมาเรื่อย ๆ ชักเหนื่อย ลืมบอกไปว่า เทศกาลอาหารสองทะเลจัดขึ้นบริเวณส่วนหนึ่งของชายหาดแหลมสมิหลา พื้นที่เราเดินจึงเป็นลักษณะของทรายชายหาด เมื่อคุณเดินไปเรื่อย ๆ เหมือนคุณกำลังเดินอยู่ชายหาดเกาะพะงันอย่างใดอย่างนั้น นุ่มตรีนมากบอกเลย
รถบั๊มจิ๋ว
ครอบครัวบิงโก ภาพน่ารัก ๆ ของครอบครัวคู่หนึ่ง ที่หอบเจ้าหนูทารกมาเดินเที่ยว
เดินมาเรื่อย ๆ พบกับชิงช้าสวรรค์ หนึ่งในสัญลักษณ์เทศกาลงานวัด ผมเคยมีโอกาสนั่งได้เพียงไม่กี่ครั้ง เนื่องจากเป็นคนกลัวความสูงมาก ๆ แต่เจ้าชิงช้าสวรรค์มันก็มีเสน่ห์ในตัว ที่ทำให้ผู้คนต่างพากันรอคิว เพื่อขึ้นไปมองภาพจากมุมสูง ๆ มันช่างโรแมนติกจริง ๆ นึกถึงฉากในภาพยนตร์ "พี่มากพระโขนง" จัง แต่ขอเปลี่ยนคนข้าง ๆ เป็น "ใหม่ ดาวิกา" ได้ใหม่ จะกลั้นหายใจแล้วขึ้นไปเลย
ซุ้มนี้ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศสมัยก่อน ตามร้านของชำแถวบ้าน ๆ ที่มีให้จับสลากเลข โดยมีของรางวัลเป็นพวกขนม ของเล่น เสื้อยืด M150 และเหล้าหงส์ทอง แต่จับยังไงก็ไม่เคยได้เลย มันหลอกกูป่าววะ
คุณเคยเข้าบ้านผีสิงงานวัดไหม บอกได้คำเดียวเลยว่า ... ไม่บอกดีกว่าไปลองเอง ฉากหน้าซุ้มถือว่าทำได้ดี (กี่ปีก็อยู่แบบนี้) แต่ตอนนี้บ้านผีสิงไทยมีการพัฒนา นำระบบ 4 มิติ มาใช้แล้ว คือสัมผัสตัวผีได้ ถีบผีได้
Crazy Wave
Swing Around
เดินมาถึงโซนเครื่องเล่นของ M.T.Group ประกอบไปด้วยเครื่องเล่นแบบเดียวกับสวนสนุกใหญ่ ๆ ระดับโลก มีเครื่องเล่นสามชนิดได้แก่ Swing Around / Crazy Wave / ชามเขย่า ค่าเครื่องเล่นต่อครั้งมีราคา 50 บาท/คน แต่พินิจพิเคราะห์อยู่นาน ตัดสินใจว่าไม่เล่น แต่ละเครื่องเล่น ช่างหวาดเสียวทั้งน้านนนนน ขอบาย!! อายเด็กมัน
เดินหนีออกมาจากโซนเครื่องเล่น มาดูโซนสัตว์เลี้ยงน่ารักกันดีกว่า เพลินตากว่าเยอะ เด็ก ๆ สาว ๆ กำลังให้อาหารเจ้ากระต่ายน้อยอย่างสนุกสนาน ไอ้แท่งส้ม ๆ นั้น ขอเดาว่ามันคือแครอท ใช่มั๊ยหวา??
เดินมาจนเหนื่อย ขอหยุดพักเบรกดับร้อน ด้วยไอติมโคนก่อนละกัน ราคา 10 บาทเองเด้อ มีให้เลือกหลายรสชาติเลยทีเดียว ช็อคโกแล็ต ช็อคชิพ มะนาว สตรอเบอรี่ และคุกกี้แอนด์ครีม
นกกระทาย่างเตาถ่าน อาหารสุดพิศดาร (สำหรับผม) ปล.แต่ผมชอบไข่มันนะ
เดินมาถึงโซนขนมไทยพบกับ "ขนมเบื้อง" หรือ "เครปประเทศไทย" ขนมคู่บ้านคู่เมือง ประกอบไปด้วยแป้งและไส้นานาชนิด ที่ขายดีที่สุดคงจะเป็น "ไส้ฝอยทอง"
คุณรู้จักไหม "ไข่ปลาทะเลน้อย" หน้าตาอาจดูแปลก ๆ มีลักษณะคล้ายขนม แต่นี่คืออาหารคาว เจอที่ไหนผมก็ซื้อกิน กินเพลิน มันส์ดี และมีโปรตีนสูง
Rare Item มีทุกงานทุกตลาดและทุกตำบล
เดินไปเดินมา สะดุดตากับ Mini Food Truck ชื่อแบรนด์ว่า "พยัคฆ์น้อยไอศครีม" หน้าตาบริเวณหน้าร้านทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เห็นคนรอต่อแถวกันเยอะ มันต้องอร่อยแน่ ๆ (ในใจคิดว่าเมื่อกี้เราเพิ่งกินไอติมมาโคนนึงนี่หว่า) เอาน่าต้องลองหน่อยละกาน
ชะแว๊บบบบบบ...ได้มาหนึ่งโคน ในราคา 59 บาท (แบบโคนธรรมดาราคา 19 บาท)
เดินมาที่โซนอาหารคาว
ขนมจีนน้ำแกงร้อน ๆ
ข้าวขาหมูเนื้อแน่น ๆ
เหลืองอร่ามด้วยข้าวหมกไก่
ผลิตภัณฑ์ KFC Copy เพื่อพวกเราคนรากหญ้า มีทั้งยำไก่แซ่บ ไก่ป๊อบ ไก่มีกระดูก และวิงไก่แซ่บ จัดมาสามชิ้นก็ฟินดีเหมือนกัน
ไม่ต้องไปถึงตลาดกิมหยง งานนี้มีเกาลัดคั่วสด ๆ เด้อ
จัดไป 40 บาท เบา ๆ ด้วยหน้าตาและราคา ถือว่าร้านนี้ผ่านมาก มีทั้งหมูกระเทียม แหนม และไส้อั่ว ในราคาชิ้นละ 5 บาทเท่านั้น
เม็ดหัวครกราดน้ำตาล สมัยนี้หากินได้ยากแล้ว
"ถั่วต้ม" สำหรับคนงบน้อยกระเป๋าบาง ...ซื้อเจ้านี่ในราคา 20 บาท ฟินได้ตลอดงานบอกเลย
"มันม่วง" หรือ "หัวมันสีม่วง" อาหารชั้นดีของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
แม่ค้ายังสาว
คอหมูย่างสีทองอร่ามชิ้นโต ๆ (คนที่กำลังลดความอ้วน แนะนำว่าอย่าเดินมาแถวนี้)
ตู้ขายน้ำราคาเบา ๆ
ปลาทับทิมย่างเกลือ กลิ่นหอมเย้ายวนใจ
ขั้นตอนกรรมวิธีการทำชาชัก เหมือนได้ดูโชว์เล่นกลอะไรสักอย่าง
ชาชักฟองละมุน
โชว์อีกหนึ่ง Shot ใหญ่ ๆจากพ่อค้า
เดินผ่านซุ้มชาชักมา พบกับ "Bingsu" ขนมหวานจากแดนกินจิ (เกาหลีใต้) หรือถ้าในภาษาบ้านเรา มันก็คือน้ำแข็งขูดดี ๆ นี่แหละ เพียงแค่เพิ่มท็อปปิ้งโรยหน้าดี ๆ เท่านั้น จัดไปหนึ่งถ้วยในราคาเบา ๆ (กระเป๋าเบาเลยตู)
โว้ววววววว....แฟนเรียกบิงซูมะม่วง เราเรียกน้ำแข็งขูดใส่ลูกม่วง
เดินมาถึงโซนหลัก นั่นคือ "อาหารทะเล" มีร้านมากมายตะโกนเรียกแย่งลูกค้ากัน โดยอาหารส่วนใหญ่แต่ละร้านก็จะเหมือน ๆ กันหมด อย่างเช่น ยำไข่แมงดา ยำทะเล กุ้งย่าง ปลาย่าง Texture หน้าตาของอาหารส่วนใหญ่ก็ตกแต่งในแบบเดียวกันหมด เหมือน Copy กันมาเลย
ยำไข่แมงดา ราคาไม่แพงมาก
ผัดไทยหอยทอด สด ๆ ร้อน ๆ รอรับได้หน้าเตา
หมึกไข่ตัวโต ๆ สักคำคงจะฟินไม่น้อย
กลิ่มหอมของไข่หมึก ได้กลิ่นแล้วรสชาติตามมาทันที นึกถึงตอนเคี้ยวดังกรุบ ๆ มันอร่อยอย่างบอกไม่ถูก
"ปลากระพงนึ่งมะนาว" เมนูเด็ดแห่งอาหารทะเล วางเรียงรายพร้อมเสิร์ฟทันที
เราเกิดมาคู่กัน
กุ้งย่างตัวเติบ ๆ ยั่วน้ำลายเราดีจัง
เดินผ่านแต่ละร้านมา เกิดอาการท้องร้องจ๊อก ๆ มีกลิ่มหอมคุ้น ๆ มาแตะจมูก...เดินมาดู ถึงบางอ้อพร้อมอุทาน "ว่าแล้ว" ปลาซาบะถูกนำมาย่างในงานเทศกาลอาหารสองทะเลด้วยนะเออ
เวทีใหญ่เทศกาลอาหารสองทะเล มีการประกวดนายแบบ นางแบบ และการแสดงมากมาย สร้างสีสันให้กับงานได้อย่างครึกครื้น รวมไปถึงเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมปักษ์ใต้บ้านเราอีกด้วย
ปูสด ปูเป็นเป็น ปูเป็นปู
จ๊อปูของแท้ ต้องมีกระดอง!!! เป็นเมนูทานเล่นรสเลิศ ในราคา 3 ตัว 100 บาท รสชาติกับราคาถือว่าเหมาะสม อร่อยและหอมกรุ่น
กุ่ยช่ายทอดสูตรโบราณ มาในรูปสี่เหลี่ยม ไม่ใช่รูปกลม ๆ เหมือนที่เราเห็นทั่ว ๆ ไป
ไหวไหมลูก!! คนเริ่มเยอะอากาศก็ยิ่งร้อน ยิ่งแออัด สงสารเด็กตัวเล็ก ๆ เหงื่อแบบเยอะอ่ะ
หอยแมลงภู่อบเนย อบกระเทียม และชีส โอ้ยยยยยยย....อยาก
มาดูร้านนี้กันดีกว่า ... ร้านนี้ประกอบไปด้วยเมนูอาหารทะเลนานาชนิด นำไปยำ ปรุง แค่เห็นแผงอาหารสด บริเวณหน้าร้านก็ฟินมากแล้ว ไม่ต้องนึกถึงตอนปรุงเสร็จเรียบร้อย จะฟินเวอร์ขนาดไหน ไข่แมงดานำมาถูกวางกองไว้ อยากจะเอื้อมมือไปคว้ามาสักกำ แล้วจับยัดใส่ปาก ข้าง ๆ เป็นปูสด ๆ นับร้อยนับพันวางกองรวมกันอยู่ พระเจ้า นี่มันสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลชัด ๆ
หอยแครง หอยแมลงภู่ และแมงกระพรุน ก็มีให้เลือกซื้อนะ
"รวมญาติ" อาหารทะเลนานาชนิด
แวะมาดื่มน้ำผลไม้ปั่น ของกลุ่มวัยรุ่นเงินล้านกันซะหน่อย แก้วร้านนี้ดูแปลกตาดีนะ
โซนมอเตอร์โชว์ก็มีนะ ขายทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์จากบริษัทชั้นนำของสงขลา
หลาย ๆ ครั้งที่มีโอกาสได้มาเที่ยวตลาดในเมืองสงขลา ไม่ว่าจะเป็นหลาด 2 เล สงขลาแต่แรก และแม้กระทั่งงานนี้ ผมก็จะมักพบชายหนุ่มผู้มีใจรักในศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ผู้นี้อยู่เสมอ เขาถ่ายทอดศิลปะของภาคใต้ ด้วยการเชิดหนังตะลุง พากย์สด เชิดสด แสดงกันสด ๆ ตรงข้างถนนกันเลย โดยเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ ก็จะเป็นสถานการณ์บ้านเมือง ข่าวประจำวัน เรื่องในกระแส พร้อมทั้งสอดแทรกข้อคิดและมุขตลกอยู่เสมอ ใครที่รักในศิลปะบ้านเรา ก็ช่วยกันสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้น้องเขาหน่อยล่ะกันนะครับ
"ชาหลา" ชาบนรถโฟล์ค
กาละแมใบเตยน่ารับประทานมากนะบอกเลย
"เปลวเพลิงแสนอร่อย" หนวดหมึกจำนวนสิบ ๆ ไม้ ถูกวางเรียงรายอยู่บนเตาถ่าน ไฟแดง ๆ และเปลวเพลิง กำลังสัมผัสเจ้าหนวดสีเหลือง พลันส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณใกล้เคียง ใจเราก็อดไม่ได้ ก็เลยต้องขอแวะชิม สักไม้สองไม้หน่อยละกัน
"ขนมพิมพ์" หรือ "วาฟเฟิลไทยแลนด์" น่ากินใช่ไหม
ขนมโป๊งเหน่งหรือขนมลูกตุ้มทอดสด ๆ ทำจากแป้งหนาๆ เคลือบไส้กรอก
ไข่ปลาทะเลน้อยทอดสด ๆ ข้าง ๆ เป็นแกงหอยจุ๊บ หากินได้ยากแล้วหวางนี้
จำได้หม้ายยย "น้ำแข็งบอก" มันเด็ดตรงวิธีการทำ
น้ำแข็งกระบอกหลากสีสัน ถูกทำมาจากน้ำอัดลมแช่แข็ง อย่างไรก็ดี มันช่วยทำให้คลายร้อนได้มากเลยทีเดียว
เดินไปเดินมาก็ย้อนกลับมาโซนสวยสนุกและงานวัด เด็กมากมายต่างวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน มีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง เครื่องเล่นนานาชนิดยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีเยี่ยม แม้เวลาตอนนี้จะเกือบสี่ทุ่มแล้วก็ตาม คนขายบัตรเองก็ยังคงยิ้มแย้ม คอยฉีกตั๋วแห่งความสุขส่งมอบให้เด็ก ๆ อยู่ตลอด
คนหายไปไหน??
สนุกอยู่คนเดียวเลยเจ้าหนู
โซนสวนสนุกสุดหรรษา คลาคล่ำไปด้วยเด็ก ๆ และวัยรุ่นจำนวนนับร้อยนับพัน
ชายผู้สร้างความหวาดเสียวให้เด็ก ๆ รูปนี้แอบหลอนหน่อย ๆ
กำลังจะเดินไปที่รถ แต่แฟนก็ฉุกคิดขึ้นมาว่าตัวเองอยากเล่นเครื่องเล่น Crazy Wave งานเข้ากระผมตัวโต ๆ เลยครับ เพราะผมไม่ชอบรายการอะไรแบบนี้เท่าไหร่ (กลัวความสูง) สุดท้ายก็ต้องจำไว้ ขึ้นไปเล่นเจ้าเครื่องเล่นมรณะตัวนี้ และนี่คือภาพสุดท้ายที่ผมได้ถ่ายในงาน เพราะหลังจากลงมา ขาก็สั่น มือก็สั่น ทุกอย่างที่กินมา ก็ออกเพ่นพ่านอยู่บนพื้นเลยครับ โดยสิ่งที่อับอายที่สุด คือเด็กประมาณ10-12 ขวบ สะกิดผมแล้วถามว่า "พี่ไหวมั๊ย" แชรดดดดด อยากแทรกแผ่นดินหนี...เป็นอันปิดทริปอาหารสองทะเลได้อย่างทุลักทุเล
ปล.ใครยังไม่ได้ไปต้องไปลองนะครับ โดยงานนี้จะจัดถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้เท่านั้น!!!
หาดใหญ่ | เปิดใหม่!! คาเฟ่สุดชิค โทนขาว-ดำ "Beans and Brew"
9 มิถุนายน 2568 | 55หาดใหญ่ | อร่อยแซ่บมาก!! "ข้าวคลุกน้ำพริก" หลาดลุงผุด สูตรเด็ด 10 ปี
8 มิถุนายน 2568 | 216หาดใหญ่ | แปะพิกัด!! ร้านอาหารสุดชิลล์ วิวธรรมชาติ "สวนพร้าว - อาหารพื้นบ้าน ควนลัง"
25 พฤษภาคม 2568 | 1,030คุ้มแรง!! ต่อให้กรีดหัวใจออกมา ก็เจอแต่บุฟเฟ่ต์ AKA เท่านั้น เริ่มต้นเพียง 229+
18 มีนาคม 2568 | 2,227หาดใหญ่ | ชี้พิกัด! คาเฟ่เปิดใหม่ "CannaCafe Hatyai" คอชากาแฟห้ามพลาด
22 มกราคม 2568 | 2,243หาดใหญ่ | ของหรอยตลาดพ่อพรหม "ข้าวหมกไก่อบ" ขายวันละ 50 ตัว
21 มกราคม 2568 | 1,692ไปกันยัง? บาร์ราเมงหาดใหญ่ สตรีทฟู้ดริมหนน "Nana Ramen"
7 มกราคม 2568 | 1,581รัตภูมิ | ไปกันยัง? ร้านอาหารอีสาน ฟิวบ้านสวน "มัลเบอร์รี่แลนด์ รัตภูมิ"
17 ธันวาคม 2567 | 2,482